Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
ต้นทุนและรายได้ของการปลูกพริกไทยในจังหวัดจันทบุรี
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
The cost and revenue of pepper growing in Chanthaburi
Year (A.D.)
1983
Document Type
Thesis
First Advisor
เสริมศักดิ์ รักธรรม
Second Advisor
วิไลลักษณ์ ภัทโรดม
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
บัญชีมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
การบัญชี
DOI
10.58837/CHULA.THE.1983.342
Abstract
พริกไทยเป็นพืชเครื่องเทศและสมุนไพรที่สำคัญซึ่งได้มีการกำหนดไว้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 5 พ.ศ. 2525 – 2529 ให้มีโครงการพัฒนาเพื่อการอุตสาหกรรม วิทยานิพนธ์นี้จึงมุ่งศึกษาถึงต้นทุนการผลิตและรายได้ของการปลูกพริกไทยในจังหวัดจันทบุรี อันเป็นแหล่งปลูกพริกไทยที่ใหญ่ที่สุดของประเทศในปีการเพาะปลูก พ.ศ. 2524/2525 โดยทำการออกแบบสอบถามและสัมภาษณ์สวนพริกไทยที่ได้เลือกตัวอย่างแบบเจาะจงจำนวน 50 สวน เป็นสวนที่มีเนื้อที่ปลูกประมาณ 5 ไร่มีพริกไทยตั้งแต่ 1,800 – 2,300 ค้าง ซึ่งเป็นสวนขนาดกลางที่กสิกรปลูกกันมากและยึดเป็นอาชีพหลัก และทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าเฉลี่ย นอกจากนี้ยังได้รวบรวมข้อมูลจากหนังสือเอกสารและรายงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ผลการศึกษาทราบว่าการปลูกพริกไทยจะเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตั้งแต่สิ้นปีที่ 2 เป็นต้นไป สวนที่ผลิตเฉพาะเมล็ดพริกไทยดำในระหว่างปีที่ 2 – 15 มีต้นทุนเฉลี่ย/ไร่/ปี เป็นจำนวนเงิน 14,236.96 – 17,546.27 บาท และมีรายได้เฉลี่ย/ไร่/ปี เป็นจำนวนเงิน 8,748.27 – 30,740.64 บาท ได้รับกำไรสุทธิสูงสุดในปีที่ 5 นับจากวันปลูกตลอดอายุการปลูกพริกไทย 15 ปี มีกำไรสุทธิเฉลี่ยรวมทั้งสิ้นไร่ละ 51,024.10 บาท คิดเป็นร้อยละ 18.64 ของรายได้ทั้งสิ้น สำหรับสวนที่ผลิตทั้งเมล็ดพริกไทยดำและเมล็ดพริกไทยขาวมีต้นทุนการผลิต รายได้และกำไรสุทธิสูงกว่าสวนที่ผลิตเฉพาะเมล็ดพริกไทยดำ กล่าวคือในระหว่างปีที่ 2 – 15 มีต้นทุนการผลิตเฉลี่ย/ไร่/ปี เป็นจำนวนเงิน 14,671.18 – 18,300.54 บาท มีรายได้เฉลี่ย/ไร่/ปี เป็นจำนวนเงิน 9,567.13 – 33,617.92 บาท ตลอดอายุการปลูกพริกไทย 15 ปี ได้รับกำไรสุทธิเฉลี่ยรวมทั้งสิ้นไร่ละ 69,868.56 บาท คิดเป็นร้อยละ 23.34 ของรายได้ทั้งสิ้น จากการวิเคราะห์ผลตอบแทนจากการลงทุนปรากฏว่าสวนพริกไทยทั้ง 2 แบบต่างได้รับทุนคืนภายในเวลาประมาณ 6 ปี 4 เดือน – 7 ปี แต่ภายหลังคืนทุนแล้วกระแสเงินสดเข้าได้ลดลงมากเมื่ออัตราผลตอบแทนขั้นต่ำที่ต้องการเท่ากับร้อยละ 