Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาทักษะการพันกระชับไหล่ ของนักศึกษาแพทย์ ระหว่างวิธีการสาธิตแบบรวมและแบบแยก โดยใช้เทปบันทึกภาพ

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

A comparison of learning skill in shoulder strapping of medical students between whole and part demonstration methods by using video tape

Year (A.D.)

1984

Document Type

Thesis

First Advisor

สุวิมล วัชราภัย

Second Advisor

ยงยุทธ วัชรดุลย์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

โสตทัศนศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1984.46

Abstract

วัตถุประสงค์ของการวิจัย เพื่อศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการฝึกพันกระชับไหล่ของนักศึกษาแพทย์ ระหว่างวิธีการสาธิตรวม และวิธีการสาธิตแบบแยก โดยการเรียนจากเทปบันทึกภาพ การดำเนินการวิจัย ผู้วิจัยสร้างเทปบันทึกภาพเรื่อง การสาธิตทักษะการพันกระชับไหล่ มีจำนวน 2 ม้วน โดยวิธีการสาธิต 2 วิธี ม้วนแรกเป็นการสาธิตแบบรวม โดยสาธิตทักษะอย่างต่อเนื่องไปทีเดียวหมดทุกขั้นตอน ความยาวของเทปม้วนนี้ 6.12 นาที และม้วนที่สอง เป็นการสาธิตแบบแยกโดยสาธิตทักษะทีละขั้นตอน แล้วมีการเว้นช่วงเวลาให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติตามไปในแต่ละขั้นตอนความยาวของเทปม้วนนี้ 8.48 นาที ผู้วิจัยได้สร้างแบบประเมินทักษะสำหรับประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้เรียน ซึ่งเมื่อทำการประเมินค่าความเที่ยงของแบบประเมินแล้วได้ค่าเท่ากับ .88 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ นักศึกษาแพทย์ ชั้นปีที่ 5 จำนวน 57 คน คณะแพทยศาสตร์ศิริราช มหาวิทยาลัยมหิดล ปีการศึกษา 2526 – 2527 ผู้วิจัยแบ่งกลุ่มนักศึกษาแพทย์ เป็น 2 กลุ่ม โดยแบ่งจากกลุ่มนักศึกษาแพทย์ซึ่งแผนการศึกษา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้จัดกลุ่มให้มาปฏิบัติงานที่ภาควิชาศัลยศาสตร์ออร์โธปิติคส์และกายภาพบำบัดกลุ่มที่ 1 จำนวน 27 คน เรียนจากเทปบันทึกภาพโดยวิธีการสาธิตแบบรวม และกลุ่มที่ 2 จำนวน 30 คน เรียนจากเทปบันทึกภาพโดยวิธีการสาธิตแบบแยก หลังจากเรียนจากเทปบันทึกภาพจบแล้ว ให้นักศึกษาแพทย์ทั้ง 2 กลุ่ม ฝึกปฏิบัติด้วยตนเอง โดยใช้เวลา 10 นาทีหลังจากนั้นได้ทำการประเมินผลการปฏิบัติงานของนักศึกษาแพทย์แต่ละกลุ่มทันที โดยมีอาจารย์ผู้สอนทักษะนี้เป็นผู้ประเมิน ผู้วิจัยได้เก็บข้อมูลและวิเคราะห์คะแนนผลสัมฤทธิ์ของงานและคะแนนขั้นตอนการกระทำของนักศึกษาแพทย์ทั้ง 2 กลุ่ม โดยการทดสอบค่าที (t) ผลการวิจัย จากการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเปรียบเทียบคะแนนผลสัมฤทธิ์ของงานนักศึกษาแพทย์ระหว่างกลุ่มที่เรียนจากเทปบันทึกภาพ โดยวิธีการสาธิตแบบรวมและแบบแยก นั้น ปรากฏผลไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และจากการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเปรียบเทียบคะแนนขั้นตอนการกระทำของนักศึกษาแพทย์ทั้ง 2 กลุ่มดังกล่าว ก็ปรากฏผลไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เช่นเดียวกัน

Share

COinS