Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
รายได้และต้นทุนในการทำสวนสตรอเบอรี่
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Revenue and cost in strawberry plantation
Year (A.D.)
1983
Document Type
Thesis
First Advisor
ชูพงษ์ สุกุมลนันทน์
Second Advisor
กัญญา นวลแข
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
บัญชีมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
การบัญชี
DOI
10.58837/CHULA.THE.1983.348
Abstract
วิทยานิพนธ์เรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงต้นทุนและผลตอบแทนในการทำสวนสตรอเบอรี่ 2 พันธุ์ คือ พันธุ์ไทโอก้า และพันธุ์พื้นเมือง โดยเริ่มศึกษาตั้งแต่การเพาะปลูก การบำรุงรักษา และการจำหน่าย แหล่งที่เลือกการศึกษา คือ สวนสตรอเบอรี่ในเขต ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง เขต ตำบลแม่สา อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ปีการเพาะปลูก 2524-2525 และศึกษาถึงต้นทุนและผลตอบแทนในการทำสวนสตรอเบอรี่ของชาวไทยภูเขาจากงานส่งเสริมให้ชาวไทยภูเขาปลูกสตรอเบอรี่ทดแทนผื่นของโครงการหลวงภาคเหนือ บนดอยอินทนนท์ เขตบ้านขุนกลาง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ปีการเพาะปลูก 2524-2525 การศึกษาได้รวบรวมข้อมูลจากแบบสอบถาม เอกสารหนังสือ และจากการสัมภาษณ์ เพื่อนำมาวิเคราะห์ถึงต้นทุนและผลตอบแทนในการลงทุนทำสวนสตรอเบอรี่ รวมทั้งการเปรียบเทียบต้นทุนและผลตอบแทนระหว่างเกษตรกรผู้ปลูกสตรอเบอรี่พันธุ์ไทโอก้ากับพันธุ์พื้นเมือง ต้นทุนและผลตอบแทนระหว่างการปลูกสตรอ-เบอรี่กับการปลูกฝิ่นของชาวไทยภูเขา นอกจากนี้แล้วยังได้ศึกษาถึงปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในการทำสวน สตรอเบอรี่ของเกษตรกรพื้นราบและชาวไทยภูเขา ผลของการศึกษาพบว่า ในการทำสวนสตรอเบอรี่บนพื้นที่ 1 ไร่ของเกษตรกรพื้นราบต่อ 1 ฤดูการเพาะปลูกนั้น การทำสวนสตรอเบอรี่พันธุ์ไทโอก้ามีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 45,380 บาท ได้ปริมาณผลผลิตรวม 2,683 กก. มีรายได้ทั้งสิ้น 77,000 บาท มีกำไร 31,628 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนต่อต้นทุนร้อยละ 69.68 บาท และการทำสวนสตรอเบอรี่พันธุ์พื้นเมืองบนพื้นที่ 1 ไร่ ต่อ 1 ฤดูกาลเพาะปลูกนั้นมีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 23,400 บาท ได้ปริมาณผลผลิตรวม 2,400 กก. มีรายได้ทั้งสิ้น 24,876 บาท มีกำไรเท่ากับ 1,476 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนต่อต้นทุนร้อยละ 6.31 บาท ซึ่งเมื่อเปรียบ เทียบแล้วจะเห็นได้ว่าการทำสวนสตรอเบอรี่พันธุ์ไทโอก้าให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าการทำสตรอเบอรี่พันธุ์พื้นเมืองมาก สำหรับการทำสวนสตรอเบอรี่ของชาวไทยภูเขานั้นพบว่า ชาวไทยภูเขาปลูกสตรอเบอรี่บนพื้นที่ 3 งาน มีค่าใช้จ่าย 