Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การพัฒนาเทคนิคการวิเคราะห์พลังงานแสงอาทิตย์ และแผนที่การแผ่รังสีดวงอาทิตย์ของประเทศไทย

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

The development of techniques for solar radiation analysis and a solar radiation map for Thailand

Year (A.D.)

1983

Document Type

Thesis

First Advisor

กฤษณพงศ์ กีรติกร

Second Advisor

สรชัย พิศาลบุตร

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

สถิติศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

สถิติ

DOI

10.58837/CHULA.THE.1983.542

Abstract

ค่าการแผ่รังสีดวงอาทิตย์เป็นข้อมูลพื้นฐานที่สำคัญที่สุดตัวหนึ่งในงานวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ให้เป็นประโยชน์ ในประเทศไทยค่าการแผ่รังสีดวงอาทิตย์ที่ใช้กันอยู่โดยทั่วไปจะเป็นค่าเฉลี่ยตลอดปีและค่าประมาณของการแผ่รังสีดวงอาทิตย์ทุก 1.5 เดือน ซึ่งเป็นค่าประมาณที่ได้จากการวิจัยของ R.H.B. Exell และ K. Saricali แห่งสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย วัตถุประสงค์ของวิทยานิพนธ์นี้เป็นการหาค่าประมาณของการแผ่รังสีดวงอาทิตย์ที่ละเอียดยิ่งขึ้น คือ มีทุกเดือนตลอดปี โดยได้ใช้ข้อมูลรายวันในการศึกษาหาความสัมพันธ์ระหว่างค่าการแผ่รังสีดวงอาทิตย์ และความยาวนานแสงแดดเพื่อหารูปแบบที่เหมาะสมในการประมาณค่าการแผ่รังสีดวงอาทิตย์เฉลี่ยรายเดือนของแต่ละสถานีอุตุนิยมวิทยาทั่วประเทศไทยค่าประมาณที่ได้จะนำไปใช้ในการสร้างแผนที่การแผ่รังสีดวงอาทิตย์ของประเทศไทย วิธีที่ใช้ในการศึกษามี 2 วิธีคือ วิธีวิเคราะห์สมการถดถอยเส้นโค้งและวิธีวิเคราะห์จำแนกประเภท วิธีแรกเป็นการวิเคราะห์สมการถดถอยเส้นโค้ง ซึ่งเป็นวิธีหาค่าสัมประสิทธิ์การถดถอยระหว่างค่าการแผ่รังสีดวงอาทิตย์และความยาวนานแสงแดดในแต่ละเดือนของสถานีอุตุนิยมวิทยา 7 แห่ง คือสถานีแม่กก สถานีบ้านถม สถานีขอนแก่น สถานีบ้านละไม สถานีบ้านคลองม่วง สถานีหนองคาย และสถานีกรุงเทพมหานคร และทำการ interpolate และ extrapolate ค่าสัมประสิทธิ์การถดถอยที่หาได้ทั้ง 7 สถานี ซึ่งแปรไปตามเส้นรุ้งเพื่อให้ได้ค่าสัมประสิทธิ์การถดถอยสำหรับสถานีอุตุนิยมวิทยาต่างๆ ทั่วประเทศ โดยใช้รูปแบบการ interpolate และ extrapolate แบบเส้นตรง และแบบเส้นโค้งพาราโบล่า จากค่าสัมประสิทธิ์การถดถอยที่ได้จากทั้ง 2 รูปแบบดังกล่าวจะสามารถประมาณค่าการแผ่รังสีดวงอาทิตย์จากค่าความยาวนานแสงแดดจำนวน 33 สถานี เพื่อสร้างแผนที่การแผ่รังสีดวงอาทิตย์ของประเทศไทยทุกเดือนตลอดปี ผลของการวิเคราะห์สรุปได้ว่า ค่าประมาณของการแผ่รังสีดวงอาทิตย์ทั่วประเทศเป็นค่าที่เชื่อถือได้เพราะเมื่อใช้รูปแบบทั้งสองประมาณค่าการแผ่รังสีดวงอาทิตย์ของ 7 สถานีดังกล่าวข้างต้นจะมีค่าแตกต่างจากค่าที่วัดจริงเฉลี่ยตลอดปีไม่เกินร้อยละ 5 และเมื่อเปรียบเทียบรูปแบบการประมาณค่าการแผ่รังสีดวงอาทิตย์ทั้งสองรูปแบบแล้วได้ว่าค่าประมาณการแผ่รังสีที่ได้จากทั้งสองรูปแบบมีค่าไม่แตกต่างกันที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 สำหรับวิธีวิเคราะห์จำแนกประเภท โดยวิเคราะห์ด้วยวิธีของ Mahalanobis distance เมื่อใช้ค่าความยาวนานแสงแดดเป็นตัวแปรอิสระ และแบ่งกลุ่มข้อมูลออกเป็น 3 กลุ่มตามเส้นรุ้ง ผลการวิเคราะห์สรุปได้ว่าสมการจำแนกประเภทมีอำนาจในการแบ่งแยกกลุ่มได้ไม่มากนักเพราะเมื่อนำสมการที่ได้ไปคาดคะเนความเป็นสมาชิกของกลุ่มแล้วมีความถูกต้องเพียงร้อยละ 40-50 เท่านั้น ดังนั้น แผนที่การแผ่รังสีดวงอาทิตย์ของประเทศไทย ซึ่งแสดงค่าการแผ่รังสีดวงอาทิตย์ที่ประมาณจากวิธีวิเคราะห์การถดถอยเส้นโค้ง จะให้ค่าที่น่าเชื่อถือได้ดี อนึ่งค่าประมาณการแผ่รังสีดวงอาทิตย์ในแผนที่นั้นแสดงเฉพาะค่าที่ได้จากการ interpolate และ extrapolate ค่าสัมประสิทธิ์การถดถอยและเส้นรุ้งโดยรูปแบบเส้นตรง

Share

COinS