Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
ความสามารถในการรับกำลังประชากร ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
The study on boaring capacity of population in Changwat Surat Thani
Year (A.D.)
1981
Document Type
Thesis
First Advisor
เกียรติ จิวะกุล
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
การวางแผนภาคและเมืองมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
การวางผังเมือง
DOI
10.58837/CHULA.THE.1981.26
Abstract
จังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นจังหวัดปิดมานานเนื่องจากในอดีตติดต่อกับจังหวัดอื่น ๆ ในภาคใต้ได้โดยทางรถไฟแต่เพียงทางเดียว เพิ่งมีทางรถยนต์ติดต่อกับจังหวัดอื่น ๆ ได้ในปี 2521 จังหวัดสุราษฎร์ธานีมีพื้นที่มากที่สุดในภาคใต้ มีพื้นที่ 13,802.14 ตารางกิโลเมตร ในปี 2520 มีความหนาแน่นประชากร 41 คนต่อตารางกิโลเมตร ในขณะที่ความหนาแน่นถัวเฉลี่ยของภาคใต้ 77 คนต่อตารางกิโลเมตร ซึ่งความหนาแน่นประชากรของจังหวัดสุราศฎร์ธานียังต่ำกว่าค่าความหนาแน่นเฉลี่ยของภาคอยู่มาก นอกจากนี้ยังเป็นจังหวัดที่มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เช่น ป่าไม้ แหล่งแร่ แหล่งประมง และแหล่งท่องเที่ยว ด้วยเหตุนี้จึงคาดว่าจะมีจำนวนประชากรอพยพเข้ามากยิ่งขึ้นเนื่องจากเส้นทางคมนาคมและความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ จึงได้ศึกษาเพื่อใช้วางแผนในการรับจำนวนประชากรโดยเฉพาะการประกอบอาชีพในด้านกสิกรรมว่าควรจะมีประชากรเท่าใดที่ความจุของพื้นที่สามารถรับได้ โดยให้มีความสอดคล้องและสมดุลย์กันระหว่างทรัพยากรธรรมชาติ และจำนวนประชากรในพื้นที่ จึงแยกวัตถุประสงค์ออกได้เป็น 2 ประการ คือ 1. ความสามารถในการรับจำนวนประชากร เนื่องจากศักย์ในการผลิตของพื้นที่ ในระดับค่าใช้จ่ายครัวเรือนถัวเฉลี่ยของภาคใต้ 1.1 ความสามารถในการรับจำนวนประชากร เนื่องจากมูลค่าจากผลผลิตสาขาเกษตรกรรม เหมืองแร่ อุตสาหกรรม และจากรัฐบาลในอำเภอต่าง ๆ 1.2 ความสามารถในการรับจำนวนประชากรสูงสุดของพื้นที่โดยเฉพาะการกสิกรรม 2. เพื่อต้องการทราบว่า ประชากรในอาชีพเศรษฐกิจหลัก สามารถเลี้ยงประชากรในอาชีพเศรษฐกิจรอง (อาชีพพึ่งพา) ได้เป็นจำนวนเท่าใด ในการศึกษาจึงได้แยกการศึกษาออกเป็น 3 สาขาด้วยกัน คือ ก. การเกษตรกรรม ( Primary Sector ) ซึ่งประกอบด้วยกสิกรรม ปสุสัตว์ ประมง และ ป่าไม้ ข. เหมืองแร่และอุตสาหกรรม ( Secondary Sector) ซึ่งประกอบด้วยการทำเหมืองแร่ และอุตสาหกรรมฐานในจังหวัด ค. รายได้ของข้าราชการ ลูกจ้างและพนักงานรัฐวิสาหกิจ ( Tertiary Sector ) ซึ่งรัฐบาลส่วนกลางจ่ายให้ ในการวิเคราะห์เพื่อให้ได้คำตอบในข้อ 1.1 ได้ โดยนำกำไรสุทธิของผู้ประกอบการในแต่ละสาขา หารด้วยค่าไช้จ่ายครัวเรือน ได้เป็นจำนวนครัวเรือนที่สามารถรับได้ ในแต่ละสาขาของอำเภอต่าง ๆ และในข้อ 1.2 โดยใช้สูตรในการคำนวณ คือ จำนวนครัวเรือนที่สามรถรับได้สูงสุด = (พื้นที่กสิกรรม x ผลกำไรต่อไร่)/ค่าใช้จ่ายครัวเรือน จากผลการศึกษาได้ว่า แต่ละอำเภอมีความสามารถรับจำนวนประชากรแตกต่างกัน และความสามารถในการรับจำนวนประชากรสูงสุด ( Ultimate) เมื่อใช้พื้นที่กสิกรรมเต็มที่จะรับได้ 190,219 ครัวเรือน ซึ่งเพิ่มจากครัวเรือนปี 2520 เป็นจำนวน 111,572 ครัวเรือน สำหรับการวิเคราะห์เพื่อผลในข้อที่ 2 โดยนำรายจ่ายทั้งในด้านการลงทุนและในการอุปโภคของประชากรในอาชีพเศรษฐกิจหลัก ซึ่งส่วนหนึ่งจะตกเป็นกำไรของพ่อค้าบริการ (อาชีพพึ่งพา) และเงินจำนวนนี้ คือ เงินที่ประชากรอาชีพค้าบริการนำไปใช้จ่ายเป็นเงินหมุนเวียนในตลาดการค้ารอบที่ 2 จากการวิเคราะห์สรุปได้ว่า ประชากรในอาชีพเศรษฐกิจหลักสามารถเลี้ยงประชากรในอาชีพเศรษฐกิจรองได้ ร้อยละ 11.80 นั่นคือ ค่าใช้จ่ายจากประชากรอาชีพเศรษฐกิจหลัก 100 คน จะเลี้ยงประชากรในอาชีพเศรษฐกิจรองได้ 11.80 คน จากผลสรุปในข้อ 5.1 ได้นำมาใช้ในการวางแผนพัฒนาจังหวัด เพื่อจัดลำดับความเร่งด่วนในการพัฒนาพื้นที่ยากจนในเขตชนบทของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางและเป้าหมายของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 5
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
วิเศษ, สาโรจน์, "ความสามารถในการรับกำลังประชากร ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี" (1981). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 58343.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/58343