Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
ความคิดเห็นของครูสังคมศึกษาเกี่ยวกับบทบาทของครูสังคมศึกษา ในการแนะแนวนักเรียน
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Social studies teachers' opinions concerning their roles in students' guidance
Year (A.D.)
1986
Document Type
Thesis
First Advisor
พิบูลศรี วาสนสมสิทธิ์
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
ครุศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
มัธยมศึกษา
DOI
10.58837/CHULA.THE.1986.278
Abstract
วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1.เพื่อศึกษาความคิดเห็นของครูสังคมศึกษาในโรงเรียนมัธยมศึกษาเกี่ยวกับบทบาทในการแนะแนวนักเรียนในด้านการศึกษา อาชีพและการพัฒนาบุคลิกภาพ โดยการจัดการเรียนการสอนในห้องเรียน และการจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตร 2.เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นเกี่ยวกับบทบาทในการแนะแนวนักเรียนระหว่างครูสังคมศึกษาที่มีประสบการณ์การสอนต่างกัน วิธีดำเนินการวิจัย กลุ่มตัวอย่างประชากรในการวิจัย เป็นครูสังคมศึกษาในโรงเรียนรัฐบาลระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 388 คน ซึ่งได้จาการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling) ผู้วิจัยได้สร้างแบบสอบถามความคิดเห็นขึ้น 1 ชุด ประกอบด้วยคำถามแบบเลือกตอบ (Check-list) แบบมาตราส่วนประเมินค่า (rating scale) และแบบปลายเปิด (Open ended question) แบบสอบถามมีค่าความเที่ยงเท่ากับ 0.89 แล้วนำไปสอบถามกลุ่มตัวอย่างประชากร และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้วิธีหาค่าร้อยละ ค่ามัชฌิมเลขคณิต (x) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และทดสอบค่าที (t-test) แล้วนำเสนอในรูปตารางประกอบความเรียง ผลการวิจัย 1.การศึกษาความคิดเห็นของครูสังคมศึกษา เกี่ยวกับบทในการแนะแนวนักเรียนในด้านการศึกษา อาชีพและการพัฒนาบุคลิกภาพ ปรากฏผลดังนี้ ก.โดยการจัดการเรียนการสอนในห้องเรียน ครูส่วนใหญ่เห็นด้วยมากว่าควรปฏิบัติเกือบทุกด้าน นอกจาการเรียนการสอนเรื่องสหกรณ์ ซึ่งครูเห็นด้วยปานกลางว่าครูควรให้นักเรียนรู้จักเลือกและตัดสินใจเลือกอาชีพในอนาคต โดยการนำนักเรียนชมงานสหกรณ์ร้านค้าในเขตชุมชน หรือท้องถิ่นที่ดำเนินงานที่ประสบผลสำเร็จแล้ว เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีในการประกอบอาชีพต่อไป ข.โดยการจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตร ครูส่วนใหญ่เห็นด้วยมากว่าควรปฏิบัติเกือบทุกด้าน นอกจากการจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรบางกิจกรรม ซึ่งครูเห็นด้วยปานกลางว่าควรปฏิบัติ ได้แก่ การจัดกิจกรรมมี่ให้ความรู้ทางวิชาการ เช่น เชิญวิทยากรมาบรรยาย จัดอภิปรายหรือโต้วาที นำนักเรียน ไปศึกษานอกสถานที่ สาธิตผลงานกิจกรรมทางด้านวิชาการและการจัดกรรมการนักเรียนหรือชมรมกิจกรรมนักเรียนเพื่อเป็นศูนย์ประสานงานจัดทำเอกสารเผยแพร่ความรู้ ครูควรพานักเรียนไปชมและฝึกงานอาชีพต่างๆ ในห้องถิ่น ตลอดจนครูควรติดต่อสัมพันธ์กับนักจิตวิทยา เพื่อช่วยเหลือนักเรียนให้มีสุขภาพจิตที่ดี 2.