Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การวิเคราะห์พัฒนาการขบวนการนิสิตนักศึกษา

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

An analysis of the development of Thai student movement

Year (A.D.)

1986

Document Type

Thesis

First Advisor

ไพทูรย์ สินลารัตน์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

อุดมศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1986.390

Abstract

วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1) ศึกษาการเคลื่อนไหวของนิสิตนักศึกษาที่เกิดขึ้นก่อนปี พ.ศ. 2507 เพื่อเป็นพื้นฐานสร้างความเข้าใจบทบาทของนิสิตนักศึกษาที่มีต่อสังคมในสมัยต่อๆ มา 2) ศึกษาสาเหตุและปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการรวมตัวของนิสิตนักศึกษา ซึ่งมีบทบาทในฐานะกลุ่มผู้นำนิสิตนักศึกษาระหว่าง พ.ศ. 2507-2526 อันจะนำไปสู่ความเข้าใจในพัฒนาการของความคิดทางสังคมของผู้นำนิสิตนักศึกษา ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการกำหนดบทบาทของนิสิตนักศึกษา 3) ศึกษาการดำเนินงานและกิจกรรมซึ่งกลุ่มนำของนิสิตนักศึกษาใช้ในการเคลื่อนไหวเพื่อให้ได้รับความร่วมมือและสนับสนุนจากนิสิตนักศึกษาทั่วไป และเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นในขบวนการนิสิตนักศึกษา วิธีดำเนินการวิจัย ดำเนินการวิจัยตามระเบียบวิธีวิจัยเชิงประวัติศาสตร์ Historical Methods โดยจะศึกษาและรวบรวมข้อมูลจากหนังสือทางด้านการศึกษาและสังคมศาสตร์ วิทยานิพนธ์ วารสาร ระเบียบ คำสั่งต่างๆ ของทางราชการ เพื่อนำมาวิเคราะห์และเรียบเรียงเป็นวิทยานิพนธ์ สรุปการผลการวิจัย 1) การเคลื่อนไหวของนิสิตนักศึกษายุคแรกนั้น เป็นการเคลื่อนไหวเพื่อพิทักษ์ความถูกต้องและความยุติธรรมเรียกร้องสันติภาพ โดยมีคณะกรรมการนักศึกษาเป็นองค์กรนำในการเคลื่อนไหว โดยได้รับอิทธิพลทางด้านความคิดทางสังคมจากกลุ่มก้าวหน้าในวงการหนังสือและวรรณกรรมยุคนั้น รูปแบบของการเคลื่อนไหวนั้นนอกจากจะใช้การชุมนุม การประท้วง การเดินขบวน แล้วยังมีการเคลื่อนไหวทางด้านแนวคิดใหม่ๆ โดยเฉพาะแนวความคิดสังคมนิยม สำหรับความคิดทางสังคมนั้น มีการเรียกร้องให้นิสิตนักศึกษาออกไปรับใช้สังคมภายหลังสำเร็จการศึกษา และเป็นครั้งแรกที่มีความพยายามจะก่อตั้งองค์กรนิสิตนักศึกษาระหว่างสถาบัน 2) องค์กรนำของนิสิตนักศึกษามี 2 ลักษณะ คือ แบบเป็นทางการ และไม่เป็นทางการ ซึ่งมีบทบาทควบคู่กันมาเสมอ แบบเป็นทางการ ก็คือ คณะกรรมการองค์การนิสิตนักศึกษา ซึ่งเป็นองค์กรนำระดับสถาบัน และศูนย์กลางนิสิตนักศึกษา องค์การนิสิตนักศึกษา 20 สถาบัน, และสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นองค์กรนำระดับขบวนการในแต่ละยุคสมัยตามลำดับ สำหรับกลุ่มที่ไม่เป็นทางการ คือ กลุ่มอิสระ ซึ่งยุคแรกเป็นการรวมตัวของนิสิตนักศึกษาต่างสถาบันที่สนใจ ปรัชญา วรรณกรรม และปัญหาสังคม มีลักษณะแปลกแยก แสวงหา ปฏิเสธอำนาจ ในยุคต่อมาเป็นการรวมตัวของนิสิตนักศึกษาภายในสถาบันที่สนใจปัญหาสังคมและการเมือง มีลักษณะกร้าวแกร่ง และแสวงหาอำนาจมากขึ้น กลุ่มอิสระนับว่ามีบทบาทสำคัญในการสร้างขบวนการนิสิตนักศึกษาไทย 3) ความขัดแย้งขององค์กรทั้งสองประเภทเกิดขึ้นจากแนวความคิดที่แตกต่างกันและการมองยุทธศาสตร์ ยุทธวิธีต่างกัน จนกระทั่งได้มีการแยกตัวของกลุ่มอิสระตั้งเป็น “สหพันธ์นักศึกษาอิสระแห่งประเทศไทย" ในปี พ.