Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ความคิดเห็นของผู้บริหารและครูเกี่ยวกับการใช้หลักสูตรประถมศึกษา พุทธศักราช 2521 วิชาดนตรีและนาฏศิลป์ ของโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานคร

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Opinion of administrators and teachers concerning the implementation of the music and drama subjects of the B.E. 2521 elementary curriculuum in elementary schools under the auspices of the Bangkok metropolitan administration

Year (A.D.)

1982

Document Type

Thesis

First Advisor

วีระวัฒน์ อุทัยรัตน์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

บริหารการศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1982.103

Abstract

วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1. เพื่อศึกษาความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียนและครูผู้สอน ดนตรีและนาฏศิลป์เกี่ยวกับการปฏิบัติการใช้หลักสูตรประถมศึกษา พุทธศักราช 2521 วิชาดนตรีและนาฏศิลป์ ของโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานคร 2. เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียนและครูผู้สอนดนตรีและนาฏศิลป์เกี่ยวกับการปฏิบัติในการใช้หลักสูตรประถามศึกษา พุทธศักราช 2521 วิชาดนตรีและนาฏศิลป์ ของโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานคร 3. เพื่อศึกษาความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียนและครูผู้สอนดนตรีและนาฏศิลป์เกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรคของการปฏิบัติในการใช้หลักสูตรประถมศึกษา พุทธศักราช 2521 วิชาดนตรีและนาฏศิลป์ ของโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานคร วิธีดำเนินการวิจัย 1. กลุ่มตัวอย่างประชากรในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วยผู้บริหารโรงเรียนซึ่งได้แก่ ผู้อำนวยการ หรืออาจารย์ใหญ่ หรือครูใหญ่ โรงเรียนประถมศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานคร และครูผู้สอนดนตรีและนาฏศิลป์ ซึ่งได้แก่ครูผู้ทำการสอนดนตรีและนาฏศิลป์ในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานคร โดยเลือกมาจากการสุ่มตัวอย่างโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 412 โรงเรียน โดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบธรรมดา ( Simple Random Sampling ) ได้กลุ่มตัวอย่างประชากรที่เป็นผู้บริหารโรงเรียน จำนวน 210 คน และครูผู้สอนดนตรีและนาฏศิลป์ จำนวน 210 คน จากโรงเรียนที่สุ่มได้ทั้งหมด 210 โรงเรียน รวมกลุ่มตัวอย่างประชาการทั้งสิ้น 420 คน ได้รับแบบสอบถามคืน จำนวน 342 ชุด คิดเป็นร้อยละ 81.42 2. เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เป็นแบบสอบถาม ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ตอนคือ ตอนที่ 1 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับสถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถาม ตอนที่ 2 เป็นแบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติในการใช้หลักสูตรประถมศึกษา พุทธศักราช 2521 วิชาดนตรีและนาฏศิลป์ และตอนที่ 3 เป็นแบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรคของการปฏิบัติในการใช้หลักสูตรประถมศึกษา พุทธศักราช 2521 วิชาดนตรีและนาฏศิลป์ 3. การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้วิธีการทางสถิติ โดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( X ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( S.D.) และการทดสอบค่าที ( t- test )สรุปผลการวิจัย 1. ความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียนและครูผู้สอนดนตรีและนาฏศิลป์เกี่ยวกับการปฏิบัติในการใช้หลักสูตรประถมศึกษา พุทธศักราช 2521 วิชาดนตรีและนาฏศิลป์ ของโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานคร มีดังนี้ 1.1 การแปลงหลักสูตรไปสู่การสอน ผู้บริหารโรงเรียนและครูผู้สอนดนตรีและนาฏศิลป์ มีความคิดเห็นว่า มีการปฏิบัติอยู่ในเกณฑ์น้อย ทุกเรื่อง กล่าวคือ ในเรื่องการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับหลักสูตร การปรับแผนการสอนให้สอดคล้องกับสภาพของท้องถิ่น การจัดกำหนดการสอน และการจัดทำตารางสอน 1.2 การจัดปัจจัยและสภาพต่างๆ ภายในโรงเรียนเพื่อการใช้หลักสูตรผู้บริหารโรงเรียน มีความคิดเห็นว่า มีการปฏิบัติอยู่ในเกณฑ์มาก ส่วนครูผู้สอนดนตรีและนาฏศิลป์ มีความคิดเห็นว่าอยู่ในเกณฑ์น้อย ในด้านอาคารสถานที่ ทั้งผู้บริหารโรงเรียนและครูผู้สอนดนตรีและนาฏศิลป์ มีความคิดเห็นว่า มีการปฏิบัติอยู่ในเกณฑ์น้อย ในด้านสื่อการเรียนการสอนและด้านความสัมพันธ์กับชุมชน สำหรับด้านวิชาการ ผู้บริหารโรงเรียนมีความคิดเห็นว่า มีการปฏิบัติอยู่ในเกณฑ์น้อย ส่วนครูผู้สอนดนตรีและนาฏศิลป์ มีความคิดเห็นว่าอยู่ในเกณฑ์น้อยที่สุด 1.3 การสอนของครู ผู้บริหารโรงเรียนและครูผู้สอนดนตรีและนาฏศิลป์ มีความคิดเห็นว่า มีการปฏิบัติอยู่ในเกณฑ์มาก ในเรื่อง การเตรียมตัวของครูผู้สอนก่อนการสอนกิจกรรมการเรียนการสอนและการวัดและการประเมินผล และมีความคิดเห็นว่า มีการปฏิบัติอยู่ในเกณฑ์น้อย ในเรื่องวิธีสอน สำหรับในเรื่องกิจกรรมเสริมหลักสูตร ผู้บริหารโรงเรียน มีความคิดเห็นว่า มีการปฏิบัติอยู่ในเกณฑ์มาก ส่วนครูผู้สอนและนาฏศิลป์ มีความคิดเห็นว่าอยู่ในเกณฑ์น้อย 2. ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียนและครูผู้สอนดนตรีและนาฏศิลป์ เกี่ยวกับการปฏิบัติในการใช้หลักสูตรประถมศึกษา พุทธศักราช 2521 วิชาดนตรีและนาฏศิลป์ ของโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานคร มีดังนี้ 2.1 การแปลงหลักสูตรไปสู่การสอน ผู้บริหารโรงเรียนและครูผู้สอนดนตรีและนาฏศิลป์ มีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ในเรื่องการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับหลักสูตร การจัดทำกำหนดการสอนและการจัดทำตารางสอน แต่มีความคิดเห็นไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ในเรื่อง การปรับแผนการสอนให้สอดคล้องกับสภาพของท้องถิ่น 2.2 การจัดปัจจัยและสภาพต่างๆภายในโรงเรียนเพื่อการใช้หลักสูตร ผู้บริหารโรงเรียนและครูผู้สอนดนตรีและนาฏศิลป์ มีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ทุกด้าน กล่าวคือ ด้านวิชาการ ด้านอาคารสถานที่ ด้านสื่อการเรียนการสอน และด้านความสัมพันธ์กับชุมชน 2.3 การสอนของครู ผู้บริหารโรงเรียนและครูผู้สอนดนตรีและนาฏศิลป์ มีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ในเรื่องกิจกรรมเสริมหลักสูตร แต่มีความคิดเห็นไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ในเรื่องการเตรียมตัวของครูผู้สอนก่อนการสอน วิธีสอน กิจกรรมการเรียนการสอนและการวัดและการประเมินผล3. ความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียนและครูผู้สอนดนตรีและนาฏศิลป์เกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรคของการปฏิบัติในการใช้หลักสูตรประถมศึกษา พุทธศักราช 2521 วิชาดนตรีและนาฏศิลป์ ของโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานคร มีดังนี้ 3.1 การแปลงหลักสูตรไปสู่การสอน ปัญหาและอุปสรรคที่ผู้บริหารโรงเรียนและครูผู้สอนดนตรีและนาฏศิลป์ มีความคิดเห็นว่าอยู่ในเกณฑ์มาก ได้แก่ บุคลากรผู้รับผิดชอบในการดำเนินการและงบประมาณที่ใช้ในการดำเนินการ 3.2 การจัดปัจจัยและสภาพต่างๆภายในโรงเรียนเพื่อการใช้หลักสูตร ปัญหาและอุปสรรคที่ผู้บริหารโรงเรียนและครูผู้สอนดนตรีและนาฏศิลป์ มีความคิดเห็นว่าอยู่ในเกณฑ์มาก ได้แก่ งบประมาณที่ใช้ในการดำเนินการ เอกสารและวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการดำเนินการ วิทยากรหรือผู้เชี่ยวชาญทางด้านหลักสูตรโดยเฉพาะ วิทยากรหรือผู้เชี่ยวชาญทางด้านดนตรีและนาฏศิลป์โดยเฉพาะ แหล่งวิทยาการทางด้านดนตรีและนาฏศิลป์ภายในท้องถิ่น และวิทยากรหรือผู้เชี่ยวชาญภายนอกโรงเรียนที่จะเข้ามามีส่วนช่วยในการวางแผนพัฒนาการเรียนการสอนดนตรีและนาฏศิลป์ของโรงเรียน 3.3 การสอนของครู ปัญหาและอุปสรรค ที่ผู้บริหารโรงเรียนและครูผู้สอนดนตรีและนาฏศิลป์มีความคิดเห็นว่าอยู่ในเกณฑ์มาก ได้แก่ ครูยังขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเนื้อหาวิชาดนตรีและนาฏศิลป์ สื่อการเรียนการสอนมีไม่เพียงพอ และงบประมาณที่ใช้ในการดำเนินการ 4. ปัญหาและอุปสรรคอื่นๆจากแบสอบถามปลายเปิด ที่สำคัญคือ ขาดครูผู้สอนซึ่งทำหน้าที่สอนวิชาดนตรีและนาฏศิลป์โดยเฉพาะ

Share

COinS