Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

มาตรการทางกฎหมายในการคุ้มครองผู้ถือหุ้น

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Legal measures for the shareholders protection

Year (A.D.)

1982

Document Type

Thesis

First Advisor

สุธาบดี สัตตบุศย์

Second Advisor

นที ทองดี

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

นิติศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

นิติศาสตร์

DOI

10.58837/CHULA.THE.1982.319

Abstract

โดยเป็นที่ตะหนักอยู่แล้วว่าในปัจจุบันนี้ สภาวะทางเศรษฐกิจการค้าของประเทศไทยยิ่งนับวันก็จะยิ่งขยายตัวออกไปอย่างไม่จำกัด ประชาชนมีความสนใจที่จะเข้าร่วมทุนกันเพื่อประกอบกิจการค้ามากขึ้นเป็นลำดับ โดยนิยมประกอบกิจการร่วมกันในรูปบริษัทจำกัด แต่กฎหมายเกี่ยวกับบริษัทจำกัด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พุทธศักราช 2468 อันเป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับบริษัทที่ใช้มากที่สุดในประเทศไทยยังไม่มีมาตรการที่รัดกุมดีพอในการที่จะให้ความคุ้มครองแก่ผู้ถือหุ้นในบริษัท แม้รัฐจะได้ตราพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2521 ออกมาใช้บังคับโดยมีเจตนารมณ์ที่จะให้เป็นกฎหมายที่ใช้สำหรับการประกอบกิจการในรูปบริษัทของประชาชนหมู่มากโดยได้วางมาตรการในการให้ความคุ้มครองแก่ผู้ถือหุ้นในบริษัทได้อย่างเหมาะสมพอสมควร ใกล้เคียงกับกฎหมายของประเทศที่พัฒนาแล้วก็ตาม แต่ในปัจจุบันประชาชนเกือบทั้งหมดก็ยังคงยึดมั่นในการจัดตั้งบริษัทเป็นบริษัทเอกชนจำกัด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เช่นเดิม ไม่ว่าจะเป็นกิจการขนาดใด เมื่อเป็นเช่นนี้แทนที่รัฐจะเล็งเห็นความสำคัญของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ลักษณะหุ้นส่วนบริษัท โดยเร่งรีบดำเนินการปรับปรุงให้เป็นกฎหมายที่ให้ความคุ้มครองแก่ประชาชนอย่างแท้จริง รัฐก็หาได้ดำเนินเช่นว่านั้นไม่ การศึกษาในครั้งนี้จึงเป็นการมุ่งพิจารณาถึงมาตรการทางกฎหมายที่จะนำมาใช้ในการคุ้มครองผู้ถือหุ้นในบริษัทให้ได้ผลดีที่สุด โดยมุ่งเน้นถึงความสัมพันธ์ระหว่างผู้ถือหุ้นกับกรรมการและการจัดการงานของบริษัทเป็นสำคัญ โดยผู้เขียนอาศัยหลักที่ว่าการที่ผู้ถือหุ้นจะได้รับความคุ้มครองและสามารถบรรลุสู่เป้าหมายตามวัตถุประสงค์ของการเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทให้ได้เป็นผลสำเร็จนั้น ก็จำต้องให้ผู้ถือหุ้นมีสิทธิและอำนาจในการเข้าควบคุมคณะกรรมการและการจัดการงานของบริษัทได้อย่างเต็มที่ ยิ่งผู้ถือหุ้นมีความใกล้ชิดกับการจัดการงานของบริษัทมากเท่าใดผู้ถือหุ้นก็จะได้รับความคุ้มครองมากขึ้นเท่านั้น นอกจาก จะให้อำนาจควบคุมสุดท้ายอยู่กับผู้ถือหุ้นแล้ว ยังจะต้องมีมาตรการที่ทำให้ผู้ถือหุ้นสามารถใช้อำนาจนั้นๆ ได้อยู่ตลอดเวลาด้วย อีกทั้งจะต้องไม่เป็นการก่อให้เกิดภาระแก่ผู้ถือหุ้นมากจนเกินควร ผู้เขียนเห็นว่า องค์กรในการควบคุมการดำเนินงานของบริษัทที่จะให้ได้ผลดีที่สุด จะต้องเป็นองค์กรภายในตัวของบริษัทเอง มิใช่เป็นองค์กรจากภายนอกบริษัทซึ่งเป็นเพียงส่วนประกอบเท่านั้น นอกจากนี้ในการศึกษาดังกล่าว ยังได้รวมถึงการวิเคราะห์ถึงตัวบทกฎหมายที่มีใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยเปรียบเทียบกับกฎหมายของต่างประเทศว่ามีความเหมาะสมเพียงพอแล้วหรือไม่อย่างไร เพื่อจะได้เป็นแนวทางในการที่รัฐจะดำเนินการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายในโอกาสต่อไป

ISBN

9745614173

Share

COinS