Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
โครงสร้างทางการเมืองสมัยสุโขทัย
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
The Sukhothai political structure
Year (A.D.)
1981
Document Type
Thesis
First Advisor
วไล ณ ป้อมเพ็ชร
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
อักษรศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
ประวัติศาสตร์
DOI
10.58837/CHULA.THE.1981.552
Abstract
รัฐสุโขทัยเป็นรัฐไทยที่สามารถแผ่อำนาจทางการเมืองออกไปได้กว้างขวางในต้นพุทธศตวรรษที่ 19 คือในช่วงรัชกาลพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ถึงพ่อขุนรามคำแหง ข้อน่าสังเกตคือ อำนาจทางการเมืองนี้มีอยู่ในระยะเวลาอันสั้น เมื่อมาถึงต้นพุทธศตวรรษที่ 20 สุโขทัยก็ถูกผนวกเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรอยุธยา จากการศึกษาชี้ให้เห็นว่าสุโขทัยมีความสัมพันธ์กับอาณาจักรกัมพูชาในรูปของ “รัฐในอุปถัมภ์" ความสัมพันธ์นี้มีผลให้สุโขทัยสามารถแผ่ขยายอำนาจทางการเมืองเหนือรัฐไทยอื่น ๆ ได้เป็นผลสำเร็จทันทีที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 สิ้นพระชนม์ซึ่งหมายถึงการสูญสิ้นอำนาจของอาณาจักรกัมพูชาเหนือบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยาลงโดยสิ้นเชิงด้วย ปัจจัยในการส่งเสริมอำนาจทางการเมืองของสุโขทัย ที่สำคัญประการหนึ่งจึงเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองซึ่งเอื้ออำนวยให้อย่างมาก ปัจจัยอีกประการหนึ่งคือ บุคคลิกภาพและความสามารถทางการรบของผู้นำซึ่งมีอยู่ต่อเนื่องในช่วงเวลาเดียวกันคือ พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ และพ่อขุนรามคำแหง ปัจจัยนี้เป็นลักษณะโดยทั่ว ๆ ไปของรัฐในระยะแรก ๆ ซึ่งยังมิได้จัดระเบียบการควบคุมอำนาจให้อยู่ในรูประบบแน่นอน ยังคงอาศัยอัจฉริยภาพของผู้นำเป็นข้อต่อรองให้เกิดการยอมรับทางการเมือง อำนาจทางการเมืองของสุโขทัยจะคงอยู่ได้นานเพียงใดขึ้นอยู่กับสองปัจจัยนี้ อย่างไรก็ตามกลับพบว่า อำนาจทางการเมืองภายในรัฐสุโขทัยเองดำเนินไปอย่างที่เรียกได้ว่ามีความมั่นคงแม้ว่าจะไม่มีการวางรูปแบบการปกครองที่แน่นอน และเมืองต่าง ๆ มีโอกาสแยกเป็นอิสระจากเมืองหลวงได้ในบางครั้ง แต่ไม่อาจท้าทายอำนาจทางการเมืองของเมืองหลวงจนยกกำลังมายึดไปได้ สภาพทางการเมืองเช่นนี้สะท้อนให้เห็นจากข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ซึ่งสามารถจัดระเบียบการสืบทอดอำนาจให้อยู่ในสายราชวงศ์เดียว ปัญหาทางการเมืองในช่วงก่อนที่พระมหาธรรมราชาลิไทขึ้นครองราชย์นั้นนับเป็นเรื่องเล็กน้อยมากเมื่อพิจารณาเปรียบเทียบกับราชวงศ์อื่น ๆ ในช่วงเวลาเดียวกัน ปัจจัยที่ส่งเสริมความมั่นคงทางการเมือง อีกประการหนึ่งคือ พุทธศาสนาซึ่งอยู่ในฐานะอุดมการณ์แห่งรัฐ ( State Ideology ) และเป็นตัวเชื่อมประสานความคิดทางการเมืองระหว่างกษัตริย์และประชาชนเข้าด้วยกัน โครงสร้างทางการเมืองอันอาศัยปัจจัยต่าง ๆ ดังกล่าวนี้ประสบความสำเร็จในการสร้างความมั่นคงทางการเมืองภายในแก่ราชวงศ์พระร่วง แต่ไม่อาจเสริมสร้างอำนาจให้เพิ่มพูนเหนือรัฐอื่น ๆ ได้อยู่ตลอดเวลา เมื่อรัฐอยุธยาเริ่มแข่งขันอำนาจสุโขทัยจึงต้องสูญเสียเอกราชในที่สุด
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
เมฆารัตน์, วิไลลักษณ์, "โครงสร้างทางการเมืองสมัยสุโขทัย" (1981). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 54068.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/54068