Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
ตลาดท้องถิ่นกับการพัฒนาเศรษฐกิจ : บทบาทพ่อค้าคนกลางในการรับซื้อผลิตผลทางการเกษตร ศึกษาเฉพาะกรณีอำเภอวังทรายพูน จังหวัดพิจิตร
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Local market and economic development : a case study of the role of middleman in agricultural market in Wang Saiphun District, Phichit Province
Year (A.D.)
1983
Document Type
Thesis
First Advisor
ปรีชา คุวินทร์พันธุ์
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
สังคมวิทยามหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
สังคมวิทยา
DOI
10.58837/CHULA.THE.1983.544
Abstract
ความมุ่งหมายของการวิจัย 1. เพื่อศึกษาสภาพทั่วไปของเกษตรกรทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งกานผลิตและการจำหน่ายผลผลิต 2. เพื่อศึกษาสภาพทั่วไปของพ่อค้าคนกลาง พ่อค้าระดับต่างๆ ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อค้าและเกษตรกร ตลอดจนเงื่อนไขและเหตุจูงใจที่เกษตรกรติดต่อค้าขายกับพ่อค้าคนกลาง รวมทั้งการมีสินเชื่อกับพ่อค้าคนกลาง 3. เพื่อศึกษาถึงการจัดระเบียบของตลาดผลผลิตทางการเกษตรในระดับท้องถิ่นซึ่งจะทำให้ทราบถึงโครงสร้างการตลาด วิถีการตลาดและวิธีปฏิบัติการตลาด ความเคลื่อนไหวของราคา ลักษณะระบบข่าวสารการตลาด และลักษณะการขนส่งสินค้าเกษตรกรรม วิธีดำเนินการวิจัย โดยที่การศึกษาวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาเฉพาะกรณีและเลือกอำเภอที่ทำการศึกษาข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาวิจัย มี 1. ข้อมูลที่ได้จากเอกสาร ซึ่งส่วนมากเป็นเอกสารของทางราชการ เอกสารงานวิจัยนักวิชาการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเกษตรกรและพ่อค้าคนกลาง 2. ข้อมูลที่ได้จากการวิจัยสนาม ใช้เป็นข้อมูลส่วนใหญ่ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเป็นข้อมูลที่ได้จากการศึกษา สัมภาษณ์และสังเกตการณ์โดยเข้าไปมีส่วนร่วมโดยผู้ศึกษาได้ออกไปศึกษาภาคสนามด้วยตนเอง ในระหว่างวันที่ 15 มิถุนายน-10กันยายน 2525 ผู้ที่อยู่ในข่ายที่ถูกสัมภาษณ์ประกอบด้วย ก. ชาวนาหรือเกษตรกรทั้งหมด 150 ครัวเรือน ใน 7 หมู่บ้าน โดยสัมภาษณ์ผู้ที่เป็นหัวหน้าครอบครัว ข. ผู้ที่ซื้อข้าวจากชาวนา คือพ่อค้าในระดับต่างๆ เจ้าของโรงสี นายหน้า จำนวนทั้งหมด 25 คน ค. ผู้ให้ข่าวสำคัญ เช่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน ข้าราชการ เพื่อให้ทราบถึงสภาพทั่วๆไปและการดำเนินชีวิตของชาวนา การวิเคราะห์และแปลความข้อมูล ใช้การพรรณนาเชิงสถิติ ส่วนข้อมูลที่เป็นตัวเลขจะแสดงเป็นร้อยละ ผลการวิจัย ผลการศึกษาปรากฏว่า ชาวนาในเขตอำเภอเมืองวังทรายพูนยังมีฐานะความเป็นอยู่ยากจน มีปัญหาในเรื่องกรรมสิทธิ์ในที่ดินและมีหนี้สิน คือจะเป็นผู้เช่านาถึงร้อยละ 56.67 และเจ้าของที่นาที่ชาวนาเช่าทำอยู่ในส่วนใหญ่เป็นของพ่อค้าถึงร้อยละ 43.01 นอกจากนี้ชาวนายังมีปัญหาในเรื่องหนี้สิน คือมีหนี้สินร้อยละ 71.33 โดยกู้มาจากสถาบันการเงินของรัฐบาลร้อยละ 56.08 และกู้จากเอกชน 43.93 ส่วนทางด้านการศึกษาของชาวนาส่วนใหญ่อยู่ในระดับ ป.4 มีผู้ที่ไม่ได้เรียนหนังสืออ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ถึงร้อยละ 15.34 ลักษณะการผลิต เป็นการทำนาดำที่ต้องอาศัยน้ำฝนสำหรับทำนา