Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาเปรียบเทียบการประมาณค่าสัมประสิทธิ์ความถดถอย ระหว่างวิธีกำลังสองน้อยที่สุดและวิธีริดจ์

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

A comparative study of the estimation of regression coefficients between the method of least squares and ridge regression

Year (A.D.)

1981

Document Type

Thesis

First Advisor

สุชาดา กีระนันทน์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

พาณิชยศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

สถิติ

DOI

10.58837/CHULA.THE.1981.377

Abstract

ในกรณีเกิดสภาพไม่เหมาะสมในตัวแปรอิสระการประมาณค่าสัมประสิทธิ์ความถดถอยด้วยวิธีกำลังสองน้อยที่สุดจะให้ค่าเฉลี่ยความคลาดเคลื่อนกำลังสองสูง ซึ่งวิธีการนี้อาจทำให้ค่าประมาณพารามิเตอร์ β ที่ได้มีคุณภาพไม่ดีเท่าที่ควร การวิจัยครั้งนี้ทำการศึกษาวิธีการประมาณค่าสัมประสิทธิ์ความถดถอยด้วยวิธีริดจ์ รีเกรสชั่น ซึ่งเป็นวิธีที่อาจลดค่าเฉลี่ยความคลาดเคลื่อนกำลังสองให้ต่ำกว่าวิธีกำลังสองน้อยที่สุด และจะเปรียบเทียบการประมาณค่าสัมประสิทธิ์ความถดถอยระหว่างวิธีกำลังสองน้อยที่สุด และ วิธีริดจ์ รีเกรสชั่น ผลการศึกษาปรากฏว่าวิธีริดจ์ รีเกรสชั่น ให้ค่าประมาณพารามิเตอร์ β ที่เอนเอียงและให้ค่าเฉลี่ยความคลาดเคลื่อนกำลังสองต่ำสุด เมื่อเปรียบเทียบกับวิธีกำลังสองน้อยที่สุด และเมื่อเปรียบเทียบค่าประมาณของตัวแปรตามระหว่างวิธีทั้ง 2 นี้ ปรากฏว่าไม่มีวิธีใดจะดีกว่าอีกวิธีการหนึ่งและเมื่อนำค่าประมาณของแต่ละวิธีมาทดสอบกับค่าสังเกตของตัวแปรตามปรากฏว่าให้ค่าประมาณโดยวิธีดังกล่าวนี้ไม่แตกต่างจากค่าสังเกตของตัวแปรตาม และวิธีการของริดจ์ รีเกรสชั่น ไม่สะดวกที่จะนำมาใช้กับข้อมูลทั่วไปได้เหมือนกับวิธีกำลังสองน้อยที่สุด ทั้งนี้เพราะวิธีริดจ์ รีเกรสชั่น เป็นวิธีการที่ยุ่งยากและไม่ประหยัดเวลาในการคำนวณค่าสถิติต่างๆ แต่ถ้าข้อมูลที่นำมาศึกษาตัวแปรอิสระมีลักษณะเข้าใกล้ Non-orthogonal ควรใช้วิธีริดจ์ รีเกรสชั่น ประมาณค่าสัมประสิทธิ์ความถดถอยดีกว่าใช้วิธีกำลังสองน้อยที่สุด เพราะสามารถให้ค่าเฉลี่ยความคลาดเคลื่อนกำลังสองต่ำสุด เมื่อเปรียบเทียบกับวิธีกำลังสองน้อยที่สุด

Share

COinS