Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
การใช้ประโยชน์จากแหล่งวิชาชุมชนของโรงเรียนประถมศึกษา ในจังหวัดอุบลราชธานี
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
The utilization of community resources of elementary schools in Ubon Ratchathanee Province
Year (A.D.)
1984
Document Type
Thesis
First Advisor
วารี ถิระจิตร
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
ครุศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
ประถมศึกษา
DOI
10.58837/CHULA.THE.1984.105
Abstract
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจการใช้ประโยชน์จากแหล่งวิชาชุมชน เกี่ยวกับขอบเขต ลักษณะการใช้ ปัญหา และความต้องการ ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของครูและผู้บริหารในระดับประถมศึกษาเพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นระหว่างครู ความคิดเห็นระหว่างผู้บริหาร สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติกับสังกัดคณะกรรมการการศึกษาเอกชนและสังกัดเทศบาล เกี่ยวกับใช้ประโยชน์จากแหล่งวิชาชุมชน กลุ่มตัวอย่างประชากรเป็นครูผู้สอนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 ปีการศึกษา 2523 เขตอำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี จากสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติจำนวน 318 คน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชนจำนวน 36 คน สังกัดเทศบาลจำนวน 6 คน และผู้บริหารจากโรงเรียนที่สุ่มได้จำนวน 60 คน โดยสุ่มตัวอย่างเจาะจง (Purosive Sampling) และแบบแบ่งชั้น (Stratified random Sapling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือแบบสอบถามแบบปลายเปิด และแบบตรวจสอบ (Check List) เกี่ยวกับขอบเขต ลักษณะการใช้ ปัญหา ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในการใช้แหล่งวิชาชุมชนประกอบการสอน ข้อมูลที่ได้นำมาวิเคราะห์หาค่าร้อยละ ลำดับที่และเปรียบเทียบการใช้ประโยชน์จากแหล่งวิชาชุมชนโดยการทดสอบค่าซี (Z-test) ที่ระดับความมีนัยสำคัญ .05 ปรากฏผลดังนี้ 1. ด้านขอบเขตและลักษณะการใช้แล่งวิชาชุมชน 1.1 ครูส่วนใหญ่ใช้สิ่งที่มีอยู่ตามธรรมชาติประกอบการสอนเรื่องสิ่งที่มีอยู่รอบตัวเรา ใช้สถานที่ประกอบการสอนเรื่องการทำมาหากิน โดยแนะนำหรือพานักเรียนไปร่วมกิจกรรม และใช้บุคคลประกอบการสอนโดยการแนะนำหรือพานักเรียนไปสัมภาษณ์บุคลากร ครูไม่ได้ใช้สิ่งที่มีอยู่ตามธรรมชาติประกอบการสอนเรื่องข่าว เหตุการณ์และวันสำคัญ กับเรื่องการสื่อสารและคมนาคม ไม่ได้ใช้สถานที่ประกอบการสอนเรื่องจักวาลและอวกาศ ไม่ได้ใช้บุคคลประกอบการสอนเรื่อง พลังงานและสารเคมีและเรื่องประเทศเพื่อนบ้านเลย 1.2 เวลาในการใช้แหล่งวิชาชุมชน ครูส่วนใหญ่ใช้เวลาเรียนในการไปศึกษานอกสถานที่ ฟังการบรรยาย ปาฐกถาและอภิปราย มีครูจำนวนร้อยละ 13.85 ไม่เคยพานักเรียนไปศึกษานอกสถานที่ และครูจำนวนร้อยละ 10.29 ไม่เคยพานักเรียนไปฟังการบรรยาย ปาฐกถา อภิปรายเลย 1.3 กิจกรรมที่ปฏิบัติก่อนและหลังการใช้แหล่งวิชาชุมชน ครูส่วนใหญ่ก่อนไปได้ให้คำแนะนำนักเรียนเกี่ยวกับวิธีใช้ประโยชน์จากแหล่งวิชาชุมชน และอภิปรายเรื่องที่จะไปศึกษา เมื่อกลับมาจะสรุปบทเรียนร่วมกัน 2. ด้านปัญหา ความต้องการ และความคิดเห็น 2.1 ครูส่วนใหญ่มีปัญหา ไม่มีค่าใช้จ่ายในการศึกษานอกสถานที่ การเชิญวิทยากร และการขอยืมวัสดุอุปกรณ์ต้องการให้โรงเรียนไปติดต่อแหล่งชุมชนให้ และมีความเห็นว่าการใช้แหล่งวิชาชุมชนประกอบการสอนจะช่วยให้นักเรียนมีความรู้และประสบการณ์กว้างขวาง 3. ด้านความต้องการ และความคิดเห็นของผู้บริหาร ผู้บริหารส่วนใหญ่ต้องการที่จะให้ความช่วยเหลือครูในการใช้แหล่งวิชาในทุกๆ ด้าน และมีความเห็นว่าการใช้แหล่งวิชาชุมชนมีประโยชน์ต่อการเรียนการสอนมากจะช่วยให้นักเรียนเข้าใจสภาพแวดล้อมที่แท้จริง 4. เปรียบเทียบความคิดเห็นระหว่างครูสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ กับครูสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชนและสังกัดเทศบาล พบว่าแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ .05 ดังต่อไปนี้คือ 4.1 เรื่องที่ครูสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน และสังกัดเทศบาลใช้ หรือมีมากกว่าครูสังกัดสำนักงานคณะกรรมการประถมศึกษาแห่งชาติคือ 4.1 ด้านขอบเขตการใช้ ใช้สิ่งที่มีอยู่ตามธรรมชาติประกอบการสอนเรื่องสิ่งมีชีวิตในสถานที่ประกอบการสอนเรื่องประเทศเพื่อนบ้าน ใช้บุคคลประกอบการสอนเรื่องจักวาลและอวกาศ และเรื่องประชากรศึกษา 4.1.2 ด้านวิธีใช้ ใช้สถานที่ประกอบการสอนโดยการแนะนำนักเรียนให้ไปค้นคว้าเพิ่มเติม และไปศึกษานอกสถานที่ ใช้บุคคลประกอบการสอนโดยการแนะนำนักเรียนให้ไปสัมภาษณ์บุคลากร 4.1.3 ด้านเวลา ใช้เวลาเรียนในการไปศึกษานอกสถานที่ ใช้นอกเวลาเรียน หรือหลังเลิกเรียนแล้วไปทั้งการบรรยาย ปาฐกถา อภิปราย 4.1.4 ด้านปัญหาครูมีปัญหาแตกต่างกันคือ ปัญหาในการศึกษานอกสถานที่ ครูไม่มีข้อมูลกับแหล่งวิชาชุมชนนั้นอย่างเพียงพอ เสียเวลา การติดต่อแหล่งวิชาชุมชนมีพิธีการมากเกินไป ผู้บริหารไม่สนับสนุน นักเรียนไม่สนใจไปศึกษานอกสถานที่และเจ้าหน้าที่แหล่งวิชาชุมชนไม่ให้ความร่วมมือ 4.1.5 ด้านความคิดเห็นครูทั้งสองกลุ่มมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันคือควรให้นักเรียนมีส่วนในการใช้แหล่งวิชาชุมชนให้มากที่สุดนับตั้งแต่การวางแผนเชิญวิทยากรการทำกิจกรรม การรายงานผล และประเมินผล และเห็นว่านักเรียนมีความสนใจในการใช้แหล่งวิชาชุมชนมาก 4.2 เรื่องที่ครูและผู้บริหารสังกัดสำนักงานคณะกรรมการประถมศึกษาแห่งชาติ ใช้หรือมีมากกว่าครูและผู้บริหารสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชนและสังกัดเทศบาลคือ 4.2.1 ครูทั้งสองกลุ่มใช้กิจกรรมก่อนใช้แหล่งวิชาชุมชนแตกต่างกันคือครูให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีใช้ประโยชน์จากแหล่งวิชาชุมชน และอภิปรายเรื่องที่จะไปศึกษา และจัดแสดงภาพเกี่ยวกับเรื่องที่จะไปศึกษา 4.2.2 ครูทั้งหลายกลุ่มใช้กิจกรรมหลังการใช้แหล่งวิชาชุมชนแตกต่างกันคือ ครูและนักเรียนสรุปบทเรียนร่วมกัน การอภิปรายในชั้นเรียนถึงสิ่งที่ได้รู้มาและปัญหาในการปฏิบัติงาน 4.2.3 ผู้บริหารทั้งสองกลุ่มมีความต้องการแตกต่างกันคือ ต้องการให้โรงเรียนทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์กับผู้ปกครอง และนักเรียนให้เห็นความสำคัญของการไปศึกษานอกสถานที่ จัดเวลาและสถานที่ในการฟังวิทยากรบรรยาย และการติดต่อขอยืมวัสดุอุปกรณ์ 4.2.4 ผู้บริหารทั้งสองกลุ่มมีความคิดเห็นแตกต่างกันคือ เห็นว่าควรมีการจัดสรรเงินงบประมาณเพื่อเป็นค่าตอบแทนวิทยากร ครูในบังคับบัญชาได้ใช้ประโยชน์จากแหล่งวิชาชุมชนเป็นที่น่าพอใจ สภาพของชุมชนเป็นอุปสรรคต่อการใช้ประโยชน์จากแหล่งวิชาชุมชน และตัวผู้บริหารเองได้สนับสนุนให้มีการใช้ประโยชน์จากแหล่งวิชาชุมชนอย่างเพียงพอ
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
เลาหวัฒน์, วนิดา, "การใช้ประโยชน์จากแหล่งวิชาชุมชนของโรงเรียนประถมศึกษา ในจังหวัดอุบลราชธานี" (1984). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 53434.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/53434