Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
ต้นทุนการเลี้ยงปลาไหลญี่ปุ่นเพื่อการส่งออก
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
The cost of eel (anguilla japonica) culture for export purposes
Year (A.D.)
1984
Document Type
Thesis
First Advisor
อรพินธุ์ ชาติอัปสร
Second Advisor
อรรถ ช่อผกา
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
บัญชีมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
การบัญชี
DOI
10.58837/CHULA.THE.1984.356
Abstract
ประเทศไทยได้มีการเลี้ยงปลาไหลมากว่า 10 ปีแล้ว แต่คนไทยไม่นิยมบริโภค การเลี้ยงจึงมุ่งเพื่อส่งออกไปขายยังตลาดต่างประเทศ พันธุ์ที่นิยมเลี้ยงคือปลาไหลญี่ปุ่น (Anguilla Japonica) เนื่องจากเป็นพันธุ์ที่เลี้ยงง่ายและมีผู้บริโภคกันอยู่ทั่วไป เพราะมีเนื้อนุ่มรสดี และเชื่อกันว่าเป็นยาบำรุงกำลัง แก้โรคลม ปวดเมื่อย เคล็ดยอก ทำให้ร่างกายอบอุ่น จึงมีราคาแพง พันธุ์ปลาไหลที่เลี้ยงนี้ได้มาจากแหล่งพันธุ์ปลาตามธรรมชาติ เนื่องจากมนุษย์ยังไม่สามารถผสมพันธุ์ปลาไหลนี้ได้เองจึงต้องออกไปดักจับในทะเลหรือตามปากแม่น้ำและนำมาเลี้ยงจนได้ขนาดที่อาจขายให้เอาไปเลี้ยงต่อเรียกว่า “กูโรโกะ" ซึ่งมีน้ำหนัก 300-500 ตัวต่อ 1 กิโลกรัม และอาจเลี้ยงจนมีขนาดใหญ่ถึง 5-6 ตัวต่อ 1 กิโลกรัม สำหรับผู้ซื้อไปบริโภค ในการศึกษาต้นทุนปลาไหลญี่ปุ่นนี้ได้เลือกจากรุ่นที่เลี้ยงในปี 2525 ซึ่งใช้เวลาในการเลี้ยงตามเป้าหมายคือ 16 เดือน แต่สามารถขยายได้หมดในเดือนที่ 23 โดยเมื่อเลี้ยงไปได้ 6 เดือนก็ขายกูโรโกะไปบางส่วน และทยอยขายที่เหลือไปในเดือนที่ 12, 16 และ 23 ในขณะเดียวกัน เมื่อเลี้ยงไปถึงเดือนที่ 13 ก็ได้สั่งพันธุ์ปลารุ่นปี 2526 เข้ามาเลี้ยงอีก จึงมีการแบ่งเฉลี่ยต้นทุนบางส่วนให้กับปลาไหลรุ่นใหม่ด้วย พันธุ์ปลารุ่นปี 2525 นี้ซื้อมา 1,500,000 ตัว เหลือรอดชีวิตจนถึงขนาดที่ตลาดต้องการเพียง 1,143,750 ตัว เพราะสูญเสียในช่วงแรกของการเลี้ยงจนเป็นกูโรโกะไป 15% และสูญเสียในช่วงต่อมาอีก 15% ของที่เหลือ จากการวิเคราะหืได้ต้นทุนกูโรโกะตัวละ 6.19 บาท ปลาไหลที่เหลือซึ่งเลี้ยงเพื่อชายให้ผู้บริโภคได้มีการขายไปในเดือนที่ 12, 16 และ 23 และมีต้นทุนต่อตัวตามลำดับดังนี้คือ 19.82, 23.23 และ 33.82 บาท ซึ่งมีต้นทุนค่าพันธุ์ปลาเป็น 65.10%, 20.33%, 17.35% และ 11.92% ของต้นทุนทั้งหมดในการขายกูโรโกะเมื่อสิ้นเดือนที่ 6 และการขายปลาไหลในเดือนที่ 12, 16 และ 23 ส่วนต้นทุนอื่นที่เห็นได้ชัดคือค่าอาหาร ซึ่งมีอัตราส่วน 7.77%, 12.26%, 