28,677 บาท ได้ปริมาณผลผลิตรวม 1,935 กก. มีรายได้ทั้งสิ้น 54,381 บาท มีกำไร 25,704 บาท หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนต่อต้นทุนร้อยละ 89.63 บาท ในการปลูกฝิ่นบนพื้นที่ 4 งาน ( 1 ไร่) นั้น ชาวไทยภูเขามีค่าใช้จ่าย 2,000 บาท ได้ผลผลิต 0.37 กก. มีรายได้ทั้งสิ้นประมาณ 2,775-6,937.50 บาท มีกำไรทั้งสิ้นประมาณ 775-4,937.50 บาท หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนต่อต้นทุนร้อยละ 38.75-246.88 บาท แม้ว่าการที่จะทำให้ชาวไทยภูเขาเลิกปลูกฝิ่นโดยเด็ดขาดนั้นเป็นสิ่งที่ค่อนข้างจะลำบาก เพราะชาวไทยภูเขามีประเพณีการปลูกฝิ่นและเสพติดฝิ่นมาช้านานแล้ว และในอดีตการปลูกฝิ่นก็ทำรายได้ให้ชาวไทยภูเขาสูงกว่าพืชอื่นที่เคยปลูกเป็นจำนวนมาก แต่จากการศึกษาครั้งนี้พบว่าสตรอเบอรี่เป็นพืชที่ทำรายได้เป็นจำนวนเงินให้แก่ชาวไทยภูเขาสูงกว่าการปลูกฝิ่น และการปลูกสตรอเบอรี่ก็สามารถทำได้อย่างเปิดเผยไม่ผิดกฎหมายอย่างเช่นการปลูกฝิ่น จึงคาดคะเนได้ว่าจะเป็นสิ่งจูงใจให้ชาวไทยภูเขานิยมปลูกสตรอเบอรี่แทนการปลูกฝิ่นมากยิ่งขึ้น การปลูกฝิ่นจะลดน้อยลงไปกว่าเดิมและในที่สุดชาวไทยภูเขาก็อาจเลิกปลูกฝิ่นได้ ปัญหาที่พบในการทำสวนสตรอเบอรี่ของเกษตรกรพื้นราบ คือ พันธุ์ที่ใช้ปลูกมีราคาแพง ศัตรูพืชตลาดการจำหน่ายในช่วงที่มีสตรอเบอรี่ออกสู่ตลาดมาก รวมทั้งแหล่งเพาะปลูกที่สะดวกต่อการขนส่ง ข้อเสนอแนะในการทำสวนสตรอเบอรี่ของเกษตรกรพื้นราบมีดังนี้ คือ 1) เกษตรกรควรเลือกปลูกสตรอเบอรี่พันธุ์ไทโอก้า และเพื่อเป็นการลดต้นทุนค่าพันธุ์ลงเกษตรกรควรทำการขยายต้นพันธุ์ (ต้นไหล) เอง 2) รัฐควรให้การสนับสนุนแก่เกษตรกรผู้ทำสวนสตรอเบอรี่ทางด้านวิชาการ เช่น การเพาะปลูกและการบำรุงรักษาอย่างถูกต้อง การป้องกันศัตรูพืช และการบรรจุอย่างถูกวิธี 3) ควรมีการรวมกลุ่มเกษตรกรผู้ทำสวนสตรอเบอรี่ เพื่อให้มีอำนาจต่อรองและให้คำปรึกษาแนะนำได้ 4) รัฐควรแบ่งที่ดินที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ให้แก่เกษตรกรเช่าทำสวนสตรอเบอรี่ในราคาที่ไม่แพงจนเกินไปนัก ปัญหาที่พบในการทำสวนสตรอเบอรี่ของชาวไทยภูเขา คือ ขาดการเอาใจใส่ดูแลในการปลูก ภาษาที่ใช้ติดต่อและการขนส่งสตรอเบอรี่มาสู่สถานี ข้อเสนอแนะในการทำสวนสตรอเบอรี่ของชาวไทยภูเขามีดังนี้ คือ 1) ควรเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานด้านส่งเสริมให้มากกว่าเดิม จะทำให้การดูแลและการให้คำแนะนำแก่ชาวไทยภูเขาทำได้กว้างขวางยิ่งขึ้น 2) ควรออกแบบภาชนะที่เหมาะสมต่อสภาพพื้นที่ การขนส่งผลสตรอเบอรี่บนภูเขา เพื่อมิให้ผลสตรอเบอรี่ได้รับความเสียหายมาก
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
เล้าตระกูล, วาสนา, "รายได้และต้นทุนในการทำสวนสตรอเบอรี่" (1983). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 50553.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/50553