Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
การวิเคราห์ทางการเงินของอุตสาหกรรมหลอดไฟฟ้า
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Financial analysis of electric-lamp industry
Year (A.D.)
1981
Document Type
Thesis
First Advisor
ธดาวดี มีนะกนิษฐ
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
บัญชีมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
การบัญชี
DOI
10.58837/CHULA.THE.1981.335
Abstract
อุตสาหกรรมหลอดไฟฟ้า จัดเป็นอุตสาหกรรมทดแทนการนำเข้าที่สำคัญอุตสาหกรรมหนึ่งซึ่งผลิตสินค้า เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคภายในประเทศ โดยการสั่งวัตถุดิบจากต่างประเทศเข้ามาทำการผลิตเอง ในระยะหลังราคาวัตถุดิบได้สูงขึ้น และมีการแข่งขันกันมาก ทั้งจากผู้ผลิตภายในประเทศด้วยกันเอง และจากสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศ ก่อให้เกิดปัญหาแก่ผลิตเป็นอย่างมาก วิทยานิพนธ์นี้จึงมุ่งศึกษาถึงฐานะทางการเงินของผู้ผลิตทั้งหมดในอุตสาหกรรม โดยทำการวิเคราะห์ตัวเลขจากงบการเงินที่เปิดเผยต่อสาธารณชน รวมทั้งการศึกษาถึงภาวะโดยทั่วไปของอุตสาหกรรมหลอดไฟฟ้า การควบคุมของรัฐบาล และประโยชน์ของอุตสาหกรรมหลอดไฟฟ้าที่มีต่อเศรษฐกิจของประเทศ สาระสำคัญโดยลำดับของวิทยานิพนธ์มีดังนี้ ศึกษาถึงภาวะโดยทั่วไปของอุตสาหกรรมหลอดไฟฟ้า ในด้านการผลิต ปัจจุบันโรงงานผู้ผลิตหลอดไฟฟ้าในประเทศไทยมี 8 แห่ง ซึ่งมีขนาดทุนจดทะเบียนตั้งแต่ 600,000 ถึง 20,000,000 บาท แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงระหว่าง 10-20 ล้านบาท และโรงงานทั้ง 8 แห่งนี้ สามารถผลิตหลอดไฟฟ้าเพื่อสนองความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างเต็มที่ สำหรับในด้านการตลาดนั้น มีการแข่งขันเพื่อแย่งตลาดกันระหว่างผู้ผลิตภายในประเทศด้วยกันเอง และกับสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตามคู่แข่งขันที่น่ากลัวที่สุดในอุตสาหกรรมหลอดไฟฟ้า ก็คือ บริษัทไทยโตชิบาฟลูออเรสเซนท์แลมป์ ซึ่งผลิตภัณฑ์ของบริษัทเป็นที่ต้องการของตลาดมาก เนื่องจากมีคุณภาพได้มาตรฐาน และยังมีราคาถูกอีกด้วย ส่วนในด้านการนำเข้านั้น ในระยะหลังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ อาจเป็นเพราะหลอดไฟฟ้าบางขนาดยังไม่มีการผลิตภายในประเทศหรืออาจเนื่องมาจากราคาจำหน่ายต่ำกว่าหรือใกล้เคียงกับหลอดไฟฟ้าที่ผลิตในประเทศ และอาจเป็นเพราะผู้ใช้มีรสนิยมหรือมีความเชื่อถือในสินค้าต่างประเทศมากกว่า สำหรับในด้านการส่งออกนั้น