Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ความสัมพันธ์ทางทหารระหว่างไทยกับญี่ปุ่น ในสงครามมหาเอเชียบูรพา พ.ศ. 2484-2488

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Military relations between Thailand and Japan in the War of Greater East Asia 1941-1945

Year (A.D.)

1981

Document Type

Thesis

First Advisor

ธิติมา พิทักษ์ไพรวัน

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

อักษรศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

ประวัติศาสตร์

DOI

10.58837/CHULA.THE.1981.547

Abstract

วิทยานิพนธ์นี้ มีจุดมุ่งหมายที่จะศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับญี่ปุ่นในสงครามมหาเอเชียบูรพา พ.ศ. 2484-2488 โดยเน้นหนักในด้านความสัมพันธ์ทางทหารแต่ก็กล่าวถึงความสัมพันธ์ในด้านการเมืองเศรษฐกิจและวัฒนธรรมด้วย นอกจากนั้นยังพิจารณาถึงสาเหตุสำคัญที่รัฐบาลสมัยจอมพล ป. พิบูลสงครามดำเนินนโยบายละทิ้งความเป็นกลางและเข้าร่วมรบเป็นพันธมิตรทางทหารกับญี่ปุ่นในสงครามครั้งนี้ ผลการศึกษาปรากฏว่ารัฐบาลไทยสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม ดำเนินนโยบายละทิ้งความเป็นกลางและเข้าร่วมรบเป็นพันธมิตรทางทหารกับญี่ปุ่นในสงครามมหาเอเชียบูรพา เนื่องจากรัฐบาลไทยคาดคะเนว่าฝ่ายอักษะได้แก่ เยอรมนี อิตาลีและญี่ปุ่นจะเป็นฝ่ายชนะสงครามเมื่อฝ่ายอักษะชนะสงครามแล้วประเทศไทยก็จะได้รับประโยชน์ด้วยกล่าวคือจะได้รับดินแดนเดิมของไทยที่สูญเสียให้แก่ฝรั่งเศส และอังกฤษในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวกลับคืนมาเป็นของไทยอีกครั้งหนึ่ง ผลที่ได้รับดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนนโยบาย “ไทยรวมไทย" และแผนการสร้างชาติไทยของจอมพล ป. พิบูลสงครามนายกรัฐมนตรี เมื่อกองทัพญี่ปุ่นเข้าสู่ประเทศไทยในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2584 นั้น รัฐบาลไทยจึงยินยอมให้กองทหารญี่ปุ่นเดินทัพผ่านประเทศไทยได้ ต่อมาไทยกับญี่ปุ่นได้ลงนามร่วมกันในกติกาสัญญาพันธะไมตรีระหว่างประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2584 และเมื่อประเทศไทยประกาศสงคราต่อฝ่ายสัมพันธมิตรในวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2585 แล้วกองทัพไทยกับกองทัพญี่ปุ่นได้เข้าร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กันในยุทธภูมิพม่าและแค้วนสหรัฐไทยเดิม ซึ่งมีผลให้ญี่ปุ่นได้พม่าทั้งประเทศส่วนไทยได้ดินแดนสหรัฐไทยเดิม นอกจากนี้รัฐบาลไทยก็ได้ให้ความร่วมมือกับญี่ปุ่นในด้านการเมืองจนรัฐบาลญี่ปุ่นยอมรับรองดินแดนสี่รัฐมลายูว่าเป็นของไทย ในด้านเศรษฐกิจทั้งสองฝ่ายก็ร่วมมือกันในด้านการค้าระหว่างไทยกับญี่ปุ่นและประเทศในวงไพบูลย์ร่วมแห่งมหาเอเชียบูรพา และร่วมมือในด้านวัฒนธรรมด้วย แต่กองทัพญี่ปุ่นก็เป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยระหว่างสงครามในทุกๆ ด้านกล่าวคือในด้านการเมืองและทางทหารนั้น กองทัพญี่ปุ่นเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งในคณะรัฐบาลไทยซึ่งคณะรัฐมนตรีส่วนใหญ่เป็นสมาชิกในคณะราษฎร จนทำให้เกิดการแบ่งพรรคแบ่งพวกและกลายเป็นปัญหาเรื้อรังมาจนถึงยุคปัจจุบัน ในด้านเศรษฐกิจกองทัพญี่ปุ่นในประเทศไทยได้ก่อให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ ค่าครองชีพสูง การกักตุนสินค้า การฉ้อราษฎร์บังหลวงและในด้านวัฒนธรรมนั้นจอมพล ป. พิบูลสงคราม ดำเนินนโยบายสร้างชาติไทยใหม่ด้วยการปฏิวัติวัฒนธรรมซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวรัฐบาลได้ดำเนินการตั้งแต่ก่อนที่กองทัพญี่ปุ่นจะเข้าสู่ประเทศไทย ครั้นเมื่อกองทัพญี่ปุ่นเข้ามาตั้งฐานทัพในประเทศไทยแล้วจอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้ดำเนินการปฏิวัติวัฒนธรรมเพื่อจะต่อต่านอิทธิพลวัฒนธรรมของญี่ปุ่นมิให้มีอิทธิพลเหนือวัฒนธรรมไทย การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมหลายสิ่งหลายอย่างในสมัยจอมพล ป. พิบูลสงครามยังคงปรากฏอยู่ในสังคมไทยยุคปัจจุบัน เมื่อญี่ปุ่นยอมจำนนต่อฝ่ายสัมพันธมิตรโดยไม่มีเงื่อนไขในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2488 แล้ว สหรัฐอเมริกาได้ถือว่าการประกาศสงครามของไทยครั้งนี้เป็น “โมฆะ" ทั้งนี้เพราะขบวนการเสรีไทยที่ได้ก่อตั้งและดำเนินการต่อต้านญี่ปุ่นตั้งแต่เริ่มสงคราม ด้วยการให้ความร่วมมือกับฝ่ายสัมพันธมิตร และช่วยสนับสนุนกองทัพไทยริดรอนกำลังทหารญี่ปุ่น และขัดขวางมิให้กองทัพญี่ปุ่นทำการปลดอาวุธของทหารไทยในช่วงระยะปลายสงครามครั้งนี้ได้ นอกจากนั้นขบวนการเสรีไทยได้ช่วยผ่อนหนักเป็นเบาในการเจรจากับฝ่ายสัมพันธมิตรภายหลังสงครามด้วย

Share

COinS