Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
Year (A.D.)
2017
Document Type
Independent Study
First Advisor
วิโรจน์ วาทินพงศ์พันธ์
Faculty/College
Faculty of Law (คณะนิติศาสตร์)
Degree Name
ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
กฎหมายเศรษฐกิจ
DOI
10.58837/CHULA.IS.2017.54
Abstract
ธุรกิจบริการจัดสรรเวลาเข้าใช้สถานที่พักเป็นธุรกิจที่มีลักษณะเฉพาะ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีการ ผสมผสานทั้งในด้านธุรกิจโรงแรม การท่องเที่ยว รวมไปถึงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เข้าไว้ด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีความหลากหลายในเรื่องประเภทและรูปแบบของผลิตภัณฑ์ในธุรกิจบริการจัดสรรเวลา (ไทม์แชร์) ทำให้ธุรกิจบริการจัดสรรเวลาเข้าใช้สถานที่พักมีความจำเป็นที่จะต้องมีกฎหมายเพื่อการ บังคับใช้เป็นการเฉพาะ อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันมีการร้องเรียนจากผู้บริโภคเป็นจำนวนมากในกรณี ปัญหาการใช้บริการจองที่พักเหล่านี้ ที่พนักงานขายพยายามใช้กลยุทธ์ต่างๆในการขาย เพื่อให้ปิดการ ขายได้ ส่งผลให้ผู้บริโภคเสียเงินทำสัญญาเพื่อใช้บริการธุรกิจการจัดสรรวันพักผ่อนเป็นจำนวนมาก และสัญญาเหล่านี้มักมีผลผูกพันเป็นระยะเวลาค่อนข้างนาน แต่เมื่อผู้บริโภคมีความประสงค์ที่จะขอใช้ สิทธิเข้าใช้บริการดังกล่าว กลับใช้บริการไม่ได้หรือไม่เป็นไปตามที่พนักงานได้โฆษณาไว้ ซึ่งในบางครั้ง สิทธิในการบอกเลิกสัญญาของผู้บริโภคนั้นได้หมดระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนดไว้แล้ว จากการศึกษาข้อเท็จจริงและมาตรการทางกฎหมาย ผู้วิจัยพบว่า สำหรับประเทศไทยแม้ว่า สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคได้ออกประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจ การให้บริการจัดสรรเวลาเข้าใช้สถานที่พักเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ. 2556 แล้วนั้น แต่ยังไม่ สามารถคุ้มครองผู้บริโภคได้อย่างเหมาะสม เนื่องจากมาตรการดังกล่าวเป็นเพียงการคุ้มครองผู้บริโภค ในช่วงระยะเวลาทำสัญญา แต่ยังไม่มีมาตรการที่คุ้มครองผู้บริโภคในช่วงระยะเวลาก่อนทำสัญญาและ ช่วงระยะเวลาหลังทำสัญญาอย่างเหมาะสม ในขณะที่กฎหมายของต่างประเทศทั้งในส่วนของสหภาพ ยุโรป สหราชอาณาจักร และประเทศออสเตรเลีย มีบทบัญญัติในเรื่องของการคุ้มครองผู้บริโภคใน ธุรกิจการให้บริการจัดสรรเวลาเข้าใช้สถานที่พักที่ครอบคลุมตั้งแต่ช่วงระยะเวลาก่อนทำสัญญา ตลอดจนถึงช่วงระยะเวลาหลังทำสัญญา จากผลการศึกษาแนวทางการพัฒนามาตรการทางกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคในธุรกิจจัดสรร เวลาเข้าใช้สถานที่พักในประเทศไทย เพื่อให้ปัญหาที่ผู้บริโภคได้รับความเสียหายจากธุรกิจจัดสรร เวลาเข้าใช้สถานที่พักในประเทศในปัจจุบันได้รับการแก้ไขอย่างเหมาะสมและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ผู้วิจัยจึงมีข้อเสนอแนะให้มีการปรับปรุงและแก้ไขประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจ การให้บริการจัดสรรเวลาเข้าใช้สถานที่พักเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ. 2556 ให้ครอบคลุมตั้งแต่ ช่วงระยะเวลาก่อนการเข้าทำสัญญาตลอดตนถึงช่วงระยะเวลาหลังการเข้าทำสัญญา
Creative Commons License
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
ศรีสรรค์, นันทรัตน์, "แนวทางการพัฒนามาตรการทางกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคในธุรกิจจัดสรรเวลาเข้าใช้สถานที่พักในประเทศไทย" (2017). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 6804.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/6804