หลอดไฟยังนับว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการส่งออกน้อย เมื่อเทียบกับปริมาณการผลิตและในด้านโครงสร้างต้นทุนการผลิตของหลอดไฟฟ้าทั้งสองประเภท พบว่าปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อต้นทุนการผลิตมากที่สุด คือ ราคาของวัตถุดิบ โดยเฉพาะกระเปาะแก้วและหลอดแก้ว เมื่อราคาวัตถุดิบเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นด้วย ดังนั้นรัฐบาลจึงได้ให้การส่งเสริมสนับสนุนแก่กิจการที่ผลิตวัตถุดิบดังกล่าวเพื่อช่วยให้ต้นทุนการผลิตลดต่ำลง สำหรับการแก้ไขโดยปรับราคาจำหน่ายให้สูงตามนั้น ต้องคำนึงทั้งทางด้านคู่แข่งขันและรัฐบาล ทั้งนี้เพราะผลิตภัณฑ์นี้มีการแข่งขันกันมาก อีกทั้งยังเป็นสินค้าควบคุมของรัฐบาลด้วย นอกจากนี้ยังได้ศึกษาถึงประโยชน์ของอุตสาหกรรมหลอดไฟฟ้าที่มีต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยสามารถประหยัดเงินตราต่างประเทศได้ปีหนึ่งๆ เป็นจำนวนร้อยล้านบาทและยังเป็นอุตสาหกรรม ที่ทำให้อุตสาหกรรมอื่นที่เกี่ยวข้องได้รับผลดีตามไปด้วย วิเคราะห์ฐานะทางการเงินของอุตสาหกรรมหลอดไฟฟ้า จากอัตราส่วนทางการเงิน โดยวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงินของแต่ละบริษัทในอุตสาหกรรมหลอดไฟฟ้า แล้วนำอัตราส่วนของแต่ละบริษัทที่อยู่ในประเภทผลิตภัณฑ์เดียวกันมาเปรียบเทียบกัน อีกทั้งเปรียบเทียบอัตราส่วนของแต่ละบริษัทกับอัตราส่วนโดยเฉลี่ยของกิจการในแต่ละประเภทของผลิตภัณฑ์นั้นๆ และของทั้งอุตสาหกรรม ว่าแตกต่างกันหรือไม่อย่างไร เพราะเหตุใด การวิเคราะห์แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม คือ วิเคราะห์สภาพคล่อง, สภาพเสี่ยง, ความสามารถในการทำกำไร และสมรรถภาพในการดำเนินงาน ผลสรุปจากการวิเคราะห์พบว่า บริษัทที่จัดอยู่ในเกณฑ์ดีมี 2 บริษัท คือ บริษัทไทยโตชิบาฟลูออเรสเซนท์แลมป์ และบริษัทบางกอกแลมป์ ส่วนอีก 3 บริษัทคือ บริษัทหลอดไฟฟ้าไทย อยู่ในระดับปานกลาง สำหรับบริษัทอิเล็คทริคัลแลมป์แมนูแฟคจูเรอร์สไทยแลนด์ และบริษัทไทยฟลูออเรสเซนท์แลมป์ จัดเป็นบริษัทที่ยังไม่น่าพอใจ โดยเฉพาะบริษัทไทยฟลูออเรสเซนท์แลมป์ เป็นบริษัทที่ไม่น่าพอใจที่สุดในทุกบริษัทที่กล่าวมา และจากการวิเคราะห์ถึงฐานะทางการเงินของกิจการในแต่ละประเภทของผลิตภัณฑ์ อาจสรุปได้ว่า โดยส่วนรวมแล้ว กิจการประเภทหลอดไฟอินแคนเดสเซนท์จัดอยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่ากิจการประเภทหลอดฟลูออเรสเซ่นท์ ทั้งในด้านสภาพคล่อง, สภาพเสี่ยง | ความสามารถในการหากำไรและสมรรถภาพในการดำเนินงาน ดังนั้นเมื่อพิจารณาในส่วนรวมแล้วจึงทำให้อัตราส่วนถัวเฉลี่ยทางการเงินของอุตสาหกรรมนั้น