ศ. 2515 และตั้ง “สหพันธ์นักศึกษาเสรีแห่งประเทศไทย" ในปี พ.ศ. 2516 แต่องค์กรทั้งสองสามารถรวมตัวอย่างเป็นเอกภาพทั่วทั้งขบวนการในปี พ.ศ. 2518-2519 โดยรับอิทธิพลทางความคิดบางส่วนจากพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย 4) ปัจจัยทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัยมีผลต่อการเติบโตของขบวนการนิสิต นักศึกษา การจำกัดอิสระและเสรีภาพ ความไร้สาระของงานกิจกรรม การขาดแคลน บรรยากาศทางวิชาการ และความสัมพันธ์ที่ห่างเหินกันของอาจารย์กับนิสิตนักศึกษา เป็นแรงผลักดันให้นิสิตนักศึกษาออกไปแสวงหาภายนอกสถาบัน โดยมีนักวิชาการ กลุ่มก้าวหน้าทางความคิดเป็นผู้เกื้อหนุนให้แนวความคิดพัฒนาไปมากขึ้น และการเรียนรู้สภาพที่เป็นจริงของปัญหาในชนบทและปัญหาสังคมเมือง ตลอดจนระบบปกครองแบบเผด็จการ เป็นตัวเร่งให้นิสิตนักศึกษาแสวงหาทางออกให้กับสังคม สิ่งเหล่านี้ก่อรูปเป็นความคิดที่ทำให้นิสิตนักศึกษาต้องการมีบทบาททางสังคมและการเมืองมากยิ่งขึ้น 5) ภายหลังการปราบปรามในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2516 นิสิตนักศึกษาที่มีความคิดก้าวหน้าได้กลับมามีบทบาทอีกครั้งหนึ่ง สามารถก่อตั้งองค์การนิสิตนักศึกษา สภานิสิต นักศึกษา และพรรคของนิสิตนักศึกษาได้สำเร็จ แต่เนื่องจากอิทธิพลความคิดของพรรคคอมมิวนิสต์ที่ยังหลงเหลืออยู่ ประกอบกับความหวาดกลัวจากการถูกปราบปราม การจัดองค์กรแบบปิดลับและเคร่งครัดในวินัย ทำให้เกิดความขัดแย้งในการปฏิบัติงาน ความด้อยประสบการณ์และสถานการณ์ทางการเมืองที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ไม่สามารถสร้างบทบาทให้เป็นที่ยอมรับของนิสิตนักศึกษาได้อย่างแท้จริง 6) กลุ่มก้าวหน้าในขบวนการนิสิตนักศึกษาเริ่มมีปัญหาทางความคิด เมื่อกลุ่มประเทศสังคมนิยมเกิดความขัดแย้ง และแย่งชิงอำนาจกันเอง มีนิสิตนักศึกษาที่เข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์ฯ เดินทางกลับสู่เมืองจำนวนมาก มีการวิพากษ์วิจารณ์แนวความคิดต่างๆ ในขบวนการนิสิตนักศึกษา และทำให้เกิดความแตกต่างในวิธีการมองปัญหา ทิศทางของการเคลื่อนไหว อันเป็นจุดของความแตกแยกในขบวนการนิสิตนักศึกษา 7) การเคลื่อนไหวของนิสิตนักศึกษาระยะหลังเป็นการรวมตัวเฉพาะในสถาบันหรือเพียงไม่กี่สถาบัน จนกระทั่งมีการก่อตั้ง “สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย" ขึ้นในปี พ.ศ. 2527 เป็นองค์กรนำระดับขบวนการ บทบาทของนิสิตนักศึกษาได้เริ่มต้นอย่างเป็นระบบใหม่อีกครั้งหนึ่ง ขบวนการนิสิตนักศึกษานั้น เกิดและเติบโตอย่างมีความสัมพันธ์กับสภาพทางสังคมและสิ่งแวดล้อมในมหาวิทยาลัย ภายในมหาวิทยาลัยนั้น ปัญหาจากการเรียนการสอนบรรยากาศทางวิชาการและงานกิจกรรมนิสิตนักศึกษา เป็นประเด็นสำคัญที่สร้างความไม่พอใจแก่นิสิตนักศึกษาเสมอมา ดังนั้นผู้บริหารควรให้โอกาสนิสิตนักศึกษาได้แสวงหาและพัฒนาตนเองจากงานวิชาการและงานกิจกรรมอย่างเป็นอิสระโดยแท้จริง โดยผู้บริหารควรติดตามความเปลี่ยนแปลงทางความคิด ความต้องการ และความสนใจของนิสิตนักศึกษาอย่างใกล้ชิดผ่านทางงานเขียนหรือกิจกรรมของพวกเขา เพื่อจะได้แก้ไขปัญหาความขัดแย้งต่างๆ ได้อย่างทันท่วงที

Share

COinS