Abstract
การวิจัยและพัฒนา ประยุกต์ใช้วิธีการวิจัยเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์และสังเคราะห์องค์ประกอบของสมรรถนะและแนวทางการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะของแกนนำชมรมผู้สูงอายุรุ่นใหม่ พัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะของแกนนำชมรมผู้สูงอายุรุ่นใหม่ และติดตามประเมินผลการใช้นวัตกรรมการเรียนรู้ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นจากการทดลองใช้ ขั้นการวิจัยเก็บข้อมูลด้วยการศึกษาเอกสาร การถอดบทเรียนจากแนวปฏิบัติที่ดีในพื้นที่ และการประเมินของผู้เชี่ยวชาญ เครื่องมือที่ใช้คือ แบบศึกษาเอกสาร แบบสัมภาษณ์เชิงลึก แนวทางการสนทนากลุ่ม และแบบประเมินชนิดมาตรประมาณค่า 5 ระดับ ผู้ให้ข้อมูล คือ แกนนำชมรมผู้สูงอายุรุ่นเก่า แกนนำชมรมผู้สูงอายุรุ่นใหม่ สมาชิกชมรมผู้สูงอายุ ภาคีเครือข่ายชมรมผู้สูงอายุ จำนวน 60 คน และผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 20 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา ค่าเฉลี่ย ร้อยละ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ขั้นการพัฒนาเก็บข้อมูลด้วยการทดลองใช้นวัตกรรมการเรียนรู้ กลุ่มตัวอย่าง คือ แกนนำชมรมผู้สูงอายุรุ่นใหม่ชมรมผู้สูงอายุตำบลวังน้ำเขียว จำนวน 20 คน เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบทดสอบก่อน-หลัง แบบประเมินทักษะ แบบประเมินคุณลักษณะเชิงพฤติกรรม และแบบประเมินความพึงพอใจในการร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพื้นฐาน ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัย พบว่า 1) องค์ประกอบของสมรรถนะของแกนนำชมรมผู้สูงอายุ แบ่งเป็น 3 ด้าน คือ ด้านความรู้ ด้านทักษะ และด้านคุณลักษณะเชิงพฤติกรรม แนวทางการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะของแกนนำชมรมผู้สูงอายุรุ่นใหม่ แบ่งเป็น 5 ด้าน คือ ผู้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ ประเภทของกิจกรรมการเรียนรู้และเนื้อหา วิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สื่อและเทคโนโลยี และวิธีการวัดผลประเมินผล 2) นวัตกรรมการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะของแกนนำชมรมผู้สูงอายุรุ่นใหม่ แบ่งเป็น 4 ประเภท คือ องค์ประกอบสมรรถนะของแกนนำชมรมผู้สูงอายุรุ่นใหม่ แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ และคู่มือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะของแกนนำชมรมผู้สูงอายุรุ่นใหม่ 3) ผลการประเมินร่างนวัตกรรมการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะของแกนนำชมรมผู้สูงอายุรุ่นใหม่ โดยผู้เชี่ยวชาญ พบว่า ในภาพรวมเหมาะสมกับผู้เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ ( x?= 4.85) และมีประโยชน์สำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ (x? = 4.70) ในระดับมากที่สุด โดยองค์ประกอบของกิจกรรมการเรียนรู้มีความสอดคล้องกันโดยมีค่า IOC มากกว่า 0.50 4) ผลการทดลองใช้นวัตกรรมการเรียนรู้ พบว่า คะแนนการประเมินผลทางด้านความรู้หลังเข้าร่วมกิจกรรมของกลุ่มตัวอย่าง (x? =17.30) สูงกว่าคะแนนการประเมินผลด้านความรู้ก่อนการเข้าร่วมกิจกรรม (x? =12.75) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 กลุ่มตัวอย่างทั้งหมดผ่านเกณฑ์การประเมินและมีคะแนนอยู่ในระดับดี และผู้ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้มีความพึงพอใจต่อกิจกรรมการเรียนรู้ในระดับมากที่สุด ผลการพิจารณาคำอธิบายสมรรถนะหลักและพฤติกรรมบ่งชี้ของแกนนำชมรมผู้สูงอายุ แบ่งเป็น สมรรถนะหลัก 5 ข้อ สมรรถนะในการบริหารสำหรับแกนนำชมรมผู้สูงอายุ 5 ข้อ และสมรรถนะตามตำแหน่งงานของผู้ปฏิบัติงาน 5 ข้อ และ 5) ผลการติดตามประเมินผล พบว่า นวัตกรรมการเรียนรู้ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมีความเหมาะสมสอดคล้องกับบริบทจริงและเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ
Publisher
Faculty of Education, Chulalongkorn University
DOI
10.58837/CHULA.EDUCU.45.1.12
First Page
194
Last Page
210
Recommended Citation
สัจจโสภณ, ระวี
(2017)
"การพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะของแกนนำชมรมผู้สูงอายุรุ่นใหม่,"
Journal of Education Studies: Vol. 45:
Iss.
1, Article 12.
DOI: 10.58837/CHULA.EDUCU.45.1.12
Available at:
https://digital.car.chula.ac.th/educujournal/vol45/iss1/12