Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

แนวทางการกำหนดแผนโครงสร้างเพื่อการพัฒนาจังหวัดสุราษฎร์ธานี

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

The guide line study for structure plan of Surat Thani province

Year (A.D.)

1985

Document Type

Thesis

First Advisor

ศักดิ์ชัย คิรินทร์ภาณุ

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ผังเมืองมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

ผังเมือง

DOI

10.58837/CHULA.THE.1985.448

Abstract

นโยบายสำคัญในการพัฒนาประเทศในระยะหลังโดยเฉพาะในแผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2525-2529) เน้นให้ส่วนภูมิภาคและท้องถิ่นได้พัฒนาความเจริญให้สอดคล้องกับความต้องการ และความสามารถในการผลิตของแต่ละจังหวัดโดยใช้แผนพัฒนาระดับจังหวัดเป็นเครื่องมือที่สำคัญ ทั้งยังมีแนวนโยบายในการพัฒนาชนบทส่วนใหญ่ โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ประเภท คือ ชนบททั่วไปกับชนบทยากจน และจะดำเนินการเร่งรัดพัฒนาชนบทยากจนก่อน ซึ่งในจังหวัดสุราษฏร์ธานีไม่มีพื้นที่ชนบทยากจนอยู่เลย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคใต้มีขนาดพื้นที่มากที่สุดของภาคใต้อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติประเภทต่างๆ ได้แก่ ป่าไม้ แร่ธาตุ ทรัพยากรประมง ทรัพยากรการท่องเที่ยวๆ สภาพพื้นที่โดยทั่วไปเหมาะสมกับการเกษตรกรรม อีกทั้งทำเลที่ตั้งซึ่งอยู่กึ่งกลางระหว่างกรุงเทพมหานคร กับภาคใต้ตอนล่างและความสะดวกในด้านการคมนาคมติดต่อทำให้พื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นพื้นที่ที่มีแววการพัฒนาสูงอีกแห่งหนึ่ง นอกจากนี้กระทรวงมหาดไทยได้กำหนดให้จังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นเมืองหลักของภาคใต้ตอนบน และจากโครงการศึกษาเพื่อการพัฒนาภาคใต้ตอนบนของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้เสนอแนะให้จังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นศูนย์กลางความเจริญ และเป็นฐานการพัฒนาอุตสาหกรรมชายฝั่งทะเลด้านอ่าวไทยเชื่อมโยงกับการพัฒนาอุตสาหกรรมบริเวณชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก การศึกษาครั้งนี้จึงได้เลือกจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นจังหวัดตัวอย่างศึกษา เพื่อเสนอแนะแนวทางในการวางแผนโครงสร้างสำหรับการนำไปจัดทำแผนพัฒนาจังหวัดต่อไป โดยในการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ วัตถุประสงค์ 1. ศึกษาลักษณะทางกายภาพของจังหวัดสุราษฎร์ธานี 2. ศึกษาโครงสร้างและการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง ทางเศรษฐกิจ สังคม ประชากร และการบริการขั้นพื้นฐาน 3. ศึกษาโครงสร้างปัญหาหลักของจังหวัด 4. ศึกษาศักยภาพในการพัฒนาชุมชนเมืองและการพัฒนาชนบทของจังหวัด วิธีการศึกษา 