Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาทัศนคติและพฤติกรรมของผู้บริหารในสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

A study on the attitude and behavior of the executives in Thailand Institute of Scientific and Technological Research

Year (A.D.)

1981

Document Type

Thesis

First Advisor

ศิริโสภาคย์ บูรพาเดชะ

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

พาณิชยศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

พาณิชยศาสตร์

DOI

10.58837/CHULA.THE.1981.360

Abstract

การศึกษาวิจัยนี้ เป็นการศึกษาถึง ทัศนคติและพฤติกรรมของผู้หารในสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทยว่า ผู้บริหารมีทัศนคติเกี่ยวกับพนักงานในสถาบันอย่างไร และมีพฤติกรรมการบริหารออกมาในลักษณะไหน และเพื่อต้องการทราบว่า ความเห็นหรือทัศนคติของผู้บริหารในสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ฯ นั้นจะมีความสัมพันธ์และ/หรือมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการบริหารหรือไม่การศึกษานั้นได้อาศัยแนวทฤษฏีในเชิงพฤติกรรมศาสตร์โดยนำเอาสมมติฐานเกี่ยวกับธรรมชาติของคนในองค์การ ตามทฤษฏี X และ ทฤษฏี Y ของดักลาสแมคเกรย์เกอร์ (Douglas McGregor) มาเป็นเกณฑ์ในการสำรวจทัศนคติและความคิดเห็นของผู้บริหารในสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ฯ และนำเอาแนวความคิดทางด้านพฤติกรรมบริหารของ เรนชีส ไลเคิร์ท (Rensis Likert) มาเป็นเกณฑ์ในการศึกษาพฤติกรรมการบริหารของผู้บริหารในสถาบัน และได้ตั้งสมมติฐานไว้ว่า “ทัศนคติของผู้บริหารย่อมมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการบริหาร" แล้วจึงทำการพิสูจน์ โดยใช้หลักเกณฑ์ทางสถิติว่า เป็นจริงตามที่ตั้งสมมติฐานไว้หรือไม่ การศึกษาทัศนคติและพฤติกรรมของผู้บริหารในสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ฯนั้น ได้ใช้วิธีการรวบรวมข้อมูลจากการวิจัยสนามและจากการสังเกตการณ์ แล้วนำข้อมูลที่ได้มาทำการวิเคราะห์ โดยใช้หลักเกณฑ์ทางสถิติ ซึ่งผลปรากฏว่า ผู้บริหารในสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ มีทัศนคติเกี่ยวกับพนักงานหรือผู้ใต้บังคับบัญชาของตนในลักษณะแนวโน้มทฤษฎี Y และยังทำให้ทราบถึงพฤติกรรมของผู้บริหารในสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ฯ ว่าผู้บริหารส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการบริหารแบบปรึกษาหารือ นอกจากนั้น การศึกษาวิจัยนี้ ยังพิสูจน์ให้เห็นว่าทัศนคติเกี่ยวกับคนในองค์การนั้นมีความสัมพันธ์และมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการบริหารของผู้บริหารอีกด้วย ซึ่งผลที่ได้จากการศึกษาวิจัยดังกล่าวข้างต้นนี้ สามารถใช้เป็นประโยชน์สำหรับการวางแผนเพื่อพัฒนา ปรับปรุงการบริหารงานในสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ฯ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งยังอาจใช้เป็นแนวความคิดสำหรับองค์การอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐบาล หรือ เอกชนที่จะนำไปใช้ศึกษาทัศนคติและพฤติกรรมของผู้บริหารในองค์การของตนได้ด้วย

Share

COinS