7.63 สำหรับสวนที่ผลิตเฉพาะเมล็ดพริกไทยดำและ 10.02 สำหรับสวนที่ผลิตทั้ง เมล็ดพริกไทยดำและเมล็ดพริกไทยขาว จึงสรุปได้ว่าการลงทุนปลูกพริกไทยในปัจจุบันยังได้รับผลตอบแทนไม่คุ้มค่ากับการลงทุนแต่การที่กสิกรยังทำการปลูกพริกไทยเพราะเป็นอาชีพที่ทำกันมาแต่ดั้งเดิม อีกทั้งยังได้รับกำไรสุทธิเฉลี่ยรวมทั้งสิ้นร้อยละ 18.64 สำหรับสวนที่ผลิตเฉพาะเมล็ดพริกไทยดำ และร้อยละ23.34 สำหรับสวนที่ผลิตทั้งเมล็ดพริกไทยดำและเมล็ดพริกไทยขาว นอกจากนี้กสิกรต่างก็มีความหวังว่าถ้าพริกไทยมีราคาสูงขึ้นจะได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้น ปัญหาสำคัญในการปลูกพริกไทยคือ ไม้ค้างและปัจจัยการผลิตบางชนิดมีราคาสูงขึ้นทำให้ต้นทุนการผลิตสูง นอกจากนี้ยังประสบปัญหาทางด้านการผลิตต่างๆ ได้แก่ แหล่งน้ำ ปริมาณผลผลิตที่ไม่คงที่ มีโรคและศัตรูพืชรบกวนมาก ตลอดจนปัญหาทางด้านราคาลดลงและการส่งออก ซึ่งปัญหาต่างๆเหล่านี้อาจแก้ไขได้ถ้าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งทางภาครัฐบาลและภาคเอกชนร่วมมือกัน จึงได้เสนอแนะแนวทางแก้ไขไว้ดังนี้ 1. การลดต้นทุนการผลิต ควรใช้วัสดุอื่นซึ่งมีราคาถูกกว่าไม้เนื้อแข็งทำค้างพริกไทย การใช้ปุ๋ยและยากำจัดโรคและศัตรูพืชควรศึกษาถึงสรรพคุณ วิธีการใช้และปริมาณการใช้อย่างถูกต้อง ควรใช้แรงงานในครัวเรือนและเครื่องทุ่นแรงต่างๆ เพิ่มขึ้น 2. การแก้ไขปัญหาการผลิต ควรเลือกทำเลปลูกพริกไทยที่มีสภาพดินเหมาะสมและมีแหล่งน้ำซึ่งมีน้ำเพียงพอตลอดฤดูการผลิต เอาใจใส่ดูแลรักษาต้นพริกไทยอย่างสม่ำเสมอ ศึกษาถึงวิธีป้องกันและกำจัดโรคและศัตรูพืชต่างๆอย่างถูกวิธี ในฤดูเก็บเกี่ยวควรเก็บผลผลิตให้หมดภายในระยะเวลาอันสั้น 3. การแก้ไขปัญหาทางการตลาด กสิกรควรรวมกลุ่มผู้ผลิตขึ้นเพื่อสร้างอำนาจต่อรองให้เกิดความเป็นธรรมในการขายผลผลิต ตลอดจนควรมีการจัดตั้งสมาคมการค้าพริกไทย หรือเครื่องเทศในระดับประเทศขึ้นเพื่อควบคุมคุณภาพ ปริมาณ และขยายตลาดพริกไทยให้กว้างขวางออกไป 4. รัฐบาลควรแนะนำและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการปลูกพริกไทยและการเกษตรแผนใหม่ไปสู่กสิกรให้มากกว่าปัจจุบัน ตลอดจนมีการควบคุมคุณภาพและราคาของปัจจัยการผลิตต่างๆ เข้าช่วยเหลือกสิกรในขณะที่ราคาลดลง โดยการพยุงราคาหรือประกันราคา ส่งเสริมให้มีการส่งออก ตลอดจนช่วยหาตลาดต่างประเทศให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
เลิศเพียรธรรม, ศศิธร, "ต้นทุนและรายได้ของการปลูกพริกไทยในจังหวัดจันทบุรี" (1983). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 50547.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/50547