การเปรียบเทียบความคิดเห็นเกี่ยวกับบทบาทในการแนะแนวนักเรียนด้านการศึกษา ก.อาชีพและการพัฒนาบุคลิกภาพ ระหว่าง ครูสังคมศึกษาที่มีประสบการณ์การทำงาน 1-14 ปี ปละครูสังคมศึกษาที่มีประสบการณ์การทำงาน 15ปีขึ้นไป ปรากฏดังนี้ ก. โดยการเรียนการสอนในห้องเรียน พบว่า ครูสังคมศึกษาทั้ง 2 กลุ่มมีความคิดเห็นโดยส่วนรวมไม่แตกต่างกันที่ระดับความมีนัยสำคัญ 0.01 แต่เมื่อพิจารณาในรายละเอียดปรากฏว่าครูทั้ง 2 กลุ่ม มีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ในเรื่องต่อไปนี้คือ คือ ครูควรบอกนักเรียนให้เข้าใจเกี่ยวกับข้อเสนอแนะเพิ่มเติมในบทเรียน ครูควรใช้เทคนิคทางจิตวิทยา และการแนะแนวจูงใจให้นักเรียนเห็นประโยชน์ของการเรียนวิชาสังคมศึกษา วางแผนการเยนวิชาต่างๆ ร่วมกับนักเรียนโดยสอดแทรกวิธีเรียนที่ดีให้นักเรียนรู้จักการแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผลและแนะแนวให้นักเรียนได้ศึกษาหาความรู้ด้วยตนเองสามารถสรุปสาระสำคัญในเนื้อหาแต่ละบทเรียนได้อย่างถูกต้อง ครูควรบอกคุณค่าและความสำคัญของวิชาที่สอนเพื่อค้าหาความสนใจ ความถนัดของนักเรียนแต่ละคนเพื่อเป็นแนวทางในการเลือกวิชาและอาชีพ และเกี่ยวกับการพัฒนาบุคลิกภาพโดยการสอนวิชาสังคมศึกษา เรื่องมารยาทในสังคมและการปฏิบัติตนต่อผู้ใหญ่ ครูควรบอกหลักและแนวทางให้นักเรียนจัดกิจกรรมโดยการสาธิต การแสดงละคร ครูประพฤติตนเป็นตัวอย่างและสอดแทรกการสอนเรื่องการรักษาระเบียบวินัยและบรรทัดฐานที่วางไว้ของโรงเรียน ครูควรให้ความรู้เกี่ยวกับสภาพเหตุการณ์บ้านเมืองทั้งภายในและภายนอกประเทศเพื่อให้นักเรียนตระหนักในหน้าที่และกระทำตนเป็นพลเมืองดีของชาติ เมื่อการเรียนการสอนวิชาสังคมศึกษาจะสิ้นสุดลงในแต่ละภาคครูควรเสริมกำลังใจ ด้วยการให้รางวัลหรือชมเชย และครูควรชี้แจงให้นักเรียนทราบข้อบกพร่องและเสนอแนะแนวทางปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นต่อไป ข. โดยการจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตร ปรากฏว่าครูสังคมศึกษาทั้ง 2 กลุ่ม มีความคิดเห็นโดยส่วนรวมไม่แตกต่างกันที่ระดับความมีนัยสำคัญ 0.01 แต่เมื่อเปรียบเทียบรายข้อปรากฏว่าครูสังคมศึกษาทั้ง 2 กลุ่ม มีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ในเรื่องต่อไปนี้ คือ เรื่องการจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรที่ให้ความรู้ทางวิชาการโดยเชิญวิทยากรมาบรรยาย การฝึกให้นักเรียนเขียนโครงการ กำหนดจุดมุ่งหมายการดำเนินงานและขั้นตอนการทำงาน รู้จักประสานกับหน่วยงานหรือองค์การที่เกี่ยวข้องเพื่อให้งานดำเนินไปด้วยดี และครูควรสอดแทรกความรู้เรื่องความอดทน การเรียนรู้งาน ความมีระเบียบวินัย ความสะอาด ความรับผิดชอบให้นักเรียนด้วย
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
เพ็ชรกุล, จริมศรี, "ความคิดเห็นของครูสังคมศึกษาเกี่ยวกับบทบาทของครูสังคมศึกษา ในการแนะแนวนักเรียน" (1986). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 47425.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/47425