Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
พระราชดำริทางการเมืองของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยุ่หัว
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
The political thought of King Mongkut
Year (A.D.)
1982
Document Type
Thesis
First Advisor
สมบัติ จันทรวงศ์
Second Advisor
ปิยนาถ บุนนาค
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
อักษรศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
ประวัติศาสตร์
DOI
10.58837/CHULA.THE.1982.590
Abstract
สถาบันกษัตริย์ไทยเป็นสถาบันทางการเมืองที่มีการปรับตัวอย่างมากมาโดยตลอด ตามประวัติศาสตร์สถาบันนี้ได้ปฏิรูปตัวเองอย่างต่อเนื่องและปรับสถานะให้ทันสมัยอยู่เสมอเพื่อรักษาไว้ซึ่งสถานภาพที่เหมาะสมในสังคมไทย การปฏิรูปครั้งใหญ่ของสถาบันกษัตริย์ที่ถือเป็นก้าวแรกแห่งการนำประเทศไปสู่ความเจริญแบบตะวันตกได้เริ่มขึ้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 แห่งราชวงศ์จักรี เวลานั้นเมื่อประเทศไทยเริ่มสำนึกในแรงกดดันจากลัทธิล่าอาณานิคมตะวันตก การปฏิรูปของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ไม่เพียงแต่ช่วยให้ประเทศไทยรอดพ้นจากการยึดครองของมหาอำนาจต่างชาติเท่านั้น หากยังส่งอิทธิพลอย่างมากต่อการวางแนวนโยบายการเมืองภายในและภายนอกประเทศในรัชกาลต่อมา จากการวิเคราะห์พระราชประวัติ พระราชกรณียกิจและงานของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มุ่งศึกษาถึงกำเนิดและพัฒนาการแห่งพระราชดำริทางการเมืองของพระองค์ โดยจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษต่อสิ่งซึ่งอาจเป็นแรงบันดาลของความเปลี่ยนแปลงใดๆที่เกิดภายหลัง ผลของการศึกษาพบว่า ทัศนคติทางการเมืองแบบ “จารีตนิยม" ของพระบาทสมเด็จพระจอมเหล้าเจ้าอยู่หัว ที่ก่อตัวขึ้นในช่วงแรกแห่งพระชนม์ชีพได้เปลี่ยนแปลงไปมากในช่วงระยะเวลา 27 ปีต่อมาที่ทรงลี้ภัยการเมืองในสมณเพศ เมื่อทรงตระหนักว่าไม่อาจได้ราชสมบัติตามสิทธิธรรม ระหว่างที่ทรงเป็นพระภิกษุนั้นพระองค์ทรงมีโอกาสที่พระมหากษัตริย์องค์ใดไม่เคยทรงมีมาก่อนในการเรียนรู้สภาพที่เป็นจริงของสังคมและโลกภายนอก พระองค์จึงสามารถพัฒนาพระราชดำริทางการเมืองให้มีลักษณะเฉพาะพระองค์ในเรื่องของพระราชภารกิจแห่งพระมหากษัตริย์ที่พึงมีต่อราษฎรและราชอาณาจักร เมื่อพระองค์ได้เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ ทรงดำเนินการตามพระราชดำริทางการเมืองที่เกิดขึ้นใหม่นี้ ผลก็คือนโยบายต่างประเทศของไทยเปลี่ยนจากการไม่ผูกพันกับประเทศใดมาเป็นการโอนอ่อนยอมตามความต้องการของชาติมหาอำนาจขณะเดียวกันก็เริ่มพัฒนายุทธวิถีถ่วงดุลย์อำนาจในวิธีการทูต ภายในประเทศนั้น พระองค์เริ่มโครงการระยะยาวที่จะรวมศูนย์อำนาจทางการเมืองไว้ที่สถาบันกษัตริย์ ทั้งยังทรงนำกลุ่มผู้สนับสนุนพระองค์ในการเพิ่มพูนความรู้เรื่องวิทยาการสมัยใหม่และเทคโนโลยีของตะวันตก เป็นที่น่าสังเกตว่าในความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนั้นไม่มีสิ่งที่แสดงให้เห็นเลยว่า พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงละทิ้งความเชื่อพื้นฐานเรื่องบทบาทของกษัตริย์สมบูรณาญาสิทธิราชย์ที่เป็นธรรมราชาตามอุดมคติทางพุทธศาสนา เพียงแต่ทรงกำหนดบทบาทธรรมราชาของพระองค์ให้ใกล้ชิดราษฎรยิ่งกว่ารัชสมัยใดที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามข้อจำกัดทางสังคมและการเมืองทำให้ยากที่พระองค์จะดำเนินการตามพระราชดำริทางการเมืองทั้งหมดได้ สิ่งที่พระองค์เริ่มไว้นั้นเป็นรัชทายาทของพระองค์คือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสานต่อจนสำเร็จโดยใช้เวลาเกือบตลอดพระชนม์ชีพ
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
ธีรวัฒน์, นฤมล, "พระราชดำริทางการเมืองของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยุ่หัว" (1982). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 61626.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/61626