Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
พฤติกรรมผู้นำของอธิการบดีตามทัศนะของผู้บริหารในมหาวิทยาลัย
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Rectors' leadership behavior according to administrators' university point of view
Year (A.D.)
1982
Document Type
Thesis
First Advisor
วัลลภา เทพหัสดิน ณ อยุธยา
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
ครุศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
อุดมศึกษา
DOI
10.58837/CHULA.THE.1982.274
Abstract
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเพื่อสำรวจทัศนะของผู้บริหารในมหาวิทยาลัยตามวัตถุประสงค์ 5 ประการคือ 1) เพื่อศึกษาพฤติกรรมความเป็นผู้นำของอธิการบดีที่เป็นจริงและควรจะเป็น 2) เพื่อเปรียบเทียบพฤติกรรมความเป็นผู้นำของอธิการบดีมหาวิทยาลัยส่วนกลางกับอธิการบดีมหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาคตามที่เป็นจริงและที่ควรจะเป็น 3) เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของ รองอธิการบดี คณบดีหรือหัวหน้าศูนย์/สถาบัน/สำนัก และหัวหน้ากองในสำนักงานอธิการบดี ที่มีต่อพฤติกรรมของอธิการบดีที่เป็นจริงและที่ควรจะเป็น 4) เปรียบเทียบความคิดเห็นของอธิการบดีและผู้บริหารที่เกี่ยวข้องหรือใกล้ชิดกับอธิการบดีที่มีต่อพฤติกรรมของอธิการบดีที่เป็นจริงและควรจะเป็น และ 5) เพื่อเสนอรูปแบบพฤติกรรมผู้นำของอธิการบดีที่ควรจะเป็นวิธีวิจัยในการวิจัยดังกล่าวผู้วิจัยได้ใช้เครื่องมือคือแบบสอบถามการวัดพฤติกรรมผู้นำของอธิการบดีที่มีความเสี่ยง (Reliability) ทั้งฉบับในส่วนที่เป็นจริง 0.79 และในส่วนพฤติกรรมที่ควรจะจะเป็น 0.03 สอบถามประชากรที่เป็นผู้บริหารในมหาวิทยาลัย 10 แห่ง ซึ่งได้แก่ อธิการบดี รองอธิการบดี คณบดีหรือหัวหน้าศูนย์/สถาบัน/สำนัก และหัวหน้ากองในสำนักงานอธิการบดี จำนวน 222 คน ได้รับแบบสอบถามกลับคืน จำนวน 167 ชุด คิดเป็นร้อยละ 75.23 ของประชากรทั้งหมด สำหรับสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ร้อยละ (Percentage) การวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว (One-way Analysis of Variance) และการทดสอบค่าที (t-test)ผลการวิจัย1.พฤติกรรมผู้นำของอธิการบดีตามที่เป็นจริง พบว่ามีอธิการบดีมหาวิทยาลัย 4 แห่งใน 10 แห่งคิดเป็นร้อยละ 40.00 มีพฤติกรรมทั้งสองด้านคือด้านโครงสร้างการริเริ่ม และด้านจินตอาทรอยู่ในเกณฑ์สูงกว่าค่าเฉลี่ย ส่วนอธิการบดีที่มีพฤติกรรมในด้านโครงสร้างการริเริ่มสูงแต่ด้านจินตอาทรต่ำมีเพียง 3 แห่งใน 10 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 30.00 ในทำนองเดียวกันมีอธิการบดีมหาวิทยาลัย 2 แห่งคิดเป็นร้อยละ 20.00 มีพฤติกรรมทั้งสองด้านอยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย และมีเพียง 1 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 10.00 เท่านั้นที่อธิการบดีมีพฤติกรรมด้านจินตอาทรอยู่ในเกณฑ์สูงในขณะที่ด้านโครงสร้างการริเริ่มอยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย2.