Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ละเมิดอำนาจศาล

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Contempt of court

Year (A.D.)

1982

Document Type

Thesis

First Advisor

พรเพชร วิชิตชลชัย

Second Advisor

มุรธา วัฒนะชีวะกุล

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

นิติศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

นิติศาสตร์

DOI

10.58837/CHULA.THE.1982.330

Abstract

ปัญหาเรื่องการละเมิดอำนาจศาล เป็นปัญหาเรื้อรังที่มีมานาน และยังคงเป็นปัญหาที่หาข้อยุติไม่ได้จนถึงปัจจุบัน เพราะเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับสิทธิเสรีภาพของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีในศาลนั้น จะต้องมีหลักประกันว่าในการดำเนินคดี เขามีสิทธิเต็มที่ภายในขอบเขตของกฎหมาย ปลอดจากความหวาดหวั่นว่าจะถูกลงโทษฐานละเมิดอำนาจศาล ถ้าศาลใช้อำนาจลงโทษโดยไม่เป็นธรรมปราศจากเหตุผลและขาดการไตร่ตรอง โดยคำนึงความสะดวกสบายของศาลแต่เพียงฝ่ายเดียวแล้ว สิทธิเสรีภาพของประชาชนในการดำเนินคดีจะถูกสกัดกั้นโดยสิ้นเชิง และผลสุดท้ายประชาชนทั่วไปอาจเสื่อมความเคารพนับถือ และขาดความศรัทธาต่อสถาบันศาลยุติธรรม แต่ในขณะเดียวกันก็จะต้องคำนึงถึงศาล ซึ่งมีหน้าที่สำคัญในการเป็นประธานการพิจารณาคดีและรักษาความสบเรียบร้อยในศาล เพื่อให้การดำเนินคดีสำเร็จไปด้วยความเรียบร้อย รวดเร็ว บริสุทธิ์ ยุติธรรม จึงต้องบัญญัติกฎหมายให้อำนาจศาลในการที่จะลงโทษจำคุก ปรับ หรือด้วยวิธีการอื่นๆ แก่ผู้ที่ดูหมิ่นเหยียดหยามศักดิ์ศรี หรือรบกวนขัดขวางการพิจารณาคดีของศาลได้ด้วย ฉะนั้น บทบัญญัติเรื่องการละเมิดอำนาจศาล จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีไว้เพื่อเป็นเครื่องมือของศาล แต่บทบัญญัติเรื่องการละเมิดอำนาจศาลในปัจจุบัน ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากทนายความว่าเป็นกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม เพราะตัวบทกฎหมายและการใช้อำนาจลงโทษของศาลไม่มีหลักเกณฑ์ชัดเจนก่อให้เกิดความเสียหาย อันเป็นการกีดกั้นสิทธิเสรีภาพในการดำเนินคดีของประชาชน ขัดต่อหลักนิติธรรมที่ศาลผู้ถูกกระทำละเมิดสั่งลงโทษได้เอง กระทำความผิดครั้งเดียวถูกลงโทษสองซ้ำ และศาลใช้อำนาจลงโทษโดยขาดวิจารณญาน ทำให้เหลิงอำนาจ จึงได้เรียกร้องให้มีการกำหนดหลักเกณฑ์และอำนาจการพิจารณาและสั่งลงโทษให้แน่ชัด รวมทั้งยกเลิกโทษจำคุกด้วย จากการศึกษาปัญหาเรื่องการละเมิดอำนาจศาล ได้แบ่งหลักเกณฑ์การละเมิดอำนาจศาลออกเป็น 4 ประเภท คือ การละเมิดอำนาจศาลทางอาญา การละเมิดอำนาจศาลทางแพ่ง การละเมิดอำนาจศาลโดยตรง และการละเมิดอำนาจศาลโดยอ้อม และกำหนดอำนาจการพิจารณาและสั่งลงโทษไว้ 2 วิธี คือ กระบวนการพิจารณาและสั่งลงโทษ การละเมิดอำนาจศาลโดยตรงกับกระบวนการพิจารณาและสั่งลงโทษการละเมิดอำนาจศาลโดยอ้อม หลักเกณฑ์ดังกล่าวนี้ กฎหมายของไทยบัญญัติไว้ไม่แน่ชัด คงปล่อยให้อยู่ในดุลพินิจของศาลฝ่ายเดียว จึงควรจะได้พิจารณาแก้ไขในเรื่องนี้ให้แน่ชัด ซึ่งจะก่อให้เกิดผลดีแก่ศาล จะได้ใช้หลักเกณฑ์และอำนาจได้ถูกต้องและเป็นธรรมยิ่งขึ้น สำหรับประชาชนผู้เกี่ยวข้องก็จะได้รับหลักประกันต่อสิทธิเสรีภาพในการดำเนินคดีมากขึ้น ส่วนข้อเรียกร้องให้ยกเลิกโทษจำคุก สมควรจะได้พิจารณาไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนก่อนว่า มีเหตุผลสมควรเพียงใด เพราะการดำเนินคดีในศาล บุคคลผู้เกี่ยวข้องจะต้องมีความสำนึกและรับผิดชอบต่อการกระทำใดๆ ต่อศาล ซึ่งกระทำการพิจารณาพิพากษาคดีในพระปรมาภิไธยของพระมหากษัตริย์ ถ้าปรากฏว่าผู้เกี่ยวข้องไม่มีความสำนึกและรับผิดชอบ ก่อให้เกิดปัญหาร้ายแรงขึ้นในระหว่างการพิจารณาคดี และศาลใช้ความอดทน สุขุม รอบคอบแล้ว ก็ไม่สามารถระงับเหตุร้ายได้ การยกเลิกโทษจำคุกก็ไม่เป็นการเหมาะสม แม้แต่ในต่างประเทศก็มีโทษจำกัดเสรีภาพทำนองเดียวกัน ผู้วิจัยจึงได้เสนอแนะ โดยทำการแก้ไขปรับปรุงตัวบทกฎหมายเรื่องละเมิดอำนาจศาล รวมทั้งแก้ไขปรับปรุงตัวบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สอดคล้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน

Share

COinS