Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาพฤติกรรมของครูที่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร ประทับใจในทางบวกและทางลบ โดยใช้คริติเคิลอินซิเดนท์เทคนิค

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

A study of teachers' behaviors that positively and negatively impressed prathom suksa six students in schools under the authority of the Bangkok Metropolitan Administration by using critical incident technique

Year (A.D.)

1984

Document Type

Thesis

First Advisor

ทิศนา แขมมณี

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

ประถมศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1984.134

Abstract

วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1.เพื่อศึกษาพฤติกรรมของครูที่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครประทับใจในทางบวกและทางลบ โดยใช้คริติเคิล อินซีเดนท์เทคนิค (Critical Incident Technique) 2.เพื่อศึกษาพฤติกรรมของครูที่นักเรียนชายประทับใจและนักเรียนหญิงประทับใจทั้งทางบวกและทางลบ วิธีดำเนินการวิจัย 1. กลุ่มตัวอย่างประชากร กลุ่มตัวอย่างประชากรที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 6 ปีการศึกษา 2526 ในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 192 คน เป็นนักเรียนชาย 96 คน นักเรียนหญิง 96 คน จาก 24 โรงเรียน ใน 8 เขต โดยวิธีสุ่มแบบง่าย (simple random sampling) และแบบแยกประเภท (stratified random sampling) 2. เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ แบบรายงานเหตุการณ์สำคัญ (Critical Incident Report Form) และแบบบันทึกการสัมภาษณ์นักเรียน ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น โดยอาศัยแนวของโครงการ NTR (วิทยาลัยครูสวนสุนันทา 2523 : 9 – 10) และได้รับการตรวจสอบพิจารณา ความเหมาะสมในการใช้ภาษาจากผู้ทรงวุฒิ 5 ท่านก่อนนำไปใช้จริง 3. การเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้วิจัยดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเอง โดยนำแบบรายงานเหตุการณ์สำคัญไปให้กลุ่มตัวอย่าง ซึ่งเป็นนักเรียนชาย 4 คน และนักเรียนหญิง 4 คน ในแต่ละโรงเรียน บันทึกเหตุการณ์เกี่ยวกับพฤติกรรมของครูที่ทำให้เด็กประทับใจ ทั้งในทางบวกและทางลบ และบันทึกการสัมภาษณ์นักเรียนชาย – หญิง จากกลุ่มตัวอย่าง โรงเรียนละ 1 คู่ ใช้เวลาในการสัมภาษณ์คู่ละประมาณ 40 นาที 4. การวิเคราะห์ข้อมูล 4.1 วิเคราะห์เหตุการณ์แต่ละเหตุการณ์ตามเกณฑ์การวิเคราะห์พฤติกรรมได้พฤติกรรมสำคัญของครูที่มีผลต่อความรู้สึกประทับใจของนักเรียนทั้งในทางบวกและทางลบ 4.2 จัดหมวดหมู่ของพฤติกรรมสำคัญที่ได้จากการวิเคราะห์ทั้งพฤติกรรมที่ประทับใจในทางบวกและทางลบ 4.3 แจกแจงความถี่รายข้อของแต่ละพฤติกรรมในแต่ละหมวดทั้งพฤติกรรมที่ประทับใจทางบวกและทางลบ 4.4 คำนวณหาค่าร้อยละและจัดลำดับที่ของพฤติกรรมแต่ละข้อทั้งพฤติกรรมที่ประทับใจในทางบวกและทางลบ 4.5 คำนวณหาค่าร้อยละ และจัดลำดับที่ของพฤติกรรม แต่ละข้อ จำแนกตามเพศ ทั้งพฤติกรรมที่ประทับใจในทางบวกและลบ ผลการวิจัย จากผลการวิเคราะห์เหตุการณ์ที่นักเรียนประทับใจทั้งในทางบวกและทางลบพบว่า 1. พฤติกรรมสำคัญของครูที่เป็นที่ประทับใจในทางบวกและทางลบของนักเรียนนำมาจัดหมวดหมู่ได้ 