Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
The Chatbot-assisted VS. brief dietary advice in FODMAPs restriction phase in patients with bloating: randomized controlled trial
Year (A.D.)
2024
Document Type
Thesis
First Advisor
ฐนิสา พัชรตระกูล
Second Advisor
สุเทพ กลชาญวิทย์
Faculty/College
Faculty of Medicine (คณะแพทยศาสตร์)
Department (if any)
Department of Medicine (ภาควิชาอายุรศาสตร์ (คณะแพทยศาสตร์))
Degree Name
วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
อายุรศาสตร์
DOI
10.58837/CHULA.THE.2024.762
Abstract
การจำกัดอาหารที่ถูกย่อยสลายโดยจุลชีพในลำไส้ (FODMAPs) โดยนักโภชนาการเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพในการรักษาผู้ป่วย DGBI ที่มีอาการท้องอืด แต่มีข้อจำกัดด้านการเข้าถึงและการติดตามอาการ งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินประสิทธิภาพของแชทบอทในการให้คำแนะนำด้านอาหารในช่วงการจำกัด FODMAPs เป็นเวลา 4 สัปดาห์ เปรียบเทียบกับการให้คำแนะนำแบบสั้น วิธีการศึกษา: การศึกษาจัดทำในผู้ป่วยโรคระบบทางเดินอาหารทำงานผิดปกติ (Disorders of Gut-Brain Interaction) ที่มีอาการท้องอืดต่อเนื่องเกิน 6 เดือน และรับประทานอาหารที่มี FODMAPs สูงมากกว่า 7 รายการต่อสัปดาห์ หลังจากการเก็บข้อมูลพื้นฐาน 1 สัปดาห์ ผู้เข้าร่วมทั้งหมดจะได้รับคำแนะนำเรื่องการจำกัดอาหาร FODMAPs เป็นเวลา 5 นาทีจากแพทย์ และสุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ (1) กลุ่มแชทบอท: ได้รับคำแนะนำด้านอาหารผ่านแชทบอท ซึ่งสามารถระบุเนื้อหา FODMAPs จากรายการอาหารมากกว่า 300 รายการ (2) กลุ่มควบคุม: ได้รับเพียงคำแนะนำแบบสั้น ทั้งสองกลุ่มบันทึกอาหารและอาการผ่านแอปพลิเคชันบันทึกรายการอาหาร ผู้ตอบสนองต่อการรักษาคือผู้ที่มีอาการดีขึ้นมากกว่าร้อยละ 30 ในด้านอาการท้องอืด ปวดท้อง หรืออาการโดยรวมระบบทางเดินอาหารหลังการจำกัดอาหาร FODMAPs ที่สัปดาห์ที่ 4 เปรียบเทียบกับก่อนการจำกัดอาหาร ผลการศึกษา: ผู้ป่วย 64 ราย เป็นผู้หญิง 50 ราย วินิจฉัยโรคลำไส้แปรปรวน 32 ราย กลุ่มที่ได้รับแชทบอทมีอัตราการตอบสนองสูงกว่ากลุ่มควบคุม ร้อยละ 59 เทียบกับร้อยละ 31 และมีการลดความรุนแรงของอาการท้องอืด [3(2.1–4) คะแนน เหลือ 2(1–3) คะแนน] การบริโภคอาหารที่มี FODMAPs สูงลดลง [20.5(13.5–37) รายการ/สัปดาห์ เหลือ 15(9.2–22) รายการ/สัปดาห์] และมีคะแนนความรู้ในการจำแนกอาหาร FODMAPs เพิ่มขึ้น [34.5(31–35.7) คะแนน เป็น 38(34–44) จากคะแนนเต็ม 60]; ทุกผลลัพธ์มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.05) ในกลุ่มที่มีอาการท้องอืดที่รบกวนชีวิตประจำวัน (คะแนนท้องอืดตั้งต้น มากกว่าเท่ากับ 3 คะแนน) กลุ่มแชทบอทยังมีอัตราการตอบสนองสูงกว่า ร้อยละ 69.5 เทียบกับร้อยละ 36.3 และมีความรุนแรงของ อาการท้องอืดลดลง การบริโภคอาหารที่มี FODMAPs สูงลดลง และมีคะแนนความรู้ในการจำแนกอาหาร FODMAPs เพิ่มขึ้นอย่าง มีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.05) สรุป: การให้คำแนะนำด้านอาหารโดยใช้แชทบอทสามารถช่วยลดการบริโภคอาหาร FODMAPs สูง บรรเทาอาการ ท้องอืด และเพิ่มความรู้ในการจำแนกชนิดอาหาร FODMAPs ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในผู้ที่มีอาการท้องอืดที่รบกวน ชีวิตประจำวัน การศึกษาสนับสนุนการใช้แชทบอทเป็นเครื่องมือในการจัดการผู้ป่วยโรคระบบทางเดินอาหารทำงานผิดปกติที่มี อาการท้องอืดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Other Abstract (Other language abstract of ETD)
Dietary advice by dietitians is effective but limited by their availability. This study investigates the effectiveness of chatbot-assisted dietary advice during a 4-week FODMAP restriction phase compared to brief dietary advice. Methods: Participants with disorders of gut-brain interaction (DGBI) experiencing bloating for > 6 months and consuming >7 high-FODMAP items/week after a 1-week run-in were included. All received a 5-minute FODMAPs consultation from a GI fellow and were randomized into two groups: (1) Chatbot group: received real-time dietary advice via a chatbot to identify FODMAP content from a 300-item list; (2) Control group: received only brief dietary advice. Both groups logged food intake and symptoms via a diary app. Responders were those achieving ≥30% reduction in daily worst bloating, abdominal pain, or global symptoms after 4 weeks. Results: Among 64 participants (50 females, 32 with IBS), the chatbot group had a higher response rate (59% vs. 31%) and significant improvements in bloating severity [VAS: 3(2.1–4) to 2(1–3)], high-FODMAP intake items [20.5(13.5–37) to 15(9.2–22) items/week, and FODMAPs knowledge [34.5(31–35.7) to 38(34–44), score 0-60]; all P<0.05. Among those with bothersome bloating (VAS ≥3, n=45), the chatbot group showed higher response rates (69.5% vs. 36.3%), lower bloating severity, reduced high FODMAPs intake, and greater dietary knowledge improvement (all P<0.05). Conclusion: Chatbot-assisted dietary advice effectively reduces high FODMAP intake, improves bloating, and enhances dietary knowledge, particularly in patients with bothersome bloating, supporting its feasibility for DGBI management. (Thaiclinicaltrials.org, Number TCTR 20230530004)
Creative Commons License
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
สมวนาพานิช, พชร, "การศึกษาแบบสุ่มเปรียบเทียบระหว่างการใช้แชทบอทแนะนำการหลีกเลี่ยงอาหารที่ถูกย่อยสลายโดยจุลชีพในลำไส้ กับการแนะนำแบบสั้นในผู้ป่วยโรคทางเดินอาหารทำงานผิดปกติที่มีอาการท้องอืด" (2024). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 74600.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/74600