พฤติกรรมของผู้นำของอธิการบดีตามที่ควรจะเป็นพบว่ามีมหาวิทยาลัย 5 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 50.00 ต้องการอธิการบดีที่มีพฤติกรรมทั้งสองด้านอยู่ในเกณฑ์สูง มีเพียงแห่งเดียวเท่านั้นที่ต้องการให้อธิการบดีมีพฤติกรรมด้านโครงสร้างการริเริ่มอยู่ในเกณฑ์สูง ในขณะที่ด้านจินตอาทรอยู่ในเกณฑ์ต่ำ และมีมหาวิทยาลัย 4 แห่งที่ต้องการให้อธิการบดีมีพฤติกรรมทั้งสองด้านอยู่ในเกณฑ์ต่ำทั้งคู่3.มีมหาวิทยาลัย 5 แห่ง จาก 10 แห่งเท่านั้นที่ได้อธิการบดีที่มีพฤติกรรมที่เป็นจริงตรงกับความคิดเห็นของผู้บริหารตามที่ควรจะเป็น4.อธิการบดีมหาวิทยาลัยส่วนกลางกับอธิการบดีมหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาคมีพฤติกรรมที่เป็นจริงกับที่ควรจะเป็นเป็นทุกด้านตามทัศนของผู้บริหารไม่แตกต่างกัน ยกเว้นพฤติกรรมที่ควรจะเป็นในด้านจินตอาทร ผู้บริหารมีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 และพบว่าความคิดเห็นของผู้บริหารส่วนภูมิภาคมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าค่าเฉลี่ยตามทัศนะของผู้บริหารมหาวิทยาลัยส่วนกลาง5.การเปรียบเทียบความคิดเห็นของรองอธิการบดี คณบดีหรือหัวหน้าศูนย์/สถาบัน/สำนัก และหัวหน้ากองในสำนักงานอธิการบดีที่มีต่อพฤติกรรมของอธิการบดีในเรื่องต่างๆ 46 ข้อพบว่า พฤติกรรมที่เป็นจริงมีเพียง 8 ข้อที่ผู้บริหารทั้งสามกลุ่มมีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .01 และ .05 ซึ่งไม่เป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้ ส่วนพฤติกรรมที่ควรจะเป็นทั้ง 46 ข้อนั้นผู้บริหารทั้งสามกลุ่มมีความคิดเห็นไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .01 ซึ่งเป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้6.การเปรียบเทียบความคิดเห็นของ อธิการกับผู้บริหารทั้งสามกลุ่มที่มีต่อพฤติกรรมของอธิการบดีในเรื่องต่างๆ 46 ข้อ พบว่า พฤติกรรมที่เป็นจริงมีเพียง 5 ข้อที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 และพฤติกรรมที่ควรจะเป็นมีเพียง 2 ข้อเท่านั้นที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 ซึ่งไม่เป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้7.รูปแบบพฤติกรรมผู้นำของอธิการบดีที่ควรจะเป็น จากผลที่ได้จาการวิจัยมีดังนี้ด้านโครงสร้างการริเริ่ม ควรมีพฤติกรรมดังนี้คือ (1) เลิศวิชาการ (2) บริหารรักษาประโยชน์ผล (3) อดทนกล้าเผชิญเหตุการณ์ (4) ปฏิบัติงานอย่างกระตือรือร้น (5) ท่วมท้นบรรยากาศวิชาการ (6) มอบงานมีหลักเกณฑ์ (7) แจ้งชัดเจนนโยบาย (8) ขยายเหตุผลได้เหมาะสม (9) วิเคราะห์เรื่องถูกต้อง (10) คล่องทางเกณฑ์การปกครอง (11) ทดลองแนวคิดใหม่ (12) ใกล้ชิดติดตามผล (13) ทำงานทุกคนตรงเวลา (14) เจรจาให้ทำตามกฎเกณฑ์ด้านจินตอาทร ควรมีพฤติกรรมดังนี้คือ (1) สร้างขวัญและกำลังใจ (2) ให้เสรีภาพในการทำงาน (3) ประสานความเป็นมิตร (4) คิดเอื้อเฟื้อผู้ร่วมงาน (5) บริหารด้วยน้ำใจ (6) สนับสนุนให้ก้าวหน้า (7) ยอมให้ตัดสินปัญหา (8) ใช้ปรัชญาปกครอง (9) ตามครรลองประชาธิปไตย (10) รู้กลไกเป็นตัวแทน
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
ศรีไสย, สุทธนู, "พฤติกรรมผู้นำของอธิการบดีตามทัศนะของผู้บริหารในมหาวิทยาลัย" (1982). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 61911.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/61911