Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
ภาพพจน์และความคาดหวังเกี่ยวกับการปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจ
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Image and expectation of police performance
Year (A.D.)
1986
Document Type
Thesis
First Advisor
พรศักดิ์ ผ่องแผ้ว
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
รัฐศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
การปกครอง
DOI
10.58837/CHULA.THE.1986.518
Abstract
ศึกษาภาพพจน์และความคาดหวัง เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทั้งจากสายตาของประชาชนเองและจากสายตาของตำรวจ ว่าจะมีความแตกต่างกันเพียงไร ประชาชนมีความรู้สึกเกลียดหรือมีภาพพจน์ในทางลบต่อตำรวจอย่างไร ตำรวจเองมีภาพพจน์ต่อตนเองอย่างไร ซึ่งจะช่วยสะท้อนให้เห็นในระดับหนึ่งได้ว่าตำรวจรู้ตัวหรือไม่ว่าทำไมประชาชนจึงเกลียดตำรวจ โดยในการเก็บรวบรวมข้อมูลได้ กำหนดขอบเขตของการศึกษาเฉพาะประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจในเขตนครบาล ซึ่งเป็นผู้ที่ปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิดกับประชาชนชาวกรุงเทพมหานคร จำนวนตัวอย่างที่ เก็บรวบรวมมีทั้งสิ้น 494 ตัวอย่าง แยกเป็นประชาชนจำนวน 276 ตัวอย่าง และข้าราชการตำรวจ จำนวน 218 ตัวอย่าง จากผลการศึกษาครั้งนี้พบว่าประชาชนส่วนใหญ่มองภาพพจน์ของตำรวจ เป็นไปในเชิงลบ แต่ตำรวจมองภาพพจน์ของตำรวจด้วยกันในเชิงบวกค่อนข้างสูง โดยพบว่าในแง่ของประชาชนเห็นว่าตำรวจมีภาพพจน์ที่ดีในแง่การเป็นผู้รักษากฎหมาย การ เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ และมีความกล้าหาญเสี่ยงภัย คิดเป็นร้อยละ 56.5, 36.2 และ 26.8 ตามลำดับ สำหรับภาพพจน์ในทางไม่ดีนั้นประชาชน เห็นว่าเป็นไปในด้านการใช้อำนาจหน้าที่ แสวงหาผลประโยชน์ มีการก้าวร้าวข่มขู่หรือใช้วาจาไม่สุภาพ และมีการใช้วิธีการรุนแรง คิดเป็นร้อยละ 78.3, 55.8 และ 40.2 ตามลำดับ ส่วนในทัศนะของตำรวจมีการมองภาพพจน์ของตำรวจด้วยกันในเชิงบวก นับตั้งแต่ประเด็นที่ว่าตำรวจเป็นผู้รักษากฎหมาย เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ มีความกล้าหาญ เสี่ยงภัยทุกขณะ มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี เป็นที่พึ่งในทุกโอกาสและมีความรับผิดชอบสูง คิดเป็นร้อยละ 79.8, 66.5, 61.0, 59.2 และ 50.0 ตามลำดับ ส่วนใน เชิงลบนั้นตำรวจเห็นว่าเป็นไปในเรื่องการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันมากที่สุต รองลงมาคือ การใช้อำนาจหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์ใส่ตน และการที่ไม่สามารถแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าได้ คิดเป็นร้อยละ 31.7, 27.5 และ 17.0 ตาม ลำดับ เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบทัศนะระหว่างประชาชนกับตำรวจ พบว่าประชาชน ส่วนใหญ่มีความชื่นชมต่อตำรวจในระดับต่ำ คิดเป็นร้อยละ 52.9 ของทั้งหมด ในขณะที่ตำรวจมีความชื่นชมต่อบุคคลในอาชีพเดียวกันในระดับสูงถึงร้อยละ 68.3 ซึ่งเมื่อวิ เคราะห์ในทางสถิติพบว่า