Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
อำนาจหน้าที่และบทบาทของสมุหพระกลาโหมในสมัยรัตนโกสินทร์
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
The authority and role of Samuha Phra Kalahom during the Ratanakosin period
Year (A.D.)
1982
Document Type
Thesis
First Advisor
วิลาสวงศ์ พงศะบุตร
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
อักษรศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
ประวัติศาสตร์
DOI
10.58837/CHULA.THE.1982.594
Abstract
วิทยานิพนธ์นี้มีจุดมุ่งหมายที่จะศึกษาวิเคราะห์เรื่องราวเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่และบทบาทของสมุหพระกลาโหมในสมัยรัตนโกสินทร์ ตั้งแต่ พ.ศ.2325-2435 ทั้งนี้เพื่อจะได้ทราบถึงอำนาจหน้าที่ในด้านต่างๆ ของสมุหพระกลาโหม บทบาทของสมุหพระกลาโหมแต่ละท่านที่มีต่อการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมของไทยในระยะนั้น ตลอดจนปัจจัยและกระบวนการที่ทำให้ตำแหน่งนี้สิ้นสุดลง ในระบบการบริหารราชการแผ่นดินของไทยสมัยรัตนโกสินทร์ก่อนการปฏิรูปการปกครองในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ตำแหน่งสมุหพระกลาโหมนับเป็นตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีที่สำคัญที่สุดตำแหน่งหนึ่ง สมุหพระกลาโหมมีอำนาจหน้าที่อย่างกว้างขวาง ในระยะแรกนอกจากจะมีอำนาจหน้าที่ทางการทหารแล้ว สมุหพระกลาโหมยังได้ปกครองหัวเมือฝ่ายใต้ และควบคุมไพร่ในหัวเมืองเหล่านั้น รวมทั้งว่าการศาลอาญาในราชธานี ต่อมาภายหลังอำนาจหน้าที่ของสมุหพระกลาโหมยังเพิ่มขึ้นจากเดิม คือได้อำนาจชำระตัดสินคดีความหัวเมืองใต้บังคับบัญชา และจัดการภาษีอากรผูกขาดหลายประเภท โดยเฉพาะหน้าที่หลังนี้ มีส่วนสำคัญทำให้ฐานอำนาจทางเศรษฐกิจของสมุหพระกลาโหมมั่งคงขึ้น เมื่อมีอำนาจหน้าที่และภารกิจมากมายหลายด้านเช่นนี้ สมุหพระกลาโหมจึงจัดว่าเป็นขุนนางสำคัญมากผู้หนึ่ง สมุหพระกลาโหมเริ่มมีบทบาทเด่นทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคมไทยในตอนกลางรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว นอกจากนี้สถานการณ์ทั้งภายในและภายนอกประเทศก็มีส่วนเอื้ออำนวยให้เจ้าพระยาพระคลังว่าที่สมุหพระกลาโหมกลายเป็นขุนนางที่ทรงอิทธิพลที่สุดในตอนปลายรัชกาลนี้ และมีบทบาทสำคัญในการแต่งตั้งพระเจ้าแผ่นดินพระองค์ใหม่ด้วย อำนาจของสมุหพระกลาโหมถึงขั้นสูงสุดเมื่อเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ดำรงตำแหน่งสมุหพระกลาโหม ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บุคลิกความเป็นผู้นำ ความสามารถพิเศษ และพื้นฐานทางเศรษฐกิจสังคมที่มั่นคง ประกอบกับฐานะหน้าที่โดยตำแหน่งสมุหพระกลาโหม ล้วนเป็นปัจจัยส่งเสริมให้เจ้าพระศรีสุริยวงศ์มีอำนาจและอิทธิพลเหนือเจ้านายและขุนนางทั่วไป นอกจากจะมีฐานะเป็นเสมือนหัวหน้าเสานาบดีทั้งหลายแต่เพียงผู้เดียวแล้ว ท่านยังมีบทบาทสำคัญทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ตลอดรัชกาลนี้ ในตอนต้นรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวท่านได้ดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน มีอำนาจสิทธิ์ขาดทั่วพระราชอาณาจักร แต่เมื่อสิ้นสมัยผู้สำเร็จราชการแล้ว อำนาจหน้าที่และบทบาทสมุหพระกลาโหมค่อยๆ ลดน้อยลง เนื่องจากเจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์ สมุหพระกลาโหมคนต่อมาขาดความสามารถเด่นเป็นพิเศษ ประจวบกับเวลานั้นพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราโชบายที่จะรวมพระราชอำนาจสู่พระองค์เอง เพื่อจะทรงเป็นผู้นำในการปรับปรุงและพัฒนาประเทศในแนวทางแบบอย่างตะวันตก ดังนั้นอำนาจหน้าที่ของสมุหพระกลาโหมจึงถูกโยกย้ายไปยังกรมอื่นๆ โดยเฉพาะอำนาจทางการทหาร และการภาษีอากร หลังจากนั้นเมื่อมีการปรับปรุงระเบียบการบริหารราชการแผ่นดินใน พ.ศ.2435 ตำแหน่งนี้ก็ถูกยกเลิกไป
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
บำรุงสุข, สุกัญญา, "อำนาจหน้าที่และบทบาทของสมุหพระกลาโหมในสมัยรัตนโกสินทร์" (1982). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 61630.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/61630