เทคนิคการผลิตมีทั้งแบบเก่า เช่นการไถ่นาด้วยควาย และใช้เทคโนโลยี่สมัยใหม่ เช่น การไถนาด้วยแทรกเตอร์ การใส่ปุ๋ย เป็นต้น ผลผลิตที่ได้เฉลี่ย 30-45 ถัง/ไร่ สำหรับแรงงานที่ใช้ในการผลิต ใช้ทั้งแรงงานในครัวเรือนและการ จ้างแรงงาน ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นแรงงานที่รับจ้างอยู่ในหมู่บ้าน การขายผลผลิต ในหมู่ชาวนาไม่มีการรวมกลุ่มกันเพื่อขยายผลผลิตจะเป็นไปในลักษณะต่างคนต่างขาย ซึ่งการขายจะมีอยู่ 3 ลักษณะ คือ 1. การค้าขายด้วยข้อผูกพันทางหนี้สิน การขายในลักษณะนี้จะเป็นเงื่อนไขที่ชาวนาที่เป็น “ลูกนา" หรือ “ลูกหนี้" ของพ่อค้าอยู่ โดยชาวนาจะขายผลผลิตส่วนที่เหลือของตนหลังจากที่จ่ายเป็นค่าเช่านาและดอกเบี้ยแล้วให้ทันพ่อค้าที่เป็นเจ้าของนาทั้งนี้ก็เพราะชาวนาหวังผลที่จะได้รับความช่วยเหลือจากพ่อค้าในฤดูการทำนาปีต่อไปสำหรับราคาที่ซื้อขายกันส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นราคาตลาด จากข้อมูลผูกพันทางหนี้สินนี้ชาวนาอาจจะเสียเปรียบพ่อค้าในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยที่พ่อค้าคิดสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยของสถาบันการเงินของรัฐบาล และจากการที่เป็นหนี้สินนี้ทำให้ชาวนาต้องรีบขายข้าวตั้งแต่เก็บเกี่ยวเสร็จใหม่ๆ ทั้งๆ ที่ราคาในช่วงนี้ต่ำ เพื่อที่จะนำเงินมาใช้หนี้และใช้จ่ายในครอบครัว 2. การค้าขายด้วยความสนิทสนมคุ้นเคย ซึ่งเป็นลักษณะที่ชาวนามีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับพ่อค้าเป็นอย่างดี เป็นการค้าขายที่ติดต่อค้าขายกันมานาน จนทำให้เกิดความไว้วางใจและจะขายผลผลิตให้เป็นประจำทุกปี 3. การค้าขายด้วยผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจโดยตรง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชาวนาที่ฐานะทางเศรษฐกิจดี ดังนั้นจึงทำให้ชาวนามีโอกาสที่จะเลือกขายผลผลิตของตนให้กับพ่อค้าคนใดก็ได้ที่ราคาสูงสุด ส่วนในด้านของทัศนคติของชาวนาที่มีต่อพ่อค้าทั้งด้านการดำเนินการค้า ความสัมพันธ์ส่วนตัวและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของหมู่บ้าน โดยทั่วไปชาวนาจะมีทัศนคติในทางดีต่อการดำเนินการค้าและความสัมพันธ์ส่วนตัวกับพ่อค้า ส่วนทัศนคติด้านการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของหมู่บ้านส่วนใหญ่จะเป็นไปในทางลบ ในด้านของพ่อค้าคนกลาง มีลักษณะที่เอื้ออำนวยที่ทำให้เกิดการแข่งขันกันในตลาด ซึ่งจะส่งผลประโยชน์ถึงชาวนาโดยตรง โดยที่ในเขตชุมชนตลาดวังทรายพูนมีพ่อค้าที่ดำเนินกิจการซื้อขายผลผลิตทางการเกษตร ถึง 15 ราย ทำให้เกิดมีการแข่งขันกันสูงในการดำเนินธุรกิจ ส่วนความสัมพันธ์ในหมู่พ่อค้าจะเป็นสัมพันธ์ทางเครือญาติมากกว่าความสัมพันธ์ทางการค้า ลักษณะการทำการค้าจะเป็นแบบต่างคนต่างค้าไม่มีการร่วมมือประสานผลประโยชน์ทางการค้า ทำให้การตลาดในเขตวังทรายพูนมีการแข่งขันกันสูงและจะส่งผลถึงชาวนาทำให้ได้รับประโยชน์ในด้านของราคาและการเลือกผู้ซื้อเป็นต้น
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
ปัณราช, วันเพ็ญ, "ตลาดท้องถิ่นกับการพัฒนาเศรษฐกิจ : บทบาทพ่อค้าคนกลางในการรับซื้อผลิตผลทางการเกษตร ศึกษาเฉพาะกรณีอำเภอวังทรายพูน จังหวัดพิจิตร" (1983). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 53117.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/53117