Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ต้นทุนการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวโพด

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Cost of maize seed production

Year (A.D.)

1984

Document Type

Thesis

First Advisor

จำเนียร บุญมา

Second Advisor

ธารี หิรัญรัศมี

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

บัญชีมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

การบัญชี

DOI

10.58837/CHULA.THE.1984.367

Abstract

ข้าวโพดเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างหนึ่งของประเทศที่มีแนวโน้มความต้องการในประเทศและต่างประเทศสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่เนื่องจากพื้นที่ในการเพาะปลูกโดยทั่วไปมีปริมาณจำกัด ดังนั้นการใช้เมล็ดพันธุ์ที่ดีและได้มาตรฐานจึงเป็นปัจจัยที่สำคัญที่จะช่วยทำให้เพิ่มผลผลิตต่อไร่ไม่น้อยกว่าร้อยละ 10-50 ทั้งยังได้ผลผลิตที่คุณภาพที่ดี ประหยัดค่าใช้จ่าย เช่น ค่าเมล็ดพันธุ์ ค่าจ้างแรงงาน เวลาในการปลูกใหม่ สารเคมีสำหรับป้องกันโรคและกำจัดโรคแมลงและเป็นการใช้พื้นที่ปลูกอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะมีผลทำให้รายได้ของเกษตรกรสูงขึ้นกว่าเดิมในระยะเวลาและในการเลี้ยงเท่ากัน วิทยานิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาต้นทุนการผลิตเมล็ดพันธ์ข้าวโพด พันธ์สุวรรณ 1 ตั้งแต่การปลูกจนกระทั่งเก็บเกี่ยวและนำมาแปรสภาพในโรงงานผลิตเมล็ดพันธุ์ ในปี 2524/25 โดยเลือกทำการศึกษาและวิจัยผลิตพันธุ์หลักพันธุ์สุวรรณ 1 จากศูนย์วิจัยข้าวโพดข้าวฟางแห่งชาติ เป็นตัวแทนในการผลิตเมล็ดพันธุ์หลัก และการผลิตเมล็ดพันธุ์จำหน่ายพันธุ์สุวรรณ 1จากศูนย์ขายายพันธุ์ 1 2 4 และ 5 ของกรมส่งเสริมเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นตัวแทนในการศึกษาและวิจัยเมล็ดพันธุ์จำหน่าย โดยรวบรวมข้อมูลจากศูนย์วิจัยข้าวโพดข้าวฟางแห่งชาติ ศูนย์ขยายพันธุ์พืชของกลุ่มส่งเสริมการเกษตร ตลอดจนเอกสารและหนังสือต่างๆ ที่เกี่ยวกับผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวโพด ผลการศึกษาพบว่า ต้นทุนการผลิตเมล็ดพันธุ์หลักต่อไร่เป็นเงิน 2.710.49 บาท และต้นทุน 1 กิโลกรัม เท่ากับ 7.56 บาท ค่าใช้จ่ายส่วนมากจะเป็นประเภทค่าใช้จ่ายแรงงาน ซึ่งเฉลี่ยประมาณร้อยละ 36.35 ของต้นทุนผันแปรและผลิตต่อไร่เท่ากับ 345.80 กิโลกรัม ส่วนต้อทุนการผลิตเมล็ดพันธุ์จำหน่ายต่อปริมาณการผลิตได้ของแต่ละศูนย์เท่ากับ 14.20 1533 12.81 และ 13.84 บาทต่อกิโลกรัมตามลำดับ หรือเฉลี่ยเท่ากับ 14.12 บาทต่อกิโลกรัม ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายในการซื้อเมล็ดพันธุ์คืนจากแปลงขยายพันธุ์เฉลี่ยประมาณร้อนละ 22.17 ของต้นทุนทั้งหมดและผลผลิตต่อไร่ถั่วเฉลี่ยเท่ากับ 216.13 กิโลกรัม อย่างไรก็ตามปริมาณเมล็ดพันธุ์ที่ผลิตได้ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดในประเทศ ดังนั้นรัฐบาลควรจะส่งเสริมให้มีการผลิตเมล็ดพันธุ์ที่ดีและมีคุณภาพให้ได้มาตรฐานในภาคเอกชนและรัฐบาลมากยิ่งขึ้นแต่ในการกำหนดราคาเมล็ดพันธุ์ของรัฐบาลควรคำนึงต้นทุนกรผลิตเมล็ดพันธุ์ในกรณีที่เอกชนดำเนินการผลิตด้วย ปัญหาที่สำคัญในการผลิตเมล็ดพันธุ์หลัก คือ ปัญหาในการปลูกข้าวโพดเพื่อผลิตเมล็ดพันธุ์ ปัญหาเกี่ยวกับการผลิต ตลอดจนถึงปัญหาด้านการตลาด ปัญหาต่างๆ เหล่านี้อาศัยความร่วมมือจากผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ในการช่วยแก้ไขปัญหาซึ่งผู้เขียนได้เสนอข้อเสนอแนะบางประการเพื่อใช้เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาเหล่านั้นดังนี้คือ 1. รัฐบาลควรสนใจในการให้ความรู้ความเข้าใจตลอดจนจัดให้มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรและผู้สนใจเข้าใจถึงประโยชน์ของเมล็ดพันธุ์ วิธีการปลูกที่จะทำให้ได้ผลผลิตที่ดีทั้งปริมาณและคุณภาพ รวมทั้งใช้ดุลยพินิจในการตัดสินใจเลือกประเภท ชนิดยี่ห้อ ของเมล็ดพันธุ์ที่จะใช้ในการปลูก และการเก็บเกี่ยวรักษาเมล็ดพันธุ์ที่ได้ เป็นต้น 2. รัฐบาลควรกำหนดนโยบายด้านการผลิต การจำหน่าย การควบคุมให้มีการผลิตเมล็ดพันธุ์อย่างมีมาตรฐาน เพื่อก่อให้เกิดความมั่นใจแก่เอกชนผู้ทำการผลิตเมล็ดพันธุ์และในขนาดที่ภาคเอกชนยังไม่สามารถผลิตเมล็ดพันธุ์ที่ได้มาตรฐานเพียงพอต่อความต้องการของตลาด รัฐบาลควรจะเพิ่มปริมาณการผลิตให้มากขึ้น ขณะเดียวกันก็มีการจูงใจให้มีการผลิตในส่วนเอกชนมากขึ้น โดยเมื่อใดที่เอกชนสามารถผลิตได้เพียงพอ รัฐบาลก็ไม่ควรแข่งขันกับเอกชน 3. ผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ควรคำนึงถึงเรื่องต้นทุนการผลิตและคุณภาพของเมล็ดพันธุ์เพราะถ้าลดต้นทุนการผลิตลงได้ ราคาที่จำหน่ายก็จะลดลงไปด้วย ซึ่งทำให้เกษตรกรที่ยากจนสามารถซื้อเมล็ดพันธุ์ได้ ในเวลาเดียวกันผู้ผลิตต้องคำนึงถึงคุณภาพของเมล็ดพันธุ์ด้วย ถ้าเมล็ดพันธุ์ไม่ได้คุณภาพในระยะต่อไปเกษตรกรจะหมดความเชื่อถือและจะเลิกใช้เมล็ดพันธุ์นั้นๆ ซึ่งจะทำให้มีผลกระทบต่อผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์โดยตรง

Share

COinS