1. การจัดลำดับศูนย์กลางชุมชนเมืองและการพัฒนาเมือง ทำการประเมินด้วยวิธีการให้ค่าคะแนนปัจจัยต่างๆ ทั้งทางกายภาพ เศรษฐกิจ สังคม ประชากร และการบริการขั้นพื้นฐานตามวิธีเมตริกสหสัมพันธ์ และหาพื้นที่ใต้เขตอิทธิพลของชุมชนเมืองแต่ละแห่งด้วยวิธี Gravity model 2. สภาพและศักยภาพในการพัฒนาชนบททำการศึกษาด้วยวิธีวิเคราะห์ตัวประกอบซึ่งมีตัวแปรทั้งสิ้น 24 ตัว โดยพิจารณาจากตัวแปรที่เป็นปัจจัยพื้นฐานทางด้านกายภาพ เศรษฐกิจ สังคม ซึ่งมีผลต่อการพัฒนาชนบทในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และทำการคำนวณด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ตามโปรแกรม SPSS. ซึ่งผลจากการศึกษาตามข้อ 1, 2 ประกอบกับหน้าที่ของจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่กำหนดไว้ในแผนพัฒนาระดับชาติ และระดับภาค จะเป็นเครื่องช่วยในการกำหนดแนวทางการพัฒนาจังหวัดตามศักยภาพของจังหวัด ผลการศึกษา จากการศึกษาพบว่า การผลิตในภาคเกษตรกรรมเป็นพื้นฐานการผลิตหลักของจังหวัด แต่มีแนวโน้มการขยายตัวในอัตราที่ลดลง เนื่องจากประสิทธิภาพและผลผลิตต่ำ ซึ่งมีสาเหตุจากการใช้ที่ดินในการเพาะปลูกอย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ การใช้ทรัพยากรป่าไม้ และการประมงอย่างฟุ่มเฟือย จะทำให้ความอุดมสมบูรณ์ลดลงในระยะเวลาอันสั้น การพัฒนาการเกษตรกรรมที่ผ่านมาเป็นการขยายพื้นที่เพาะปลูกมากกว่าการพัฒนาทางเทคโนโลยี และการปรับปรุงบำรุงทรัพยากรที่เป็นพื้นฐานการผลิต ส่วนการผลิตในสาขาอื่น พบว่าในสาขาอุตสาหกรรมจะเป็นอุตสาหกรรมการเกษตรที่มีฐานการผลิตแคบและมีการขยายตัวเพียงเล็กน้อย (พ.ศ. 2521-2525) แต่โอกาสในการพัฒนาทางอุตสาหกรรมของจังหวัดมีอยู่มาก เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรและความสะดวกในการคมนาคม ในขณะเดียวกันการค้าและบริการมีแนวโน้มการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น สภาพการบริการขั้นพื้นฐานโดยทั่วไปยังค่อนข้างขาดแคลนและต่ำกว่าระดับมาตรฐาน การตั้งถิ่นฐาน และลำดับความสำคัญของชุมชนเมือง ระบบชุมชนเมืองของจังหวัดเป็นศูนย์กลางชุมชนแบบโตเดี่ยว ซึ่งมีเทศบาลเมืองสุราษฎร์ธานีเป็นศูนย์กลางชุมชนที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัด ขาดศูนย์กลางชุมชนรองที่จะทำหน้าที่เชื่อมโยงและกระบายการพัฒนาไปยังพื้นที่ชนบทโดยรอบได้อย่างแท้จริง ลำดับศูนย์กลางชุมชนตามความสำคัญ คือ ศูนย์กลางชุมชนลำดับที่ 1 ได้แก่ เทศบาลเมืองสุราษฎร์ธานี ศูนย์กลางชุมชนลำดับที่ 2 ได้แก่ สุขาภิบาลท่าข้าม (พุนพิน) ศูนย์กลางชุมชนลำดับที่ 3 ได้แก่ เทศบาลตำบลบ้านนาสาร สุขาภิบาลเกาะสมุย และสุขาภิบาลเวียงสระ ศูนย์กลางชุมชนลำดับที่ 4 ได้แก่ สุขาภิบาลตลาดไชยา ศูนย์กลางชุมชนลำดับที่ 5 ได้แก่ สุขาภิบาลท่าฉาง สุขาภิบาลบ้านนา สุขภิบาลกาญจนดิษฐ์ สุขาภิบาลดอนสัก สุขาภิบาลท่าขนอน สุขาภิบาลย่านดินแดง สุขาภิบาลท่าทองใหม่ สุขาภิบาลพุมเรียง