Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาการจัดการของอุตสาหกรรมนมข้นหวานในประเทศไทย

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

A study on management of the sweetened condensed milk industry in Thailand

Year (A.D.)

1984

Document Type

Thesis

First Advisor

วีระวัฒน์ ชุติมา

Second Advisor

สุมน มาลาสิทธิ์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

พาณิชยศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

พาณิชยศาสตร์

DOI

10.58837/CHULA.THE.1984.403

Abstract

การศึกษาการจัดการของอุตสาหกรรมนมข้นหวานในประเทศไทยนี้มีจุดประสงค์เพื่อ:- 1. ศึกษาถึงวิธีการและผลกระทบของการจัดการที่มีต่อการดำเนินงานของอุตสาหกรรมนมข้นหวานในประเทศไทย พร้อมทั้งศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหา 2. ศึกษาทัศนคติของผู้บริหารก่อการจัดการของอุตสาหกรรมนมข้นหวานในประเทศไทย การศึกษานี้ได้ดังสมมติฐานว่า “กระบวนการจัดการที่ดีจะมีผลกระทบต่อการดำเนินงานของอุตสาหกรรมนมข้นหวานให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ผลจากการศึกษาทราบว่า 1. บริษัทผู้ผลิตนมข้นหวานได้ดำเนินการตามกระบวนการจัดการจำแนกตามหน้าที่ดังที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย ทำให้ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม โดยพิจารณาจากการที่บริษัทสามารถขยายการผลิตสินค้าชนิดใหม่มากขึ้นหลายชนิด จนต้องขยายโรงงานแต่อัตราการใช้กำลังคนกลับเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยคือ อยู่ในช่วง -10.28% ถึง 14.18% เท่านั้น อัตราการเข้าออกของพนักงานอยู่ในเกณฑ์ระดับต่ำและที่สำคัญคือสถาบันการเงินภายในประเทศทุกแห่งยินดีสนับสนุนให้สินเชื่อกับบริษัทผู้ผลิตนมข้นหวานเหล่านี้ อย่างไรก็ดี การจัดการของบริษัทผู้ผลิตนมข้นหวานก็ยังคงมีปัญหาบางประการ ดังจะได้พิจารณาในแต่ละด้านดังนี้ด้านการเงิน โครงสร้างของเงินทุนของบริษัทผู้ผลิตนมข้นหวานโดยเฉลี่ยแล้วจะประกอบด้วยทุนที่มาจากหนี้สินระยะสั้นประมาณ 65% ทุนเรือนหุ้น 15% และกำไรสะสมอีกร้อยละ 20 ส่วนหนี้สินระยะยาวมีน้อยมาก ฉะนั้นในช่วงที่บริษัทผู้ผลิตนมข้นหวานเกือบทุกแห่งขยายการผลิตสินค้าชนิดใหม่หลายชนิดนั้น จึงใช้หนี้สินระยะสั้นในการลงทุนทรัพย์สินถาวร ซึ่งนับได้ว่าเป็นการใช้เงินทุนที่ไม่เหมาะสม เพราะควรใช้หนี้สินระยะยาวแทนเพื่อบริษัทจะได้มีระยะเวลานานพอควรในการเตรียมตัวชำระหนี้ นอกจากนี้การที่บริษัทมีจำนวนหนี้สินระยะสั้นมากเกินไป ก็อาจทำให้บริษัทอยู่ในฐานะที่ไม่มั่นคงได้ ดังนั้น จึงควรพาทางแก้ไขโดยการเพิ่มเงินทุนส่วนของเจ้าของกิจการหรือกำไรสะสมให้มากขึ้น ด้านการตลาด ส่วนแบ่งตลาดภายในประเทศเป็นสิ่งที่บริษัทผู้ผลิตนมข้นหวานต่างพยายามที่จะยึดครองให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ดังจะเห็นได้ว่าในช่วง พ.ศ.2525-2527 บริษัทผู้ผลิตนมข้นหวานได้ทำการส่งเสริมการขายทั้งในด้านผู้บริโภคและร้านค้าอย่างมากมาย ส่วนปริมาณการส่งนมข้นหวานออกจำหน่ายต่างประเทศนั้นได้ลดน้อยลงดังใน พ.ศ. 2524 ปริมาณการส่งออกได้ลดลงจาก พ.ศ. 2523 ถึง 33.92% ซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่บริษัทผู้ผลิตนมข้นหวานไม่สามารถใช้กลยุทธทางการตลาดในตลาดต่างประเทศได้อันเนื่องมาจากต้นทุนการผลิตที่สูงและผู้สั่งซื้อในตลาดต่างประเทศมักคำนึงถึงราคาที่ถูกกว่าเป็นสำคัญ ด้านการผลิต บริษัทผู้ผลิตนมข้นหวานประสบปัญหาในด้านปริมาณการผลิตที่ผลิตได้ไม่เต็มกำลังการผลิต เพราะปริมาณการผลิตจะต้องขึ้นอยู่กับยอดขายของบริษัท ต้นทุนการผลิตและวัตถุดิบเป็นสำคัญ ด้วยเหตุนี้บริษัทผู้ผลิตนมข้นหวานจึงต้องใช้กลยุทธทางการตลาด เพื่อเพิ่มยอดขายให้มากขึ้นและต้องหาทางลดต้นทุนการผลิตให้น้อยลง ด้านบุคลาการ โดยทั่วไปบริษัทผู้ผลิตนมข้นหวานต่างคำนึงถึงความปลอดภัยรายได้และการเจริญก้าวหน้าของพนักงานเป็นสำคัญ ดังนั้นพนักงานส่วนมากจึงเกิดความพอใจ ตั้งใจและเต็มใจทำงานให้กับบริษัทอย่างเต็มความสามารถ แต่ถึงกระนั้นผู้บริหารต่างพยายามที่จะหาวิธีการทำให้พนักงานทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ด้วยการทำให้พนักงานขาดงานน้อยลงกว่าที่เป็นอยู่ และมีความคิดว่าบริษัทควรมีหนังสือระเบียบข้อบังคับสำหรับพนักงาน เพื่อเป็นหลักในการปกครองพนักงานทุกคนของบริษัท 2. สำหรับการศึกษาทัศนคติของผู้บริหารที่มีต่อการจัดการนั้น ผู้บริหารทุกท่านมีความคิดเห็นว่า กระบวนการจัดการที่เป็นอยู่โดยดำเนินการตามกระบวนการจัดการจำแนกตามหน้าที่นั้นนับได้ว่าดีอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องดำเนินการให้รัดกุมยิ่งขึ้นเท่านั้น ฉะนั้นจากผลการศึกษาข้างต้น จึงทำให้ยอมรับสมมติฐานที่ตั้งไว้ว่า “กระบวนการจัดการที่ดีจะมีผลกระทบต่อการดำเนินงานของอุตสาหกรรมนมข้นหวานให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล"

Share

COinS