Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
แนวโน้มการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนวิชาภาษาไทยเพื่อพัฒนาทักษะ การแก้ปัญหาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Trends in Thai language instructional activity management for developing problem solving skill at the lower secondary education level
Year (A.D.)
1986
Document Type
Thesis
First Advisor
สายใจ อินทรัมพรรย์
Second Advisor
อุ่นตา นพคุณ
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
ครุศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
มัธยมศึกษา
DOI
10.58837/CHULA.THE.1986.277
Abstract
วัตถุประสงค์ของการวิจัย เพื่อศึกษาแนวโน้มในการตัดกิจกรรมการเรียนการสอนวิชาภาษาไทย เพื่อพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น วิธีดำเนินการวิจัย ผู้วิจัยได้สร้างแบบสอบถาม 2 ชุด คือใช้เทคนิคเดลฟายกับกลุ่มตัวอย่างประชากรซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาไทยจำนวน 22 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามเดลฟายทั้งหมด 3 รอบ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการคำนวณหาค่ามัธยฐาน ฐานนิยม และพิสัยระหว่างควอไทล์ เครื่องมือในการวิจัยอีกชุดหนึ่งเป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนวิชาภาษไทย ซึ่งกลุ่มตัวอย่างประชากรเป็นครูภาษาไทยที่สอนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจำนวน 98 คน จากโรงเรียนรัฐบาล 17 แห่ง ในเขตกรุงเทพมหานคร ข้อมูลที่ได้นำมาหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ข้อมูลจากแบบสอบถามทั้ง 2 ชุดนำเสนอผลในรูปตารางและความเรียง ผลการวิจัย ผลการวิจัยปรากฏว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาไทยมีความคิดเห็นสอดคล้องกันในระดับมากที่สุดเกี่ยวกับแนวโน้มการจัดกิจกรมการเรียนการสอนวิชาภาษไทยเพื่อพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ในปีพุทธศักราช 2538 ดังนี้ 1. หลักและวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่มีส่วนช่วยพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาให้แก่นักเรียนนั้น ควรเปิดโอกาสให้นักเรียนมีส่วนร่วม ใช้หลักการฝึกปฏิบัติจริง มีการวางแผนกิจกรรมล่วงหน้ามีจุดมุ่งหมายที่แน่นอน เป็นกิจกรรมที่เหมาะสม ประหยัด และเกิดประโยชน์ ฝึกให้มีความรับผิดชอบ ควรจัดทำคู่มือครูเพื่อแนะนำแนวทางการจัดนำกระบวนการกลุ่มมาใช้ฝึกกิจกรรมทักษะทางภาษา คือ การพูด การฟัง การอ่าน และการเขียน เพราะเป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ช่วยส่งเสริมและพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาควรเป็นกิจกรรมที่ฝึกความเป็นผู้นำและผู้ตาม ควรเริ่มจัดกิจกรรมเพื่อฝึกการแก้ปัญหาตั้งแต่ระดับประถมศึกษา ควรเน้นกิจกรรมที่ฝึกการวิเคราะห์วิจารณ์เน้นความเป็นประชาธิปไตยและฝึกการแก้ปัญหาในสถานการณ์จำลองให้นักเรียนค้นหาวิธีแก้และคำตอบด้วยตนเอง2. ลักษณะของคนแก้ปัญหาเป็นควรเป็นคนมองเห็นปัญหาอย่างฉับไว ค้นพบวิธีแก้ปัญหาอย่างรวดเร็ว มีเหตุผล ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้ มีทัศนคติที่ดีต่อสังคม เป็นคนสุขุมใจเย็น มีสุขภาพดี มีความเฉลียวฉลาด เชื่อมั่นในตนเอง เคารพความคิดเห็นและปัญญาของผู้อื่น มีความกระตือรือร้น มีทักษะทางภาษาดีทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศอย่างน้อยหนึ่งภาษา สามารถนำกระบวนการแก้ปัญหาแบบวิทยาศาสตร์ หรือแบบอริยสัจสี่มาใช้ในชีวิตประจำวันได้ 3. การจัดการศึกษาของไทยเพื่อสร้างลักษณะคนแก้ปัญหาเป็นให้เกิดขึ้นนั้นจะต้องขึ้นอยู่กับกระบวนการสอนของครูที่จะโน้มนำให้นักเรียนมีลักษณะของการเป็นนักแก้ปัญหารวมทั้งจัดกิจกรรมการเรียนการสอนต่างๆ ให้สอดคล้องตามวัตถุประสงค์ของเนื้อหาการเรียนและเหมาะสมกับวัยด้วย 4. ครูภาษาไทยจะเข้าใจบทบาทของตนที่มีต่อการพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาให้แก่นักเรียน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นมากขึ้น ถ้าทิศทางทางการศึกษาของไทยมุ่งเน้นในเรื่องนี้อย่างจริงจัง และการจัดระบบการเรียนการสอนเริ่มคล่องตัวขึ้น 5. อุปสรรค ปัญหาและข้อเสนอแนะ ก็คือ เรื่องค่านิยมที่เน้นให้สอบเข้ามหาวิทยาลัย ครูอาจมุ่งสอนแต่เนื้อหาวิชาจนมีโอกาสจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาน้อยละ ควรมีการอบรม สัมมนาครูโดยไม่เน้นเฉพาะทฤษฎี แต่ควรให้ครูได้ฝึกปฏิบัติจริงให้มากที่สุด สำหรับสภาพการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนวิชาภาษาไทยในปัจจุบันนั้น ครูภาษาไทยมีความคิดเห็นสอดคล้องกันในระดับมากกว่า กิจกรรมที่มีส่วนช่วยพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาให้แก่นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นอันดับแรกมีดังนี้ กิจกรรมหลักภาษาในชั้นเรียน ได้แก่ การนำคำที่นักเรียนมักสะกดผิดมาให้อ่านและเขียน กิจกรรมหลักภาษานอกชั้นเรียน ได้แก่ การแข่งขันต่อคำพังเพย กิจกรรมวรรณคดีในชั้นเรียนได้แก่ การให้นักเรียนวิจารณ์และอภิปรายเหตุผลเกี่ยวกับพฤติกรรมของตัวละคร กิจกรรมวรรณคดีนอกชั้นเรียน ได้แก่ การทายปัญหาสำคัญๆ จากวรรณคดี กิจกรรมการใช้ภาษาในชั้นเรียน ด้านการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียนได้แก่ การฟังข่าวบทความสารคดีแล้ววิเคราะห์ การพูดวิจารณ์ข่าว บทความ หรือหนังสือพิมพ์ การอ่านประเด็นสำคัญต่างๆ แล้วอภิปรายกันเอง และการเขียนอภิปรายการแก้ปัญหาจากที่ครูสมมุติเหตุการณ์ขึ้น ตามลำดับ กิจกรรมการใช้ภาษานอกชั้นเรียน ด้านการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ได้แก่ การฟังรายการตอบปัญหาภาษาไทย การฝึกพูดในที่ประชุม หรือบนเวที การวิจารณ์หนังสือและการทำจุลสารหรือหนังสืออนุสรณ์ของโรงเรียน ตามลำดับ
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
วรรณศิริ, เศาร์นลิน, "แนวโน้มการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนวิชาภาษาไทยเพื่อพัฒนาทักษะ การแก้ปัญหาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น" (1986). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 47424.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/47424