Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ความคิดเห็นของครูและนักเรียนเกี่ยวกับบทบาทของครูภาษาไทย ในการส่งเสริมการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง ของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Opinions of teachers and students concerning roles of thai language teachers in promoting individual study of students at the lower secondary education level

Year (A.D.)

1985

Document Type

Thesis

First Advisor

สุจริต เพียรชอบ

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

มัธยมศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1985.271

Abstract

วัตถุประสงค์ของการวิจัย เพื่อศึกษาความคิดเห็นของครูและนักเรียนเกี่ยวกับบทบาทของครูภาษาไทยในการส่งเสริมการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นในด้านต่าง ๆ ดังนี้ 1. การให้นักเรียนเห็นคุณค่าและความสำคัญของการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง 2. การให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจวิธีศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง 3. การเสนอแหล่งวิทยาการ 4. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน 5. การจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตร 6. การร่วมมือกับวิทยากรในโรงเรียนและในชุมชน วิธีดำเนินการวิจัย ผู้วิจัยได้สร้างแบบสอบถามขึ้น 1 ชุด เพื่อใช้การรวบรวมความคิดเห็นของครูและนักเรียนเกี่ยวกับบทบาทของครูภาษาไทยในการส่งเสริมการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ตัวอย่างประชากรในการวิจัยครั้งนี้เลือกโดยใช้วิธีสุ่มแบบหลายชั้น (Multi-Stage Random Sampling) ซึ่งประกอบด้วยครูภาษาไทยระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจำนวน 149 คน จากโรงเรียนต่าง ๆ 55 โรงเรียน และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 560 คน จากโรงเรียนต่าง ๆ 14 โรงเรียน ในเขตการศึกษา 5 แล้วนำมาวิเคราะห์หาค่าร้อยละ ค่ามัชฌิมเลขคณิต และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สรุปผลการวิจัย เมื่อพิจารณาเกี่ยวกับบทบาทของครูภาษาไทยในการส่งเสริมการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นในด้านต่าง ๆ ปรากฏผลดังนี้ 1. การให้นักเรียนเห็นคุณค่าและความสำคัญของการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองพบว่าโดยส่วนรวมทั้งครูและนักเรียนเห็นว่ามีการปฏิบัติมาก เมื่อพิจารณารายละเอียด ครูมีความเห็นว่าการประเมินผลการเรียนจากการให้นักเรียนศึกษาค้นคว้า มีการปฏิบัติมาก แต่นักเรียนเห็นว่ามีการปฏิบัติน้อย 2. การให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจวิธีศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง พบว่าโดยส่วนรวมทั้งครูและนักเรียนเห็นว่ามีการปฏิบัติมาก เมื่อพิจารณารายละเอียด ครูมีความเห็นว่าการฝึกทักษะการถามหรือการสัมภาษณ์ มีการปฏิบัติมาก แต่นักเรียนเห็นว่ามีการปฏิบัติน้อย 3. การเสนอแหล่งวิทยาการ พบว่าโดยส่วนรวมทั้งครูและนักเรียนเห็นว่ามีการปฏิบัติน้อย เมื่อพิจารณารายละเอียดครูมีความเห็นว่า การแนะนำรายการวิทยุหรือโทรทัศน์ที่น่าสนใจให้นักเรียนติดตาม มีการปฏิบัติมาก แต่นักเรียนเห็นว่ามีการปฏิบัติน้อย และครูเห็นว่าการแจ้งรายการบรรยาย อภิปราย นิทรรศการ ฯลฯ ที่จัดในโรงเรียนและนอกโรงเรียนให้นักเรียนทราบ มีการปฏิบัติน้อย แต่นักเรียนเห็นว่ามีการปฏิบัติมาก 4. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน พบว่าโดยส่วนรวมครูและนักเรียนมีความเห็นแตกต่างกัน โดยครูเห็นว่ามีการปฏิบัติมาก แต่นักเรียนเห็นว่ามีการปฏิบัติน้อย เมื่อพิจารณารายละเอียดทั้งครูและนักเรียนมีความเห็นสอดคล้องกันว่า การจัดมุมหนังสือในชั้นเรียน การให้นักเรียนจัดทำบรรณานุกรมหนังสือที่อ่านแล้วรวบรวมไว้ มีการปฏิบัติน้อย และการให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดด้วยตนเอง การมอบหมายให้นักเรียนทำรายงานเป็นกลุ่มและรายบุคคล การให้นักเรียนศึกษาเรื่องที่เรียนที่เรียนมาล่วงหน้า มีการปฏิบัติมาก 5. การจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตร พบว่าโดยส่วนรวมทั้งครูและนักเรียนเห็นว่ามีการปฏิบัติน้อย เมื่อพิจารณารายละเอียด ครูมีความเห็นว่า การเชิญบริษัท สำนักพิมพ์ มาแสดงนิทรรศการหนังสือ การจัดสโมสรหนังสือโดยมีนักเรียนเป็นผู้ดำเนินการนั้น มีการปฏิบัติน้อยที่สุด แต่นักเรียนเห็นว่ามีการปฏิบัติน้อย 6. การร่วมมือกับวิทยากรในโรงเรียนและในชุมชน พบว่าโดยส่วนรวมครูและนักเรียนมีความเห็นแตกต่างกัน โดยครูเห็นว่ามีการปฏิบัติมาก แต่นักเรียนเห็นว่ามีการปฏิบัติน้อย เมื่อพิจารณารายละเอียดครูและนักเรียนมีความเห็นสอดคล้องกันว่า การมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นในการคัดเลือก และจัดซื้อหนังสือเข้าห้องสมุด การขอความร่วมมือจากบรรณารักษ์ช่วยแนะนำหนังสือ ทำบรรณานุกรมหนังสือ หรือ กิจกรรมอื่น ๆ มีการปฏิบัติน้อย

Link to Full Text

Share

COinS