3 ด้าน คือ ด้านการสอน ด้านการปกครองอบรมแนะนำ และด้านคุณธรรมจริยธรรม 2. พฤติกรรมสำคัญของครูที่เป็นที่ประทับใจในทางบวก ด้านการสอนมีพฤติกรรม 5 ข้อ ด้านการปกครองอบรมแนะนำมีพฤติกรรม 6 ข้อ และด้านคุณธรรมจริยธรรม มีพฤติกรรม 9 ข้อ 3. พฤติกรรมสำคัญของครูที่เป็นที่ปรับใจในทางลบ ด้านการสอนมีพฤติกรรม 5 ข้อ ด้านการปกครองอบรมแนะนำมีพฤติกรรม 6 ข้อ และด้านคุณธรรมจริยธรรมมีพฤติกรรม 7 ข้อ 4. พฤติกรรมสำคัญของครูที่เป็นที่ประทับใจในทางบวกของนักเรียนมากเป็นลำดับที่ 1 ด้านการสอนได้แก่ การมีเทคนิคการสอนดีอธิบายเข้าใจง่าย และมีจิตวิทยาในการสอนด้านการปกครองอบรม แนะนำ ได้แก่ การใช้จิตวิทยาในการอบรมตักเตือนและแก้ไขข้อบกพร่องพร้อมทั้งชมเชยผู้ปฎิบัติดี ด้านคุณธรรมจริยธรรมได้แก่ การมีความรักห่วงใย หวังดี และมีน้ำใจต่อศิษย์ 5.พฤติกรรมสำคัญของครูที่เป็นที่ประทับใจในทางลบของนักเรียนมากเป็นลำดับที่ 1 ด้านการสอนได้แก่ การไม่รู้จักใช้จิตวิทยาในการสอน และสร้างบรรยากาศในห้องเรียน ด้านการปกครองอบรมแนะนำ ได้แก่ การใช้วิธีการลงโทษที่ทารุณไม่มีเหตุผล และด้านคุณธรรมจริยธรรม ได้แก่ การไม่ม่เหตุผลไม่รับฟังเหตุผลของเด็ก 6. พฤติกรรมสำคัญของครูที่นักเรียนชายและนักเรียนหญิงประทับในทางบวกมากเป็นลำดับที่ 1 เป็นพฤติกรรมเดียวกัน คือ ด้านการสอน ได้แก่ การมีเทคนิคการสอนดีอธิบายเข้าใจง่าย และมีจิตวิทยาในการสอน ด้านการปกครองอบรมแนะนำได้แก่ การใช้จิตวิทยาในการอบรมตักเตือนและแก้ไขข้อบกพร่องพร้อมทั้งชมเชยผู้ปฎิบัติดี และด้านคุณธรรม จริยธรรม ได้แก่ การมีความรักห่วงใย หวังดี และมีน้ำใจต่อศิษย์ 7.พฤติกรรมสำคัญของครูที่นักเรียนชายและนักเรียนหญิงประทับใจในทางลบมากเป็นลำดับที่ 1 เป็นพฤติกรรมเดียวกัน คือ ด้านการสอน ได้แก่ การไม่รู้จักใช้จิตวิทยาในการสอนและสร้างบรรยากาศในห้องเรียน ด้านการปกครองอบรมแนะนำ ได้แก่ การใช้วิธีการลงโทษที่ทารุณไม่มีเหตุผล และด้านคุณธรรม จริยธรรม ได้แก่ การไม่มีเหตุผลไม่รับฟัง เหตุผลของเด็ก 8. พฤติกรรมสำคัญของครูในทางบวก สร้างความประทับใจแก่นักเรียนชายมากกว่านักเรียนหญิงในเรื่อง การให้การเสริมแรงและกำลังใจแก่เด็ก การให้ความช่วยเหลือด้านการเรียน และส่งเสริมความสามารถเป็นรายบุคคล การชี้แจงเหตุผลให้เด็กเข้าใจก่อนการลงโทษ การให้ความยุติธรรมแก่เด็ก การสนใจพฤติกรรมเด็กเป็นรายบุคคล การมีความอดทนอดกลั้นรู้จักควบคุมอารมณ์ การมีความรับผิดชอบ ต่อการกระทำของตนเองและการพูดจาไพเราะ พฤติกรรมสำคัญที่สร้างความประทับใจแก่นักเรียนชายและนักเรียนหญิงเท่ากัน คือ การใช้จิตวิทยาในการอบรมตักเตือนและแก้ไขข้อบกพร่องพร้อมทั้งชมเชยผู้ปฎิบัติดี และการรู้จักให้อภัย พฤติกรรมสำคัญของครูในทางบวกนอกจากนั้นสร้างความประทับใจแก่นักเรียนหญิงมากกว่านักเรียนชาย 9. พฤติกรรมสำคัญของครูในทางลบ สร้างความประทับใจแก่นักเรียนชายมากกว่านักเรียนหญิงในเรื่อง การใช้วิธีการลงโทษที่ทารุณไม่มีเหตุผล การไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ของตนเอง การแก้ไขปัญหาโดยใช้อำนาจตัดสินสั่งการในทางไม่ดี การแสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ การขาดความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และการขาดความอดทนอดกลั้น พฤติกรรมสำคัญของครูในทางลบ นอกจากนั้น สร้างความประทับใจแก่นักเรียนหญิงมากกว่านักเรียนชาย

Share

COinS