อาจกล่าวได้ว่าไม่เป็นที่น่าพอใจนัก โดนเฉพาะทางด้านความเสี่ยงและผลตอบแทนที่ได้รับ ซึ่งไม่สามารถดึงดูดใจนักลงทุนได้ นอกจากนี้ยังได้วิเคราะห์แนวโน้มของอัตราส่วนทางการเงินแต่ละประเภท เพื่อให้เห็นการเคลื่อนไหวของอัตราส่วนต่างๆของแต่ละบริษัทเปรียบเทียบกับอัตราส่วนโดยเฉลี่ยของกิจการในแต่ละประเภทของผลิตภัณฑ์นั้นๆและของอุตสาหกรรม ในช่วงปี 2519-2522 ด้วย ศึกษาถึงการบริหารเงินทุนของอุตสาหกรรมหลอดไฟฟ้า โดยการวิเคราะห์จากโครงสร้างของเงินทุน และงบแสดงแหล่งที่มาและใช้ไปของเงินทุน พบว่า โครงสร้างของเงินทุนของกิจการประเภทหลอดอินเดสเซ่นท์ หลอดฟลูออเรสเซ่นท์ และของอุตสาหกรรมหลอดไฟฟ้า ส่วนใหญ่จะมาจากส่วนของหนี้สิน เฉลี่ยแล้วประมาณ 57%, 76% และ 70% ตามลำดับ และมักจะเป็นหนี้สินระยะสั้นซึ่งโดยมากจะอยู่ในรูปของเงินเบิกเกินบัญชี และเงินกู้ยืมจากธนาคาร ส่วนที่เหลือมาจากส่วนของเจ้าของ เฉลี่ยแล้วประมาณ 43%, 24% และ 30% ตามลำดับ สำหรับวิธีการจัดหาเงินทุนของอุตสาหกรรมหลอดไฟฟ้ายังไม่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ที่ดี กล่าวคือ มีการนำเงินทุนจากแหล่งเงินทุนระยะสั้นไปใช้ลงทุนในสินทรัพย์ระยะยาว ทำให้อุตสาหกรรมมีความเสี่ยงสูง ในการที่จะต้องชำระหนี้คืนให้ทันภายในกำหนดระยะเวลาอันสั้น โดยที่อุตสาหกรรม อาจจะไม่สามารถหมุนสินทรัพย์ถาวรเป็นเงินสดได้ทัน และมีการนำเงินทุนจากแหล่งระยะยาวไปลงทุนในสินทรัพย์หมุนเวียน ทำให้อุตสาหกรรมได้รับผลตอบแทนต่ำ เนื่องจากเงินทุนแหล่งระระยาวมีต้นทุนที่สูง แต่การลงทุนในสินทรัพย์หมุนเวียนนั้นให้รายได้ไม่มากนัก สรุปปัญหาและข้อคิดเห็น ปัญหาที่สำคัญของอุตสาหกรรมหลอดไฟฟ้าคือ ราคาวัตถุดิบสูงทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ในขณะที่ราคาขายไม่อาจเพิ่มสูงขึ้นได้มากเท่าที่ควร ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ และยังมีการแข่งขันกันมากทั้งจากผู้ผลิตภายในประเทศด้วยกันเอง และจากสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นสินค้าควบคุมของรัฐบาลด้วย ดังนั้นแทบทุกกิจการในอุตสาหกรรมหลอดไฟฟ้าต่างก็ทำกำไรได้ลดลงหรือไม่ก็ขาดทุนมากขึ้น นอกจากนั้นแหล่งเงินทุนสำคัญที่อุตสาหกรรมนำมาใช้ในการดำเนินงาน ส่วนใหญ่ต้องอาศัยแหล่งเงินทุนจากส่วนของหนี้สิน โดยเฉพาะหนี้สินระยะสั้นและนโยบายการจัดหาเงินทุนของอุตสาหกรรมหลอดไฟฟ้า ก็ไม่สอดคล้องกับอายุการใช้งานของสินทรัพย์ที่จะลงทุนอีกด้วย เพราะในบางปียังมีการนำเงินทุนระยะสั้นไปลงทุนในสินทรัพย์ระยะยาว ถ้ามองจากบุคคลภายนอก อุตสาหกรรมหลอดไฟฟ้าจะเป็นอุตสาหกรรมที่ค่อนข้างเสี่ยง