Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
การใช้แบบทดสอบโคลซประเมินผลสัมฤทธิ์ในการเรียนวิชาภาษาไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่สาม จังหวัดนครศรีธรรมราช
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
The use of Cloze test to evaluate Thai language-learning achievement of mathayom suksa three students in Narkhon Si Thammarat
Year (A.D.)
1981
Document Type
Thesis
First Advisor
ฐะปะนีย์ นาครทรรพ
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
ครุศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
มัธยมศึกษา
DOI
10.58837/CHULA.THE.1981.234
Abstract
วัตถุประสงค์การวิจัย ๑.เพื่อประเมินความสามารถในการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่สาม จังหวัดนครศรีธรรมราช จากแบบทดสอบโคลซในเรื่องต่อไปนี้ ๑.๑ ความเข้าใจในด้านวจีวิภาค ๑.๒ ความเข้าใจในด้านวากยสัมพันธ์ ๒.เพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างสัมฤทธิผลในการเรียนวิขาภาษาไทยของนักเรียนกับคะแนนที่ได้จากการทำแบบทดสอบโคลซ วิธีดำเนินการวิจัย ผู้วิจัยสร้างแบบทดสอบจากเรื่องสั้นและบทความอย่างละ ๒ ฉบับ ทุกฉบับตัดคำทุกคำที่ ๕ นำไปทดสอบเพื่อหาความเชื่อมั่นของแบบทดสอบโดยใช้เกณฑ์ของบอร์มุธ ซึ่งตรวจสอบแล้วโดยแรนกินและคัลเฮน เลือกแบบทดสอบที่เข้าเกณฑ์จากเรื่องสั้นและบทความอย่างละ ๑ ฉบับ เพื่อใช้เป็นแบบทดสอบนักเรียนกลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ จังหวัดนครศรีธรรมราช ลักษณะโรงเรียนเป็นโรงเรียนรัฐบาล ๒ โรงเรียน และโรงเรียนราษฏร์ ๒ โรงเรียน อยู่ในเขตเมือง ๒ โรงเรียน และเขตชนบท ๒ โรงเรียน จำนวน นักเรียนโรงเรียนละ ๓๐ คน รวมทั้งสิ้น ๑๒๐ คน เป็นชาย ๕๖ คน หญิง ๖๔ คน นำคะแนนที่ได้จากการทดสอบทางด้านวจีวิภาค และวากยสัมพันธ์ มาหาค่าคะแนนเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน แล้วแปลงคะแนนเฉลี่ยเป็นค่าร้อยละ เพื่อนำไปประเมินระดับความเข้าใจตามเกณฑ์ของบอร์มุธ ซึ่งตรวจสอบโดยแรนกินและคัลเฮน และนำผลรวมของคะแนนความเข้าใจทางด้านวจีวิภาคและวากยสัมพันธ์ ไปหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบของเพียร์สันกับคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาไทย ท.๓๐๕ ในภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๒๓ ซึ่งได้มาจากระเบียบสะสมของนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง สรุปผลการวิจัย ๑.การใช้แบบทดสอบโคลซตรวจวัดความเข้าใจในด้านวจีวิภาคและวากยสัมพันธ์ ปรากฏว่านักเรียนมีความสามารถในการเรียนวิชาภาษาไทยทางด้านวจีวิภาค และวากยสัมพันธ์อยู่ในระดับปานกลาง (ร้อยละ ๔๓.๒๖ และ ร้อยละ ๕๒.๐๙) ทั้งนี้โดยอาศัยเกณฑ์ของบอร์มุธซึ่งตรวจสอบโดยแรนกินและคัลเฮนซึ่งเกณฑ์ความสามารถระดับปานกลางของแบบทดสอบโคลซ คือ ได้คะแนนระหว่างร้อยละ ๒๘ ถึง ๕๔) ๑.ในการหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ ระหว่างคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย ท.๓๐๕ ในภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๒๓ กับคะแนนที่ได้จากการตรวจวัดโดยแบบทดสอบโคลซในภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๒๓ ปรากฏว่าคะแนนผลสัมฤทธิ์กับคะแนนที่ได้จากแบบทดสอบโคลซมีสหสัมพันธ์กันสูง (rxy = ๐.๗๗) และมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๑
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
จริยานุกูล, จริยา, "การใช้แบบทดสอบโคลซประเมินผลสัมฤทธิ์ในการเรียนวิชาภาษาไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่สาม จังหวัดนครศรีธรรมราช" (1981). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 54217.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/54217