Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
การเปรียบเทียบค่านิยมทางวิชาชีพ ทางบริการ และทางราชการ ของนักศึกษาพยาบาลและที่มีระยะเวลาของประสบการณ์การปฏิบัติงาน ในคลีนิคแตกต่างกัน
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
A comparison of professional values, service-traditiona values and bureaucratic values of nursing students and nurses with different periods of clinical experience
Year (A.D.)
1984
Document Type
Thesis
First Advisor
จินตนา ยุนิพันธ์
Second Advisor
สมหวัง พิธิยานุวัฒน์
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
ครุศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
พยาบาลศึกษา
DOI
10.58837/CHULA.THE.1984.149
Abstract
การศึกษาครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษา ความสัมพันธ์ระหว่าง ค่านิยมทางวิชาชีพทางบริการ และทางราชการ ของนักศึกษาพยาบาลและพยาบาล ศึกษาและเปรียบเทียบค่านิยมทางวิชาชีพ ทางบริการ และทางราชการ ของนักศึกษาพยาบาลและพยาบาลที่มีระยะเวลาของประสบการณ์การปฏิบัติงานในคลีนิคแตกต่างกัน ศึกษาและเปรียบเทียบความขัดแย้งในการแสดงบทบาทพยาบาล ของนักศึกษาพยาบาลและพยาบาล ที่มีระยะเวลาของประสบการณ์การปฏิบัติงานในคลินิกแตกต่างกัน รวมทั้ง ศึกษาและเปรียบเทียบ ความขัดแย้งในการแสดงบทบาทพยาบาลของนักศึกษาพยาบาลและพยาบาล ที่มีระดับค่านิยมทางวิชาชีพและทางราชการแตกต่างกัน ตัวอย่างประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วย นักศึกษาพยาบาลปี 4 จำนวน 89 คน พยาบาลที่มีประสบการณ์ 1 ปี จำนวน 67 คน พยาบาลที่มีประสบการณ์ 2 ปี จำนวน 52 คน พยาบาลที่มีประสบการณ์ 3 ปี จำนวน 50 คน และพยาบาลที่มีประสบการณ์ 4 ปี จำนวน 42 คน จากสถาบันการศึกษาพยาบาลและโรงพยาบาลในสังกัดทบวงมหาวิทยาลัยทุกแห่ง ซึ่งได้มาโดยการสุ่มตัวอย่างแบบแยกประเภท เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นมาตรวัดซึ่งผู้วิจัยสร้างขึ้นเอง หาความตรงตามเนื้อหาโดยอาศัยการตัดสินของผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 8 ท่าน หาความเที่ยงของมาตรวัดโดยใช้สูตร สัมประสิทธิ์แอลฟ่า ได้ค่าความเที่ยงของมาตรวัด ค่านิยมทางวิชาชีพ 0.80 ค่านิยมทางบริการ 0.73 และค่านิยมทางราชการ 0.58 และหาความเที่ยงของมาตรวัดโดยใช้แบบสอบซ้ำ มาตรวัดทุกชุด ได้ค่าความเที่ยงประมาณ 0.7 ข้อมูลที่รวบรวมได้นำมาวิเคราะห์เพื่อหาค่าสหสัมพันธ์ ด้วยวิธีของเพียร์สัน ค่าสหสัมพันธ์บางส่วน และทดสอบนัยสำคัญของสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ ด้วยการทดสอบ ค่า ที การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยระหว่างคู่ ภายหลังการทดสอบความแปรปรวน โดยการทดสอบด้วยวิธี S-method ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1. ความสัมพันธ์ระหว่าง ค่านิยมทางวิชาชีพ ทางบริการ และทางราชการ ของนักศึกษาพยาบาลและพยาบาล 1.1 สำหรับนักศึกษาพยาบาล ปี 4 พบว่า เมื่อกำจัดอิทธิพลของค่านิยมทางบริการแล้ว ค่านิยมทางวิชาชีพ มีความสัมพันธ์ทางบวก ในระดับปานกลาง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับค่านิยมทางราชการ เมื่อกำจัดอิทธิพลของค่านิยมทางราชการแล้ว ค่านิยมทางวิชาชีพ ไม่มีความสัมพันธ์กับค่านิยมทางบริการ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ รวมทั้งเมื่อกำจัดอิทธิพลของค่านิยมทางวิชาชีพแล้ว ค่านิยมทางบริการมีความสัมพันธ์ทางบวก ในระดับปานกลาง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับค่านิยมทางราชการ 1.2 สำหรับพยาบาล พบว่า เมื่อกำจัดอิทธิพลของค่านิยมทางบริการแล้ว ค่านิยมทางวิชาชีพ ไม่มีความสัมพันธ์กับค่านิยมทางราชการ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เมื่อกำจัดอิทธิพลของค่านิยมทางราชการแล้ว ค่านิยมทางวิชาชีพ มีความสัมพันธ์ทางบวก ในระดับสูงมาก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ กับค่านิยมทางบริการ และเมื่อกำจัดอิทธิพลของค่านิยมทางวิชาชีพแล้ว ค่านิยมทางบริการ มีความสัมพันธ์ทางบวก ในระดับต่ำมาก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ กับค่านิยมทางราชการ 1.3 สำหรับกลุ่มนักศึกษาพยาบาลและพยาบาล พบว่า เมื่อกำจัดอิทธิพลของค่านิยมทางบริการแล้ว ค่านิยมทางวิชาชีพ ไม่มีความสัมพันธ์กับค่านิยมทางราชการอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เมื่อกำจัดอิทธิพลของค่านิยมทางราชการแล้ว ค่านิยมทางวิชาชีพ มีความสัมพันธ์ทางบวก ในระดับค่อนข้างสูง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ กับค่านิยมทางบริการ และเมื่อกำจัดอิทธิพลของค่านิยมทางวิชาชีพแล้ว ค่านิยมทางบริการ มีความสัมพันธ์ทางบวก ในระดับต่ำมาก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ กับค่านิยมทางราชการ 2. ผลการเปรียบเทียบ ค่านิยมทางวิชาชีพ ทางบริการ และทางราชการของนักศึกษาพยาบาล ปี 4 และพยาบาลที่มีระยะเวลาของประสบการณ์การปฏิบัติงานในคลินิก 1 ปี 2 ปี 3 ปี และ 4 ปี พบว่า นักศึกษาพยาบาล ปี 4 และพยาบาลที่มีประสบการณ์ 1 ปี 2 ปี 3 ปี และ 4 ปี มีค่านิยมทางวิชาชีพ ทางบริการ และทางราชการไม่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 3. ผลการเปรียบเทียบความขัดแย้งในการแสดงบทบาทพยาบาล ของนักศึกษาพยาบาล ปี 4 และพยาบาลที่มีระยะเวลาของประสบการณ์การปฏิบัติงานในคลินิก 1 ปี 2 ปี 3 ปี และ 4 ปี พบว่า นักศึกษาพยาบาล ปี 4 มีความขัดแย้งในการแสดงบทบาทพยาบาล สูงกว่า พยาบาลที่มีประสบการณ์ 1 ปี 2 ปี 3 ปี และ 4 ปี อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ส่วนกลุ่มพยาบาลที่มีประสบการณ์ 1 ปี 2 ปี 3 ปี และ 4 ปี มีความขัดแย้ง ในการแสดงบทบาทพยาบาล ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 4. ผลการเปรียบเทียบความขัดแย้งในการแสดงบทบาทพยาบาล ในกลุ่มนักศึกษาพยาบาลและพยาบาล ที่มีระดับค่านิยมทางวิชาชีพและค่านิยมทางราชการ แตกต่างกัน พบว่า กลุ่มผู้ที่มีค่านิยมทางวิชาชีพและค่านิยมทางราชการสูง กลุ่มผู้ที่มีค่านิยม ทางวิชาชีพสูงแต่มีค่านิยมทางราชการต่ำ มีความขัดแย้งในการแสดงบทบาทพยาบาลสูงกว่า กลุ่มผู้ที่มีค่านิยมทางวิชาชีพต่ำแต่มีค่านิยมทางราชการสูง และกลุ่มผู้ที่มีค่านิยมทางวิชาชีพและค่านิยมทางราชการต่ำ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
คิดประเสริฐ, นิภา, "การเปรียบเทียบค่านิยมทางวิชาชีพ ทางบริการ และทางราชการ ของนักศึกษาพยาบาลและที่มีระยะเวลาของประสบการณ์การปฏิบัติงาน ในคลีนิคแตกต่างกัน" (1984). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 53499.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/53499