Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

บทบาทของหน่วยงานรัฐบาลในการให้การศึกษาแก่สตรีไทย เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Roles of governmental organizations in educating Thai women for economic and social development

Year (A.D.)

1984

Document Type

Thesis

First Advisor

ดวงเดือน พิศาลบุตร

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

วิจัยการศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1984.271

Abstract

วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1.เพื่อศึกษาบทบาทของหน่วยงานรัฐบาลในการให้การศึกษาแก่สตรีไทยเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคม 2.เพื่อศึกษาความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานรัฐบาลเกี่ยวกับบทบาทของหน่วยงานใน การศึกษาแก่สตรีไทยเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคม 3.เพื่อศึกษาปัญหาและอุปสรรคของหน่วยงานรัฐบาลในการให้การศึกษาแก่สตรีไทยเพื่อ พัฒนาเศรษฐกิจและสังคม วิธีดำเนินการวิจัย การวิจัยครั้งนี้ใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบพรรณนาวิเคราะห์ คือการวิจัยเอกสารและสำรวจ ตัวอย่าง ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ได้แก่ เจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐบาล 10 แห่ง จำนวน 242 คน โดยการสุ่มตัวอย่างแบบง่ายจากหน่วยงานรัฐบาลที่มีบทบาทในการให้การศึกษาแก่สตรี เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามแบบเลือกตอบและมาตราส่วนประเมินค่า วิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีการทางสถิติ โดยหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัย 1.เจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐบาลมีความเห็นว่าหน่วยงานรัฐบาลมีบทบาทในการให้การศึกษาแก่ สตรีเพื่อส่งเสริมการประหยัดในระดับมากในด้านคหกรรม การประดิษฐ์สิ่งของจากวัสดุเหลือใช้ 2.เจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐบาลมีความเห็นว่าหน่วยงานรัฐบาลมีบทบาทในการให้การศึกษาด้าน อาชีพเพื่อส่งเสริมการเพิ่มพูนรายได้ในระดับมากในด้านคหกรรม หัตถกรรม และอุตสาหกรรมในครอบครัว 3.เจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐบาลมีความเห็นว่าหน่วยงานรัฐบาลมีบทบาทในการให้การศึกษาด้าน อาชำเพื่อให้ยึดเป็นอาชีพในระดับมากในด้านคหกรรม 4.เจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐบาลมีความเห็นว่าหน่วยงานรัฐบาลมีบทบาทในการให้การศึกษาเพื่อ พัฒนาสังคมในระดับน้อย 5.เจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐบาลมีความเห็นว่าหน่วยงานรัฐบาลมีปัญหาและอุปสรรคในการให้ การศึกษาแก่สตรีไทยในระดับมากในเรื่อง (1) มีขั้นตอนในการปฏิบัติงานมาก ใช้เวลานาน (2)ขาดการร่วมมือประสานงานกันอย่างแท้จริง (3)งบประมาณในการดำเนินงานไม่เพียงพอ (4)ไม่มีการนำผลการประเมินการประเมินงานมาใช้ปรับปรุงงาน (5)ผู้บังคับบัญชาไม่เข้าใจการทำงานอย่างแท้จริง (6)หาตลาดยาก (7)ไม่สามารถจัดสรรงบประมาณให้ เมาะสมกับความต้องการของแต่ะหน่วยงานและท้อง ที่ได้ (8)สตรีไม่มีเวลามารับการฝึกอบรม (9)สตรีไม่เห็นความสำคัญ และไม่สนใจมารับการอบรม (10)บุคลากรมีความรับผิดชอบในหน้าที่หลายอย่าง (11)ขาดบุคลากรติดตามผล

Share

COinS