Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ขบวนการต่อต้านญี่ปุ่นของไทยในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 (พ.ศ. 2484-2488)

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

The Thai anti-Japanese movement during world war II (1941-1945)

Year (A.D.)

1982

Document Type

Thesis

First Advisor

ธิติมา พิทักษ์ไพรวัน

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

อักษรศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

ประวัติศาสตร์

DOI

10.58837/CHULA.THE.1982.591

Abstract

ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 (พ.ศ. 2482-2488) เป็นช่วงเวลาสำคัญช่วงหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทย เพราะเป็นช่วงที่ประเทศไทยได้ร่วมมือกับญี่ปุ่นในการทำสงครามกับฝ่ายสัมพันธมิตร ทั้งนี้เป็นผลมาจากประเทศไทยซึ่งมีจอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรีในระยะนั้น (พ.ศ.2481-2487) ยินยอมเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2484 ให้กองทัพญี่ปุ่นใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านในการบุกเข้าดินแดนอาณานิคมของอังกฤษคือพม่าและอินเดีย และต่อมาในวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2485 ก็ได้เข้าร่วมเป็นฝ่ายญี่ปุ่นอย่างเต็มที่ด้วยการประกาศสงครามกับสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ ทั้งที่แต่เดิมเคยประกาศวางตัวเป็นกลางในสงคราม การดำเนินนโยบายเข้าร่วมกับญี่ปุ่นก่อให้เกิดภาวะความไม่สงบเรียบร้อยภายในประเทศอย่างมากทั้งทางด้านเศรษฐกิจการเมือง และวัฒนธรรม ประชาชนได้รับความเดือดร้อนและไม่พอใจต่อสภาพการณ์และการดำเนินนโยบายของรัฐบาลจนทำให้เกิดการเคลื่อนไหวของบุคคลกลุ่มต่าง ๆ ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศเพื่อต่อต้านภาวะเช่นว่านั้น วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มุ่งศึกษาถึง การเคลื่อนไหวต่อต้านของกลุ่มบุคคลต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น โดยพิจารณาทั้งในแง่ของการก่อกำเนิด การเคลื่อนไหวดำเนินการและผลของการปฏิบัติดังกล่าวที่มีต่อประเทศภายหลังที่สงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง จากการศึกษาพบว่า เมื่อจอมพล ป. พิบูลสงคราม ดำเนินนโยบายร่วมมือกับญี่ปุ่นทั้งก่อนหน้าและภายหลังการประกาศสงครามกับฝ่ายสัมพันธมิตรนั้น ได้เกิดการเคลื่อนไหวต่อต้านการดำเนินนโยบายดังกล่าวทั้งภายนอกประเทศและภายในประเทศ การเคลื่อนไหวภายนอกประเทศนั้น ในสหรัฐอเมริกาคนไทยได้รวมกันจัดตั้ง “คนไทยอิสระ" ขึ้นเมื่อ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2484 โดยมี ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช อัครราชทูตไทยประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เป็นผู้นำ การเคลื่อนไหวของกลุ่มนี้ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกาทั้งทางด้านอาวุธและความช่วยเหลือในการฝึกอาวุธ ส่วนในอังกฤษเนื่องจากอังกฤษถือว่าไทยเป็นประเทศคู่สงคราม ประกอบกับอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ไม่ได้ตั้งองค์กรที่จะเคลื่อนไหวต่อต้านนโยบายของรัฐบาลแต่อย่างใด คนไทยในอังกฤษจึงไม่ได้มีการจัดตั้งเป็นองค์การอิสระที่จะดำเนินการเคลื่อนไหว แต่ก็ได้เข้าร่วมกับกองทัพอังกฤษโดยมุ่งหวังที่จะร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตรในการต่อต้านญี่ปุ่นในประเทศ กลุ่มคนไทยในคณะไทยอิสระและในกองทัพอังกฤษต่างได้รับการฝึกฝนด้านยุทธศาสตร์และยุทธวิธีเพื่อส่งตัวเข้ามาปฏิบัติการภายในประเทศในการประสานงานติดต่อภายนอกประเทศกับฝ่ายสัมพันธมิตร ในขณะที่คนไทยภายนอกประเทศดำเนินการเคลื่อนไหวโดยได้รับการสนับสนุนทั้งทางตรงและทางอ้อมจากฝ่ายสัมพันธมิตรอยู่นั้น ภายในประเทศเองก็มีการเคลื่อนไหวของบุคคลฝ่ายต่าง ๆ ทั้งจากฝ่ายพลเรือน ทหาร ตำรวจ และประชาชน ซึ่งในระยะเริ่มแรกการดำเนินการเป็นไปอย่างกระจัดกระจายภายหลังจึงรวมกันอย่างหลวม ๆ โดยมี นายปรีดี พนมยงค์ ซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ (พ.ศ. 2485-2488) เป็นผู้นำกลุ่มต่อต้านภายในประเทศนี้ได้พยายามติดต่อกับฝ่ายสัมพันธมิตรด้วยการส่งตัวแทนชุดต่าง ๆ ลักลอบเดินทางออกนอกประเทศ เพื่อขอความสนับสนุนในการออกไปจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น แม้การจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นจะไม่ประสบผลสำเร็จเพราะฝ่ายสัมพันธมิตรไม่ให้ความสนับสนุน แต่ผลของการติดต่อก็ทำให้ฝ่ายสัมพันธมิตรรับทราบยอมรับการเคลื่อนไหวต่อต้ายญี่ปุ่นของกลุ่มบุคคลในประเทศ และช่วยให้กลุ่มบุคคลที่ดำเนินการเคลื่อนไหวทั้งภายในและภายนอกประเทศร่วมมือประสานงานกัน การร่วมมือกันของฝ่ายต่อต้านทั้ง 2 ฝ่ายนี้เองจึงก่อให้เกิด “ขบวนการเสรีไทย" ขึ้นในระยะต่อมาการเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลภายในประเทศจึงเป็นการเคลื่อนไหวเตรียมการตามแผนทางยุทธศาสตร์ของฝ่ายสัมพันธมิตรที่กำหนดขึ้นในการทำสงครามต่อต้านญี่ปุ่นภายในประเทศไทย แต่ในที่สุดการลุกขึ้นต่อสู่ญี่ปุ่นก็ไม่ได้เกิดขึ้นตามแผนการที่วางเอาไว้ เพราะญี่ปุ่นแพ้สงครามเสียก่อน การเคลื่อนไหวต่อต้านญี่ปุ่นทำจากภายในและภายนอกประเทศ โดยประสานงานร่วมมือตามแผนการณ์ของฝ่ายสัมพันธมิตร โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาส่งผลสำคัญต่อประเทศไทยภายหลังสงครามไม่น้อย เพราะกรณีนี้มีส่วนช่วยให้สถานะของผู้แพ้สงครามโดยสมบูรณ์ ซึ่งควรจะเกิดขึ้นกับประเทศไทยเช่นเดียวกับญี่ปุ่น แต่ประเทศไทยก็ไม่ได้รับการปฏิบัติในขณะประเทศผู้แพ้สงครามอย่างสมบูรณ์เหมือนกับประเทศฝ่ายอักษะอื่น ๆ ที่ได้รับจากฝ่ายสัมพันธมิตร ทั้งที่ประเทศไทยได้ประกาศสงครามกับฝ่ายสัมพันธมิตรก็ตาม อย่างไรก็ดีถ้าพิจารณาอีกแง่มุมหนึ่งอาจกล่าวได้ว่าเหตุการณ์ในช่วงระยะเวลานี้นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ชัดเจนของการขยายอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาในประเทศไทย

Share

COinS