Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ปัญหาการบริหารภายในกระทรวงสาธารณสุข : ศึกษาเฉพาะกรณีปัญหาการประสานงานระหว่างสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุขกับโรงพยาบาลในส่วนภูมิภาค

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Administrative problems of the Ministry of Public Health : a case study of coordination between the office of the under-secretary of State and the Provincial Hospitals

Year (A.D.)

1981

Document Type

Thesis

First Advisor

พนม ทินกร ณ อยุธยา

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

รัฐศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

การปกครอง

DOI

10.58837/CHULA.THE.1981.392

Abstract

แรงดลใจสำคัญที่ทำให้ผู้เขียนเกิดความมุมานะสร้างสรรค์วิทยานิพนธ์ ฉบับนี้ก็คือการตระหนักถึงความสำคัญของการประสานงานในการบริหาร และเห็นว่าปัญหาการประสานงานเป็นปัญหาที่สำคัญมากภายในระบบราชการไทย แต่มีผู้สนใจศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้น้อยมาก ผู้เขียนได้เจาะจงเฉพาะปัญหาการประสานงานระหว่างสำนักงานปลัดกระทรวงกระทรวงสาธารณสุขกับโรงพยาบาลในส่วนภูมิภาคมาเป็นกรณีศึกษา โดยเชื่อว่ากระทรวงสาธารณสุขน่าจะเป็นตัวแทนของระบบราชการไทยได้และการศึกษาปัญหาดังกล่าวน่าจะให้ความสำคัญ แก่หน่วยงานของรัฐในส่วนภูมิภาคให้มากที่สุด ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขและของรัฐบาลด้วย ฉะนั้นการศึกษาจึง เกี่ยวกับสาระสำคัญของหลักการประสานงานในระบบราชการทั้งในส่วนที่เกี่ยวกับการประสานงาน (ความหมาย, หลักการ, จุดมุ่งหมาย, รูปแบบ, วิธีดำเนินการเพื่อให้เกิดการประสานงานที่ดี และประโยชน์) และความสัมพันธ์ระหว่างการประสานกับระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ต่อจากนั้นจึงศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข, กองการเจ้าหน้าที่และโรงพยาบาลจังหวัด โดยพิจารณาจากโครงสร้างและอำนาจหน้าที่ที่แต่ละหน่วยงานมีอยู่ และในส่วนที่มีความสัมพันธ์กัน แล้วจึงใช้ประสบการณ์ จากการเป็นข้าราชการในสังกัดกองการเจ้าหน้าที่ สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุขและความคิดเห็นที่ได้จากการสัมภาษณ์ผู้มีประสบการณ์ตลอดจนนักวิชาการที่สนใจศึกษาเกี่ยวกับการบริหารของกระทรวงสาธารณสุข มาสรุปปัญหาการประสานงานเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลระหว่างกองการเจ้าหน้าที่ สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุขกับโรงพยาบาลจังหวัด อย่างไรก็ตาม เพื่อสนับสนุนข้อสรุปเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าวง ผู้เขียนจึงออกแบบสอบถามเจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไปของโรงพยาบาลจังหวัดทั่วประเทศ และศึกษาวิเคราะห์ว่าเจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไปมีความคิดและพฤติกรรมต่อปัญหานี้แตกต่างกันเพียงใด เมื่อคำนึงถึงอายุราชการ, อายุการดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ บริหารงานทั่วไป, การศึกษา, ฐานะของโรงพยาบาลจังหวัดที่เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไปประจำอยู่และระดับความสำพันธ์แบบไม่เป็นทางการที่เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไปมีต่อกองการเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้โดยใช้วิธีการหาค่าสหสัมพันธ์ (correlation) สรุปผลวิจัยได้ว่า ตัวแปรอิสระทั้ง 5 ตัวนี้ มีอิทธิพลในการกำหนดความคิดและพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไปที่มีต่อปัญหาการประสานงานระหว่างกองการเจ้าหน้าที่กับ โรงพยาบาลจังหวัดมากน้อย เรียงตามลำดับคือ ฐานะของโรงพยาบาลจังหวัด (r_ss= 0.82) ระดับความสัมพันธ์แบบไม่เป็นทางการกับกองการเจ้าหน้าที่ (r_s= 0.80) อายุราชการ (r_s= 0.67) ระดับการศึกษา (r_s= 0.45) และอายุการดำลงตำแหน่ง (r_s= 0.31) นอกจากนี้ยังเห็นว่ามีปัญหาการประสานงานระหว่างกองการเจ้าหน้าที่กับโรงพยาบาลจังหวัดทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นในด้านการวางแผน, การติดต่อสื่อสาร, การประสานงานความคิดเห็น, การควบคุมและการเสริมสร้างกำลังใจและการบำรุงขวัญ อย่างไรก็ตามแก้ไขปัญหาดังกล่าวอยู่นอกเหนือขีดความสามารถและอำนาจหน้าที่ของกองการเจ้าหน้าที่เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับกฎเกณฑ์และระเบียบต่างๆ ของทางราชการ รวมทั้งนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขอีกด้วย การแก้ไขปัญหาจึงควรดำเนินการในระดับกระทรวง และประสานงานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

Share

COinS