Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ทรรศนะของผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ไทยต่อการจัดประสบการณ์ ในการศึกษาภาคบังคับ พุทธศักราช 2534

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Opinions of Thai science experts concerning organization of experiences in compulsory education B.E. 2534

Year (A.D.)

1983

Document Type

Thesis

First Advisor

สุมน อมรวิวัฒน์

Second Advisor

ธีระชัย ปูรณโชติ

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

ประถมศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1983.142

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาทรรศนะของผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ไทยต่อการจัดประสบการณ์ในการศึกษาภาคบังคับ พุทธศักราช 2534 โดยใช้เทคนิคเดลฟาย กลุ่มตัวอย่างประชากรเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิทยาศาสตร์ไทย จำนวน 22 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามที่วิจัยสร้างขึ้น วิเคราะห์ข้อมูลโดยการคำนวณค่ามัธยฐาน ฐานนิยม และพิสัยระหว่างควอไตล์ ผลการวิจัยปรากฏทรรศนะที่สำคัญของผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ไทย ต่อการจัดประสบการณ์ในการศึกษาภาคบังคับ พุทธศักราช 2534 ดังนี้ 1. วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะมีบทบาทสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์มากขึ้น มีการนำความรู้ไปใช้ทางด้านเกษตรกรรม และอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น ดังนั้น ประชากรจึงจำเป็นจะต้องมีคามรู้พื้นฐานทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อนำมาใช้ในชีวิตประจำวันให้ตนเองอยู่รอดและเป็นสุข ตลอดจนรัฐบาลก็มีความจำเป็นที่จะต้องวางแผนการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการพัฒนาประเทศให้สอดคล้องกัน ทั้งทางด้านการพัฒนาคน การพัฒนาเศรษฐกิจ การพัฒนาสังคม และการพัฒนาการศึกษา 2. ความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงหลักสูตร ทั้งในด้านเนื้อหาสาระ หลักการ ทฤษฎี และการนำไปใช้ สำหรับการจัดการศึกษาภาคบังคับนั้น ควรเน้นเนื้อหาที่เกี่ยวกับสุขภาพอนามัย สารเคมีที่พบในชีวิตประจำวัน สภาวะแวดล้อม การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ อีกทั้งควรเพิ่มเนื้อหาด้านที่จะนำไปใช้เป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิตและการงานอาชีพ เช่น การเกษตรกรรม ให้มากขึ้น ส่วนลักษณะเนื้อหาของหลักสูตร ควรมีทั้งภาคทฤษฎี ภาคปฏิบัติ และกิจกรรมควบคู่กันไป 3. ในด้านการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ ควรให้ประชาชนทั้งในระบบและนอกระบบโรงเรียน มีความรู้ ความเข้าใจ ที่ถูกต้องเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคู่ไปกับความรู้ทางด้านคุณธรรม จริยธรรม และควรส่งเสริมให้ผู้เรียนเสาะแสวงหาความรู้ด้วยตนเองให้มากที่สุด โดยเน้นทั้ง กระบวนการ เนื้อหาสาระ และวิธีการทางวิทยาศาสตร์ในการแก้ปัญหา เพื่อเสริมสร้างทัศนคติเชิงวิทยาศาสตร์ให้เกิดกับประชาชนทุกคน 4. รัฐบาลควรจะมุ่งส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพและคุณธรรมของครู โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสอนวิทยาศาสตร์ ควรมีนโยบายการจัดอบรมครูให้มีความรู้ คุณธรรม ตลอดจนมีความสามารถในการสอนอย่างมีประสิทธิภาพ 5. การจัดการศึกษาภาคบังคับจะต้องคำนึงถึงคุณภาพ และความอยู่รอดของสังคมเป็นสำคัญ และผู้ที่จบการศึกษาภาคบังคับนั้น ควรจะมีความรู้พื้นฐานทางด้านวิทยาศาสตร์ มีทัศนคติเชิงวิทยาศาสตร์ และสามารถนำวิธีการทางวิทยาศาสตร์ไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตประจำวันได้

Share

COinS