Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
การเขียนสะกดคำผิดในภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่หก ของโรงเรียนทดลองในกรุงเทพมหานคร
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Misspelling in English made by prathom suksa six students of experimental schools in Bankok metropolis
Year (A.D.)
1983
Document Type
Thesis
First Advisor
ปานตา ใช้เทียมวงศ์
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
ครุศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
ประถมศึกษา
DOI
10.58837/CHULA.THE.1983.133
Abstract
วัตถุประสงค์ของการวิจัย การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาคำนภาษาอังกฤษในกลุ่มวิชาประสบการณ์พิเศษ ที่นักเรียนส่วนมากในชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนทดลองในกรุงเทพมหานคร มักจะสะกดผิด และลักษณะของการสะกดคำผิด วิธีการดำเนินการวิจัย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เป็นแบบทดสอบการสะกดคำ 2 ฉบับ ซึ่งแต่ละฉบับแบ่งเป็น 3 ตอนใหญ่ๆ คือ ตอนที่ 1 เป็นการเลือกกากบาทตำที่สะกดถูกต้อง จากคำที่ให้เลือก 4 คำ และมีความหมายเข้ากับประโยคที่กำหนดให้ ตอนที่ 2 เป็นการเขียนสะกดคำที่มีความหมายตรงกับรูปภาพซึ่งกำหนดไว้ในแต่ละประโยค และตอนที่ 3 เป็นการเขียนตามคำบอกทีละคำ ผู้วิจัยนำแบบสอบทั้ง 2 ฉบับดังกล่าว ไปทดสอบนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่หก ของโรงเรียนทดลองในกรุงเทพมหานคร จำนวน 300 คน นำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ทางสถิติโดยใช้ค่าร้อยละ สรุปผลการวิจัย 1. คำที่นักเรียนสะกดผดมากที่สุด คือคำ “health" คือมีนักเรียนสะกดผิดมากถึงร้อยละ 93.33 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด และคำที่มีนักเรียนสะกดผิดมากรองลงมาอีก 10 คำ คือ “eraser | blackboard | umbrella | post office | children | nurse, classroom, carelessly | shoes | people." และคำที่มีนักเรียนสะกดผิดน้อยที่สุด คือคำ “ring" คือมีนักเรียนสะกดผิดร้อยละ 8.66 และคำที่นักเรียนสะกดผิดน้อยรองลงมา 10 คำ คือ “ fish | zoo, mother | notebook | listen | tree | dish | radio | pencil | teacher." 2. คำที่นักเรียนส่วนมากมักเขียนสะกดผิดและเป็นปัญหาต่อการสะกดของนักเรียนเป็นคำที่มีลักษณะเฉพาะดังนี้ 2.1 เป็นคำที่มีพยัญชนะควบกล้ำ ( Cluster ) ที่มีตำแหน่งอยู่ทั้งที่ต้นคำ ( Initial Cluster ) กลางคำ ( Middle Cluster ) และท้ายคำ ( Final Cluster ) 2.2 เป็นคำที่มีความยาว คือมีหลายพยางค์ หรือมากกว่า 1 พยางค์ขึ้นไป 2.3 เป็นคำที่มีรูปอย่างหนึ่ง แต่ออกเสียงเป็นอีกอย่างหนึ่ง เช่นสระ o | u ออกเสียงเป็น [^] และพยัญชนะ c ออกเสียงเป็น [ k ] ฯลฯ 2.4 เป็นคำที่มีรูปพยัญชนะหรือสระปรากฏอยู่แต่ไม่ออกเสียงพยัญชนะ หรือสระนั้น ( Mute ) เช่นไม่ออกเสียงพยัญชนะ r ( Mute r ) และไม่ออกเสียงสระ e ( Mute e ) ฯลฯ 2.5 เป็นคำที่มีพยัญชนะ ซึ่งมีเสียงใกล้เคียงกัน เช่น m กับ n l กับ r และ w กับ f เป็นต้น 2.6 เป็นคำที่มีรูปพหูพจน์ ( Plural Form ) 2.7 เป็นคำที่ประกอบด้วยพยัญชนะ หรือสระที่มีรูปการเขียนคล้ายคลึงกัน เช่น h กับ k | m กับ n u กับ w เป็นต้น 3. ลักษณะการสะกดคำผิดของนักเรียนนั้น ปรากฏต่าง ๆ กัน 4. ความสามารถในการเขียนสะกดคำของนักเรียน อยู่ในเกณฑ์ที่จะต้องปรับปรุงแก้ไข
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
โหมดหิรัญ, สิทธิศักดิ์, "การเขียนสะกดคำผิดในภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่หก ของโรงเรียนทดลองในกรุงเทพมหานคร" (1983). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 50760.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/50760