19.15% และ 27.72% ของต้นทุนทั้งหมดในการขายกูโรโกะ และเมื่อมีการขายในเดือนที่ 12, 16 และ 23 ซึ่งทำให้สรุปได้ว่า ต้นทุนหลักใน 2 ระยะแรกคือเมื่อขายกูโรโกะในเดือนที่ 6 และการขายปลาไหลในเดือนที่ 12 คือค่าพันธุ์ปลา ส่วนต้นทุนหลักใน 2 ระยะหลังคือเมื่อขายปลาไหลในเดือนที่ 16 และ 23 คือค่าอาหาร ฝ่ายบริหารจะใช้ต้นทุนเหล่านี้ประกอบกับการตัดสินใจว่าจะเลี้ยงต่อไปหรือจะขายในช่วงเวลาต่าง ๆ กันอย่างไรบ้าง และนอกจากนี้ยังอาจใช้ต้นทุนเหล่านี้ในการวางแผนถึงจำนวนปลาไหลที่จะซื้อเข้ามาเลี้ยงในรุ่นต่อไป รวมทั้งกำหนดระยะเวลาในการเลี้ยงและจำนวนที่จะขายด้วยว่าจะขายกูโรโกะจำนวนเท่าใด และเลี้ยงต่อจนได้ขนาดที่ต้องการจำนวนเท่าใด ปัญหาสำคัญของผู้ทำฟาร์มปลาไหลญี่ปุ่นคือ ราคาอาหารปลามีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่ราคาขายปลาไหลญี่ปุ่นในตลาดสากลมีแนวโน้มต่ำลง ซึ่งปัญหานี้น่าจะได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐบาลในการควบคุมราคาอาหารปลาเพื่อเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์น้ำ เพื่อส่งออกให้มีต้นทุนต่ำเพื่อแข่งขันกับประเทศอื่น ๆ ได้ ปัญหาเรื่องพันธุ์ปลาซึ่งมนุษย์ยังไม่สามารถหาทางเพาะขยายพันธุ์ได้เอง ปัญหาเรื่องน้ำที่ใช้เลี้ยงปลาไหลก็เป็นปัญหาที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่ง เพราะมีผลต่อการเจริญเติบโตของปลาไหล ดังนั้นจึงต้องมีการใช้เทคนิคทั้งทางวิชาการและจากประสบการณ์ในการควบคุมอุณหภูมิของน้ำ การระบายน้ำ และการปรับคุณสมบัติของน้ำให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของปลาไหล นอกจากนี้การเลี้ยงปลาไหลยังต้องใช้น้ำบาดาลซึ่งเป็นน้ำตามธรรมชาติ ถ้ารัฐบาลมีนโยบายจะไม่ให้สูบน้ำบาดาลขึ้นมาใช้เพื่อป้องกันการทรุดตัวของแผ่นดิน ฟาร์มปลาไหลก็จะประสบกับปัญหาเป็นอย่างมาก เพราะการใช้น้ำประปาซึ่งมีคลอรีนผสมอยู่จะต้องผ่านน้ำเข้าเครื่องสกัดคลอรีนเสียก่อน ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนในอุปกรณ์เหล่านี้อีกเป็นจำนวนมากด้วย อย่างไรก็ตาม การทำฟาร์มปลาไหลต้องใช้เงินลงทุนสูงและต้องอาศัยเทคนิคในการเลี้ยงและการบริหารที่ดีด้วยจึงจะทำให้การดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายได้
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
นาคเวก, ชาลินี, "ต้นทุนการเลี้ยงปลาไหลญี่ปุ่นเพื่อการส่งออก" (1984). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 53251.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/53251