Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การเปรียบเทียบค่าความเที่ยงของมาตราวัดทัศนคติแบบลิเคอร์ทที่มีจำนวนรายการคำตอบต่างกัน

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

A comparison of reliability of likert attitude scale with difference number of response categories

Year (A.D.)

1980

Document Type

Thesis

First Advisor

เยาวดี รางชัยกุล

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

วิจัยการศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1980.250

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มุ่งศึกษาค่าความเที่ยงและความแตกต่างของค่าความเที่ยงของมาตราวัดทัศนคติแบบลิเคอร์ทที่มีจำนวนรายการคำตอบเป็น 2, 3, 4, 5, 6 และ 7 รายการ โดยใช้มาตราวัดทัศนคติต่อวิชาชีพครู และมาตราวัดทัศนคติต่อการสอบสัมภาษณ์เพื่อคัดเลือกนักศึกษาครูเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล กลุ่มตัวอย่างประชากรได้แก่นักศึกษาระดับประกาศนียบัตรการศึกษาชั้นสูงปีที่ 1 วิทยาลัยครูหมู่บ้านจอมบึง จำนวน 312 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าความเที่ยงจากวิธีของครอนบาค และวิธีแบ่งครึ่ง แล้วเปรียบเทียบค่าความเที่ยงโดยเปลี่ยนเป็นค่าซีของฟิชเช่อร์ ข้อค้นพบ 1. ความเที่ยงของมาตราวัดทัศนคติต่อวิชาชีพครูที่มีจำนวนรายการคำตอบเป็น 6 และ 2 รายการจะมีค่าสูงสุดและต่ำสุดตามลำดับ โดยค่าความเที่ยงของมาตราวัดที่มีจำนวนรายการคำตอบ 2 รายการแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 กับค่าความเที่ยงของมาตราวัดที่มีจำนวนรายการคำตอบเป็น 3 ถึง 7 รายการ ส่วนค่าความเที่ยงของมาตราวัดที่มีจำนวนรายการคำตอบเป็น 3 ถึง 7 รายการไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2. ความเที่ยงของมาตราวัดทัศนคติต่อการสอบสัมภาษณ์เพื่อคัดเลือกนักศึกษาครูที่มีจำนวนรายการคำตอบ 7 รายการมีค่าสูงสุด อย่างไรก็ตามการเพิ่มค่าความเที่ยงไม่ขึ้นอยู่กับการเพิ่มจำนวนรายการคำตอบ ส่วนค่าความเที่ยงของมาตราวัดที่มีจำนวนรายการคำตอบเป็น 2 ถึง 7 รายการไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

Share

COinS