Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ปัจจัยที่ก่อให้เกิดความสัมฤทธิ์ผลในการโน้มน้าวใจสมาชิก ให้ร่วมกันจัดตั้งสหกรยาบ้านเก่า

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Effective factors in persuading the members in organizing the Barn Kao health cooperative project

Year (A.D.)

1981

Document Type

Thesis

First Advisor

อัญชลี ลีสวรรค์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

นิเทศศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

การประชาสัมพันธ์

DOI

10.58837/CHULA.THE.1981.291

Abstract

สหกรยาเป็นรูปแบบหนึ่งของการพัฒนางานสาธารณสุข ซึ่งเป็นการขยายบริการด้านนี้ให้ครอบคลุมประชากรในชนบทให้ได้มากยิ่งขึ้น เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า หัวใจสำคัญของการจัดตั้งสหกรยานั้นขึ้นอยู่กับความร่วมมือของสมาชิกในชุมชนนั้นๆ เป็นสำคัญ ด้วยเหตุผลนี้จึงควรศึกษาว่ามีปัจจัยใดที่สามารถก่อให้เกิดความสัมฤทธิผลในการโน้มน้าวใจประชาชนให้ร่วมกันจัดตั้งสหกรยาในชุมชนนั้นๆ การวิจัยครั้งนี้ จึงมุ่งศึกษาเฉพาะปัจจัยที่ก่อให้เกิดความสัมฤทธิผลในการโน้มน้าวใจสมาชิกให้ร่วมกันจัดตั้งสหกรยาบ้านเก่า โดยทำการศึกษาสมาชิกสหกรยาบ้านเก่า ตำบลบ้านหม้อ อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งเป็นประชากรกลุ่มเป้าหมายจำนวน 89 คน โดยมีวัตถุประสงค์ในการวิจัยดังนี้ คือ 1) เพื่อทราบทัศนคติของสมาชิกสหกรยาบ้านเก่า 2) เพื่อทราบปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความสัมฤทธิผลในการโน้มน้าวใจสมาชิกให้ร่วมกันจัดตั้งสหกรยาบ้านเก่า 3) เพื่อทราบถึงความสำคัญของปัจจัยแต่ละตัวที่ร่วมกันอธิบายความแตกต่างของความสัมฤทธิผลในการโน้มน้าวใจสมาชิก ให้ร่วมกันจัดตั้งสหกรยาบ้านเก่า 4) เพื่อศึกษาปริมาณหรือขอบเขตที่ปัจจัยเหล่านี้ร่วมกันอธิบายความแตกต่างของความสัมฤทธิผลในการโน้มน้าวใจว่ามีมากน้อยเพียงใด การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาถึงสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต (Ex-Post Facto Research) เพื่อต้องการทดสอบสมมุติฐาน 2 ข้อ ดังนี้ คือ 1) ความน่าเชื่อถือของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ความพยายามของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ความพยายามของผู้นำท้องถิ่น เพื่อนบ้านและสมาชิกในครอบครัว การประชุมกลุ่ม สื่อสิ่งพิมพ์ ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ มีความสัมพันธ์กับความสัมฤทธิผลในการโน้มน้าวใจสมาชิกให้ร่วมกันจัดตั้งสหกรยาบ้านเก่าในทิศทางเดียวกัน 2) ความน่าเชื่อถือของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ความพยายามของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ความพยายามของผู้นำท้องถิ่น เพื่อนบ้านและสมาชิกในครอบครัว การประชุมกลุ่ม สื่อสิ่งพิมพ์ ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ เป็นปัจจัยที่ร่วมกันอธิบายความแตกต่างของความสัมฤทธิผลในการโน้มน้าวใจสมาชิกให้ร่วมกันจัดตั้งสหกรยาบ้านเก่าได้ เครื่องมือในการรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม ซึ่งมีทั้งหมด 49 ข้อ โดยแบ่งเป็น 9 ตอน คือ ตอนที่ 1 ภูมิหลังทั่วไป ตอนที่ 2 ความน่าเชื่อถือของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ตอนที่ 3 ความพยายามของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ตอนที่ 4 ความพยายามของผู้นำท้องถิ่น ตอนที่ 5 เพื่อนบ้านและสมาชิกในครอบครัว ตอนที่ 6 การประชุมกลุ่ม ตอนที่ 7 สื่อสิ่งพิมพ์ ตอนที่ 8 ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ และตอนที่ 9 ความสัมฤทธิผลในการโน้มน้าวใจรวบรวมแล้วได้ถูกนำมาวิเคราะห์ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์โปรแกรมสำเร็จรูป (SPSS Program) โดยมีวิธีการดังนี้ คือ 1) การวิเคราะห์เชิงพรรณา (Descriptive Method) ใช้ตารางแจงนับแบบร้อยละ 2) การวิเคราะห์เชิงปริมาณ (Quantitative Method) ใช้สถิติดังนี้ คือ 2.1) การหาค่าสัมประสิทธิ์สหพนธ์แบบ Pearson Product Moment เพื่อทดสอบสมมุติฐานที่ 1 2.2) การวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ แบบเพิ่มหรือลดเป็นขั้นๆ (Stepwise Multiple Regression Analysis) เพื่อทดสอบสมมุติฐานที่ 2 ผลการวิจัยเป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้ ซึ่งสรุปได้ว่า ปัจจัยต่างๆ มีความสัมพันธ์กับความสัมฤทธิผลในการโน้มน้าวใจในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัจจัยการประชุมกลุ่มของประชากรกลุ่มเป้าหมาย มีค่าสัมประสิทธิ์สหพันธ์มากที่สุด คือ 0.72 และปัจจัยต่างๆ สามารถอธิบายค่าความแตกต่างของความสัมฤทธิผลในการโน้มน้าวใจได้ร้อยละ 68.11 โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประชุมกลุ่มซึ่งมีค่าถึงร้อยละ 52.53 เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ก่อให้เกิดความสัมฤทธิผลในการโน้มน้าวใจสมาชิกให้ร่วมกันจัดตั้งสหกรยาบ้านเก่า ส่วนปัจจัยที่สำคัญรองลงมาตามลำดับ ได้แก่ สิ่งสิ่งพิมพ์ ความน่าเชื่อถือของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ความพยายามของผู้นำท้องถิ่น เพื่อนบ้านและสมาชิกในครอบครัว ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ และความพยายามของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข

Share

COinS