Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การเปรียบเทียบผลของการให้ออกซิเจนด้วยวิธีต่างกันก่อนการดูดเสมหะ ต่อระดับความดันออกซิเจนในเลือดแดงของผู้ป่วยหลังผ่าตัดหัวใจแบบเปิด

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

A comparison of effect of oxygenation method administered before suctioning of secretion to oxygen partial pressure level in aterial blood in patients with open heart operation

Year (A.D.)

1984

Document Type

Thesis

First Advisor

สมคิด รักษาสัตย์

Second Advisor

วรรณา สมบูรณ์วิบูลย์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

พยาบาลศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1984.139

Abstract

การวิจัยนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเปรียบเทียบผลของการให้ออกซิเจนด้วยวิธีต่างกัน ก่อนการดูดเสมหะ ต่อระดับความดันออกซิเจนในเลือดแดงก่อนและหลังการดูดเสมหะของผู้ป่วยหลังผ่าตัดหัวใจแบบเปิด สุ่มตัวอย่างประชากรโดยวิธีเจาะจง (purposive sampling) ดังนี้ คือเป็นผู้ป่วยหลังผ่าตัดหัวใจแบบเปิด ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ มีอายุระหว่าง 20-50 ปี เป็นผู้ป่วยหลังผ่าตัดระยะ 1-6 ชั่วโมงแรก กำลังได้รับการรักษาด้วยเครื่องช่วยหายใจแบบเบนเนท เอมเอวัน ตัวอย่างประชากร 20 คน ตัวอย่างประชากรได้รับการทดลองทั้ง 4 วิธี ก่อนหลังโดยวิธีจับฉลากแบบเลือกออก แต่ละวิธีทำการทดลองห่างกัน 1 ชั่วโมง วิธีทำการทดลองดังนี้คือ ดูดเลือดแดงเพื่อหาความดันออกซิเจนไว้ก่อนที่จะทำการทดลอง แล้วจึงให้ออกซิเจนด้วยวิธีต่างกัน 4 วิธี คือ วิธีที่ 1 ให้ออซิเจนความเข้มข้น 40-60 เปอร์เซ็นต์ วิธีที่ 2 ขยายปอดให้ปริมาตรไทดัล 1 เท่า รวม 3 ครั้ง ในเวลา 1 นาที พร้อมทั้งให้ออกซิเจนมีความเข้มข้น 40-60 เปอร์เซ็นต์ วิธีที่ 3 ให้ออกซิเจนความเข้มข้น 100 เปอร์เซ็นต์ ในเวลา 1 นาที วิธีที่ 4 ให้ออกซิเจน ความเข้มข้น 100 เปอร์เซ็นต์ พร้อมทั้งขยายปอดด้วยปริมาตรไทดัส เพิ่มขึ้น 1 เท่า 3 ครั้ง ในเวลา 1 นาที แล้วทำการดูดเสมหะ และภายหลัง 30 วินาที ทำการดูดเลือดแดงเพื่อหาความดันออกซิเจนในเลือดแดงอีกครั้งหนึ่ง นำค่าผลต่างของความดันก๊าซออกซิเจนในเลือดแดงระหว่างก่อนและหลังการดูดเสมหะมาเปรียบเทียบกันทั้ง 4 วิธี โดยใช้การวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบซ้ำ(Analysis of Variance for the two way classification with a repeated measure) แล้วจึงนำค่าเฉลี่ยมาเปรียบเทียบทีละคู่ โดยใช้สูตร นิวแมน คูลส์ ( Newman Keuls) ผลการวิจัยค่าเฉลี่ยของระดับความดันออกซิเจนในเลือดแดงก่อนหลังการดูดเสมหะ พบว่า วิธีที่ 1 และวิธีที่ 2 แตกต่างกัน แต่วิธีที่ 3 และวิธีที่ 4 แตกต่างกับวิธีที่ 1 และวิธีที่ 2 แต่ไม่แตกต่างกันเอง

Share

COinS