ประชาชนและตำรวจภาพพจน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ นอกจากนี้เมื่อแยกพิจารณาตามสถานภาพทางเศรษฐกิจและสังคมพบว่า ประชาชน มีภาพพจน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เฉพาะตัวแปร ด้านอายุและด้านการติดต่อกับตำรวจเท่านั้น ส่วนตัวแปรอื่นๆ ก็มีผลต่อความแตกต่างในประเด็นนี้อยู่บ้าง แต่เป็นความแตกต่างอย่างไม่มีนัยสำคัญ ส่วนทัศนะของตำรวจต่อประเด็นเดียวกันนี้ เมื่อแยกพิจารณาตามสถานภาพ ทางเศรษฐกิจและสังคม พบว่ามีตัวแปรด้านสถานภาพสมรส รายได้ อายุราชการ ชั้นยศ และลักษณะงานที่มีผลให้ตำรวจมีภาพพจน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ตัวแปรที่เหลือมีผลต่อประเด็นนี้อยู่บ้าง แต่ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ เกี่ยวกับ เรื่องความคาดหวังในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ พบว่าทั้งตำรวจและ ประชาชนมีความคาดหวังในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจคล้ายคลึงกันคือ ส่วนใหญ่เห็นว่า หน้าที่สำคัญที่สุตที่ตำรวจควรจะทำคือ การป้องกันอาชญากรรมคิดเป็นร้อยละ 50.4 และ 58.3 ในกลุ่มประชาชนและตำรวจตามลำดับ สำหรับหน้าที่ที่คาดหวังรองๆ ลงมานั้น ตำรวจและประชาชนมีความคาดหวังแตกต่างกันเล็กน้อย ในกลุ่มประชาชนมีความคาดหวังในหน้าที่ที่สำคัญที่สุดในสัดส่วนรองลงมาคือ การบังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอภาค การเอาใจใส่ต่อประชาชนและให้ความช่วย เหลือในทุกโอกาส การประกันสิทธิเสรีภาพของประชาชน การให้การศึกษาเกี่ยวกับการป้องกันอาชญากรรม และการให้บริการแก่ประชาชน คิดเป็นร้อยละ 13.0, 11.2, 5.4, 5.1 ตามลำดับ ส่วนตำรวจมีความเห็นว่านอกเหนือจากการป้องกันอาชญากรรมแล้ว ตำรวจควรจะให้ความสำคัญแก่การศึกษาเกี่ยวกับการป้องกันอาชญากรรม การเอาใจใส่ต่อประชาชน การบังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอภาค การประกันสิทธิเสรีภาพของประชาชน และการให้บริการแก่ประชาชน คิดเป็นร้อยละ 10.1, 9.6, 5.0, 5.0 และ 2.3 ตามลำดับ เมื่อแยกพิจารณาตามสถานภาพทางเศรษฐกิจและสังคม พบว่า ตัวแปรทุกตัว ทั้งด้านเพศ อายุ สถานภาพสมรส ระดับการศึกษา รายได้ อาชีพ เขตที่อยู่อาศัย และการติดต่อกับตำรวจมีผลต่อความแตกต่างในความคาดหวังในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ในด้านตำรวจตัวแปรที่มีผลต่อความแตกต่างในความคาดหวังของตำรวจ เกี่ยว กับการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจด้วยกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ คือ อายุ สถานภาพสมรส รายได้ อายุราชการ ลักษณะงาน และพื้นที่ปฏิบัติงาน ส่วนตัวแปรด้าน เพศ ระดับ การศึกษา และชั้นยศ มีผลที่ใกล้เคียงกันต่อความแตกต่างในความคาดหวังต่อการปฏิบัติ หน้าที่ของตำรวจด้วยกัน
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
ไศละบาท, มรกต, "ภาพพจน์และความคาดหวังเกี่ยวกับการปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจ" (1986). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 48035.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/48035