และให้ผลตอบแทนน้อย ทางแก้ปัญหาที่อาจทำได้คือ ควรปรับปรุงนโยบายการจัดหาเงินทุนให้สอดคล้องกับอายุการใช้งานของสินทรัพย์ เช่น นำเงินทุนจากแหล่งเงินทุนระยะสั้นไปใช้ลงทุนในสินทรัพย์ระยะสั้น และนำเงินทุนจากแหล่งเงินทุนระยะยาวไปใช้ลงทุนในสินทรัพย์ระยะยาว ส่วนปัญหาราคาวัตถุดิบสูงขึ้นนั้น รัฐบาลควนส่งเสริมสนับสนุนให้มีการผลิตวัตถุดิบขึ้นภายในประเทศอย่างจริงจัง และให้มีปริมาณเพียงพอกับความต้องการตลอดจนมีคุณภาพได้มาตรฐานอีกด้วย ในขณะเดียวกันผู้ผลิตเองก็ควรจะแก้ไขปรับปรุงการดำเนินงานและการบริหารงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นเช่นกัน ก็จะช่วยผ่อนคลายปัญหาราคาวัตถุดิบลงได้ สำหรับปัญหาด้านการแข่งขันกับสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศนั้น ถ้ารัฐบาลไม่สามารถควบคุมการนำเข้าของหลอดไฟฟ้าสำเร็จรูปได้อย่างทั่วถึงแล้ว รัฐบาลควรดำเนินมาตรการขั้นเด็ดขาด โดยห้ามมีการนำเข้า โดยเฉพาะหลอดไฟฟ้าที่สามาตรผลิตได้เองในประเทศ และมีปริมาณเพียงพอกับความต้องการแล้ว ทั้งนี้เพื่อความอยู่รอดของอุตสาหกรรมในประเทศ และยังจะสามารถประหยัดเงินตราต่างประเทศได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตเองก็ควรปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐานและจำหน่ายในราคายุติธรรมทั้งนี้ก็เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ใช้นั่นเอง สำหรับปัญหาด้านมลภาวะนั้น รัฐบาลควรจะเร่งดำเนินการโดยด่วนเกี่ยวกับการกำหนดมาตรฐาน และหลักเกณฑ์ที่จะใช้ถือปฏิบัติในการควบคุมตรวจสอบการขจัดป้องกันสารเป็นพิษที่เกิดขึ้นนี้ และในการกำหนดหลักเกณฑ์นั้น รัฐบาลควรจะพิจารณาให้ละเอียดรอบตอบถึงความเป็นไปได้ ตลอดจนความยากง่ายในทางปฏิบัติด้วย นอกจากนี้รัฐบาลควรจัดให้มีการฝึกอบรม หรือแนะนำวิธีการหรือเทคนิคที่จะนำมาแก้ไชปัญหานี้ และควรจัดให้มีการพบปะกันเป็นครั้งคราวระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายรับบาลและฝ่ายผู้ผลิต เพื่อจะได้ทราบถึงปัญหาอุปสรรค ตลอดจนข้อคิดเห็น เสนอแนะต่างๆ ในการดำเนินการนี้ ซึ่งผู้ผลิตเองก็ควรให้ความร่วมมือกับทางราชการอย่างเต็มที่ด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อความสงบสุขของประชาชนโดยทั่วไป และเพื่อตัวผู้ผลิตเอง
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
สุริโยภาสกร, อรษา, "การวิเคราห์ทางการเงินของอุตสาหกรรมหลอดไฟฟ้า" (1981). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 58305.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/58305