Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การจัดการในส่วนการศึกษาขององค์การบริหารส่วนจังหวัด : ศึกษาเฉพาะกรณี จังหวัดน่าน

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Management in the provincial education authority : acase study of Changwat Nan

Year (A.D.)

1981

Document Type

Thesis

First Advisor

ศิริโสภาคย์ บูรพาเดชะ

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

พาณิชยศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

การจัดการทั่วไป

DOI

10.58837/CHULA.THE.1981.346

Abstract

การศึกษาประชาบาลเป็นการศึกษาภาคบังคับซึ่งประชากรในประเทศไทยทุกคนจำเป็นที่จะต้องศึกษา รัฐบาลได้โอนภาระความรับผิดชอบการศึกษาประชาบาลจากกระทรวงศึกษาธิการ เข้าไปสู่ในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด โดยมีหน่วยงานที่รับผิดชอบทางด้านการศึกษาประชาบาลในองค์การดังกล่าวโดยตรง คือ ส่วนการศึกษา ตามพระราชบัญญัติการโอนโรงเรียนประถมศึกษาจาก กระทรวงศึกษาธิการเข้าไปอยู่ในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด กระทรวงมหาดไทย เมื่อปี พ.ศ. 2509 และโรงเรียนประถมศึกษาที่โอนเข้ามานี้เรียกว่าโรงเรียนประชาบาลตั้งแต่นั้นมา ดังนั้นภาระหน้าที่ในการรับผิดชอบการศึกษาประชาบาลจึงขึ้นส่วนการศึกษาโดยตรงนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2509 เป็นต้นมา ถ้าหากการจัดการในส่วนการศึกษาผิดพลาดประชากรได้รับประโยชน์จากการศึกษาไม่เต็มที่เกิดมีผู้ไม่รู้หนังสือเป็นจำนวนมากแล้ว จะมีผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศโดยงบประมาณทางด้านการศึกษาจำนวนมากจะถูกใช้จ่ายไปโดยเปล่าประโยชน์ก่อให้เกิดผลเสียต่อประเทศชาติอย่างใหญ่หลวงในทางตรงข้าม ถ้าหากการจัดการในส่วนการศึกษามีประสิทธิภาพดีสามารถบรรลุถึงเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของส่วนกลางที่ได้วางใจไว้ก็จะก่อให้เกิดผลดีต่อประเทศเป็นอย่างมาก ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้ารวดเร็วขึ้นด้วย วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1. ศึกษานโยบายและวิธีการดำเนินงานเกี่ยวกับการจัดการในส่วนการศึกษาขององค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน เนื่องจากปัจจุบันกำลังเร่งรัดการพัฒนาการศึกษาประชาบาลซึ่งมีผลกระทบอย่างสำคัญต่อความเจริญของชาติ 2. เพื่อที่จะชี้ให้เห็นถึงปัญหาที่เกิดจากการดำเนินงานนั้นและวิธีการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ตลอดจนข้อเสนอแนะอันจะเป็นผลให้การปฏิบัติงานดีขึ้นไปด้วย วิธีดำเนินการวิจัย การเก็บรวบรวมข้อมูลในการศึกษาครั้งนี้ส่วนหนึ่งใช้วิธีการสำรวจ แต่ก่อนที่จะทำการสำรวจได้ศึกษาทฤษฎี และราบงานต่าง ๆ เกี่ยวกับการดำเนินงานของส่วนการศึกษาแล้วจึงนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการวางแผนการสำรวจในขั้นต่อไป แหล่งที่มาของข้อมูลในการศึกษาครั้งนี้จึงประกอบด้วยข้อมูลปฐมภูมิ และ ข้อมูลทุติยภูมิ ข้อมูลทุติยภูมิ : เป็นข้อมูลในการศึกษาค้นคว้าจากหนังสือและเอกสารต่าง ๆ ทั้งภาคเอกชน และ ภาครัฐบาล เพื่อให้เข้าใจในความหมายของการจัดการ ในส่วนการศึกษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเฉพาะกรณีจังหวัดน่าน ประวัติความเป็นมา โครงสร้างของหน่วยงาน ระเบียบวิธีการดำเนินงาน ตลอดจนปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ข้อมูลปฐมภูมิ : เป็นข้อมูลที่ได้จากการสำรวจประชากรตัวอย่างซึ่งผู้วิจัยได้แบ่งประชากรตัวอย่างออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ นักบริหารการศึกษาชั้นต้น (ครูใหญ่สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด) มีจำนวนครูใหญ่ในจังหวัดทั้งหมด 392 ท่าน โดยสุ่มตัวอย่างจากประชากรซึ่งเป็นนักบริหารการศึกษาชั้นต้นนี้ 20℅ ซึ่งจะมีจำนวนประมาณ 80 ท่าน และได้รับแบบสอบถามกลับคืนมา 78 ฉบับ นักบริหารการศึกษาชั้นปลายซึ่งมีจำนวนทั้งหมดประมาณ 42 ท่าน ผู้วิจัยได้ใช้ประชากรทั้งหมดและได้แบบสอบถามกลับคืนมา 40 ฉบับ รวมแบบสอบถามที่สามารถเก็บได้คืนมาทั้งหมด 118 ฉบับ หรือร้อยละ 96.73 ของแบบสอบถามที่ได้แจกให้แก่ประชากรตัวอย่างทั้งหมด โดยใช้วิธีการทางสถิติด้วยวิธีคิดอัตราส่วนร้อยละ อนึ่ง ในระดับผู้ใต้บังคับบัญชา คือ ครูประชาบาลและพนักงานที่ปฏิบัติงานในส่วนการศึกษาซึ่งเป็นข้าราชการผู้น้อยนั้น ผู้วิจัยได้ใช้วิธีสัมภาษณ์จากประชากรดังกล่าวเป็นบางส่วน ผลของการวิจัย การจัดการในส่วนการศึกษาองค์การบริหารส่วนจังหวัด จังหวัดน่านยังมีขอบเขตของการจัดการอยู่อย่างจำกัดไม่สามารถดำเนินงานให้บรรลุถึงวัตถุประสงค์ของเป้าหมายตามที่รัฐบาลได้วางใจไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2509 เท่าที่ควร รัฐบาลมีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะกระจายอำนาจในการบริหารการศึกษาประชาบาลออกไปสู่ท้องถิ่นตามหลักการปกครองแบบระบอบประชาธิปไตยที่ว่า การบริหารการศึกษาประชาบาลจากประชาชน โดยประชาชนและเพื่อประชาชน แต่ในทางปฏิบัติจริง ๆ แล้ว การจัดการศึกษาในระดับท้องถิ่นยังถูกควบคุมจากส่วนกลางมากเกินไป ทำให้ผู้บริหารการศึกษาไม่มีเอกภาพในการจัดการศึกษาที่แท้จริง ทั้งนี้เพราะบทบาทและอำนาจหน้าที่ของผู้บริหารยังมีความสับสน การแบ่งขอบเขตอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบยังไม่มีความแน่นอน และชัดเจนพอ ทั้งนี้เพราะการบริหารการศึกษามีลักษณะที่บริหารงาน งานตามคำสั่งจากเบื้องบนขาดเอกภาพในการตัดสินใจ นอกจากนี้ภายในส่วนการศึกษาก็ยังมีความยุ่งยากในการประสานงานและร่วมมือกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องในองค์การบริหารส่วนจังหวัด ทั้งนี้เพราะระเบียบข้อบังคับตลอดจนกฎเกณฑ์ต่าง ๆ มีขั้นตอนการดำเนินงานมากเกินไป ขาดความคล่องตัว ทำให้การประสานงานติดต่อล่าช้าไม่ทันต่อเหตุการณ์ ประโยชน์ที่ได้รับจากการศึกษาวิจัย ทำให้ทราบถึงปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ เกี่ยวกับการจัดการศึกษาซึ่งเกิดขึ้นในส่วนองค์การบริหารส่วนจังหวัด จังหวัดน่าน และได้เสนอแนะวิธีทางแก้ไขปัญหาและอุปสรรคดังกล่าวแก่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง อันจะมีผลให้การพัฒนาการศึกษาประชาบาลเป็นไปตามเป้าหมาย และนโยบายของรัฐบาลอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น.

Share

COinS