สุขาภิบาลท่าชนะ สุขาภิบาลเคียนซา สุขาภิบาลพนม และสุขาภิบาลเขาวง ตามลำดับ ศูนย์กลางชุมชนที่ควรจะได้รับการส่งเสริมให้มีบทบาทในการกระจายการพัฒนาไปยังพื้นที่ชนบทโดยรอบได้แก่ สุขาภิบาลท่าข้าม เทศบาลตำบลบ้านนาสาร สุขาภิบาลเกาะสมุย สุขาภิบาลเวียงสระ และสุขาภิบาลตลาดไชยา การศึกษาสภาพการพัฒนาและศักยภาพในการพัฒนาชนบท สามารถสรุปได้ดังนี้ กลุ่มที่ 1 สภาพพื้นที่โดยทั่วไปเหมาะสำหรับการอนุรักษ์ให้คงสภาพป่าต้นน้ำลำธารและป้องกันการพังทะลายของดิน สภาพการใช้ที่ดินในปัจจุบันยังคงสภาพป่า และป่าชายเลนอย่างสมบูรณ์ พื้นที่ในกลุ่มนี้จะอยู่ทางด้านตะวันตกของอำเภอท่าชนะ ไชยา ท่าฉาง คีรีรัฐนิยม บ้านตาขุน และพนม กลุ่มที่ 2, 3, 4 สภาพของชนบทใน 3 กลุ่มนี้ใกล้เคียงกัน ซึ่งพื้นที่ในกรณีนี้จะเป็นพื้นที่เร่งรัดพัฒนาการเกษตรกรรม และการปลูกพืชเศรษฐกิจ สภาพของดินในบริเวณนี้เหมาะสำหรับการเพาะปลูกพืชยืนต้น และข้าวไร่ และสภาพการใช้ที่ดินปัจจุบันยังค่อนข้างเบาบางไม่เต็มประสิทธิภาพ โดยทั่วไปตำบลใน 3 กลุ่มนี้ยังขาดแคลน การบริการพื้นฐานและสาธารณูปการของรัฐ ซึ่งจะพบโดยทั่วไปในบริเวณตอนกลางของอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี พุนพิน ไชยา ท่าฉาง ท่าชนะ กาญจนดิษฐ์ ดอนสัก บ้านนาสาร และกิ่งอำเภอบ้านนาเดิม บริเวณที่ราบต่ำตอนกลางในเขตอำเภอ เคียนซา เวียงสระ พระแสงและกิ่งอำเภอชัยบุรี กลุ่มที่ 5,6 สภาพการพัฒนาชนบทใน 2 กลุ่มนี้ดีกว่า 4 กลุ่มที่กล่าวมาข้างต้น ตำบลในกลุ่มนี้มีอาณาเขตต่อเนื่อง และสามารถติดต่อกับพื้นที่เมืองหรืออยู่ในทิศทางที่เมืองขยายตัวออกไป ซึ่งพบว่ามีศักยภาพในการพัฒนาทางด้านการอุตสาหกรรมได้ค่อนข้างสูงถึงสูง มีทั้งสิ้น 10 ตำบลด้วยกัน คือ ตำบลท่าชนะ (ท่าชนะ) ตำบลท่าขนอน (คีรีรัฐนิคม) ตำบลบ้านนา (กิ่งบ้านนาเดิม) ตำบลบ้านส้อง (เวียงสระ) ตำบลอ่างทองและลิปะน้อย (เกาะสมุย) ตำบลวัดประดู่ บางกุ้ง และมะขามเตี้ย (อำเภอเมือง) และตำบลท่าข้าม (พุนพิน) แนวทางการพัฒนาจังหวัด ด้านเศรษฐกิจ – การเกษตรกรรม พัฒนาศักยภาพในการผลิตทางการเกษตรของจังหวัดให้สูงขึ้น โดยการปรับปรุงคุณภาพของผลผลิต ขบวนการผลิตและเทคโนโยลี อาทิการเพิ่มประสิทธิภาพาการใช้ที่ดิน การพัฒนาการชลประทาน การปรับปรุงพันธุ์พืชและสัตว์ ฯลฯ 1. ปรับปรุงโครงสร้างการใช้ที่ดิน ซึ่งรูปแบบของการใช้ที่ดินที่เหมาะสมคือ ก. พื้นที่อนุรักษ์ป่าไม้ และปลูกป่าขาดแคลน เพื่อใช้เป็นต้นน้ำลำธารและป้องกันการกษัยการ ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่จะอยู่ทางทิศตะวันตกของจังหวัด ข. พื้นที่ส่งเสริมการผลิตทางการเกษตร การเพิ่มผลผลิตจะทำโดยการเกษตรอย่างเต็มที่ตลอดปี และการพัฒนาการชลประทานในระดับไร่นา การปรับปรุงบำรุงดิน ซึ่งได้แก่พื้นที่บริเวณที่ราบริมฝั่งทะเลและในเขตที่ราบต่ำตอนกลาง ค. พื้นที่ส่งเสริมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ซึ่งสามารถทำการส่งเสริมได้ทั้งน้ำจืด และน้ำเค็ม การเพาะเลี้ยงชายฝั่งมีพื้นที่ที่เหมาะสมในบริเวณชายฝั่งทะเลเขตอำเภอไชยา ท่าฉาง กาญจนดิษฐ์ และดอนสัก ซึ่งควรจะได้มีการกำหนดพื้นที่ในการนี้ไว้อย่างชัดเจนเพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต่อสภาพแวดล้อม 2. ให้ความรู้ทางวิชาการเกษตรแผนใหม่แก่เกษตรกร การป้องกันและอนุรักษ์ทรัพยากรพื้นฐาน โดยคำนึงถึงความแตกต่างของพื้นที่แต่ละแห่ง 3. พัฒนาระบบตลาดในท้องถิ่นอย่างมีประสิทธิภาพ – อุตสาหกรรม ควรจะทำการพัฒนาไปพร้อมๆ กับการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตทางการเกษตรกรรมของจังหวัด โดยการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมที่ใช้ทรัพยากรทางการเกษตรที่ผลิตขึ้นในท้องถิ่น ได้แก่ ยางพารา ปาล์มน้ำมัน อาหารกระป๋อง (อาหารทะเลและผลไม้) ตลอดจนอุตสาหกรรมที่ใช้ทรัพยากรในท้องถิ่น เมืองสุราษฎร์ธานีจะพัฒนาไปสู่ความเป็นเมืองอุตสาหกรรม โดยอาศัยทรัพยากรในท้องถิ่นและความได้เปรียบทางด้านที่ตั้ง – การท่องเที่ยว การส่งเสริมการท่องเที่ยวและรักษาสภาพแวดล้อมจะต้องจัดทำอย่างเร่งด่วนโดยเฉพาะการควบคุมการใช้ที่ดินในเขตแหล่งท่องเที่ยว การส่งเสริมการลงทุนทั้งของภาครัฐ-เอกชนและการประสานงานการพัฒนาจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ด้านสังคมและบริการขั้นพื้นฐาน 1. เร่งรัดพัฒนาและปรับปรุงการบริการขั้นพื้นฐานทางสังคม เช่น การศึกษา สาธารณสุต การสาธารณสุข และสาธารณูปการต่างๆ ให้ได้ตามเป้าหมาย และการกระจายการบริการต่างๆ ไปยังพื้นที่ชนบทโดยรอบแต่ละศูนย์กลางชุมชนเมือง 2. ส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการวางแผนและการพัฒนาท้องถิ่น 3. ส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการวางแผนและการพัฒนาท้องถิ่น 3. ส่งเสริมบทบาทและหน้าที่ของสภาตำบลให้เป็นศูนย์กลางการพัฒนาอย่างแท้จริง – การพัฒนาชุมชนเมือง 1. ในเขตเทศบาลเมืองสุราษฎร์ธานี ควรจะได้มีการจัดทำผังเมืองรวมและผังเฉพาะ เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับกิจกรรมต่างๆ ในอนาคตและการเพิ่มขึ้นของประชากร 2. ส่งเสริมขุมชนสุขาภิบาลแต่ละแห่ง ให้สามารถช่วยเหลืองตนเองให้สามารถทำหน้าที่เป็นกระจายและเชื่อมโยงการพัฒนาได้อย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะสุขาภิบาลท่าข้าม เทศบาลตำบลบ้านนาสาร สุขาภิบาลเกาะสมุย สุขาภิบาลเวียงสระ และสุขาภิบาลตลาดไชยา แนวทางการพัฒนาที่กล่าวมาข้างต้น จะเป็นพื้นฐานในการนำไปสู่การจัดทำแผนพัฒนาจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อส่งเสริมบทบาทความเป็นเมืองหลักในภาคใต้ตอนบนของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งการกำหนดโครงการต่างๆ ในส่วนย่อยจะต้องมีความสัมพันธ์และสอดคล้องกัน โดยมีปัจจัยอื่นๆ เป็นตัวกำหนดที่สำคัญ ได้แก่ การบริหาร การปฏิบัติตามแผนงบประมาณ และการประสานงาน เป็นต้น

Share

COinS