Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาเพื่อวางแผนพัฒนาจังหวัดสงขลา

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

A study for Songkhla development planning

Year (A.D.)

1985

Document Type

Thesis

First Advisor

วรรณศิลป์ พีรพันธุ์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

การผังเมืองมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

การวางแผนภาคและเมือง

DOI

10.58837/CHULA.THE.1985.23

Abstract

สงขลาเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญที่สุดจังหวัดหนึ่งของภาคใต้ ทั้งนี้เนื่องจากมีพื้นที่ที่มีศักยภาพและความพร้อมในการพัฒนาอยู่ในระดับสูง อีกทั้งในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 5 ยังได้กำหนดให้สงขลา/หาดใหญ่ เป็นเมืองหลักของภาคใต้ โดยมีโครงการพัฒนาที่สนับสนุนนโยบายนี้หลายโครงการด้วยกัน ในส่วนรวมแล้วย่อมจะส่งผลให้เกิดความเจริญเติบโตทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมของจังหวัดสงขลา และพื้นที่โดยรอบเป็นอย่างมาก วิทยานิพนธ์ฉบับนี้ มีความมุ่งหมายที่จะศึกษาสภาพพื้นฐานและศักยภาพในการพัฒนาของพื้นที่จังหวัดสงขลา ทั้งในด้านกายภาพ เศรษฐกิจ และสังคม รวมทั้งศึกษาถึงปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ตลอดจนลักษณะและโครงสร้างของปัญหาเหล่านั้น ทั้งนี้เพื่อที่จะนำไปสู่การเสนอแนะรูปแบบและแนวทางในการพัฒนาที่เหมาะสมต่อไป ผลของการศึกษา สรุปได้ว่า ในระดับจังหวัดนั้น จังหวัดสงขลามีระดับการพัฒนาในปัจจุบัน และศักยภาพในการพัฒนาต่อไปในอนาคตค่อนข้างสูง เนื่องจากมีปัจจัยต่างๆ ที่เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาทั้งทางด้านกายภาพ เศรษฐกิจ และสังคม อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณารายละเอียดย่อยลงไปในระดับอำเภอและตำบล จะพบว่า ระดับการพัฒนาของแต่ละพื้นที่ ตลอดจนศักยภาพในการรองรับการพัฒนายังมีความแตกต่างกันอยู่มาก โดยเฉพาะในระดับอำเภอนั้น เมื่อจำแนกพื้นที่จังหวัดออกตามศักยภาพในการรองรับการพัฒนา พบว่า พื้นที่ที่มีศักยภาพในการรองรับการพัฒนาสูง ได้แก่ อำเภอหาดใหญ่ และอำเภอเมืองสงขลา พื้นที่ที่มีศักยภาพในการรองรับการพัฒนาปานกลาง ได้แก่ อำเภอสะเดา อำเภอระโนด อำเภอรัตภูมิ อำเภอสทิงพระ และอำเภอจะนะ และพื้นที่ที่มีศักยภาพในการรองรับการพัฒนาต่ำ ได้แก่ อำเภอเทพา อำเภอนาทวี อำเภอสะบ้าย้อย กิ่งอำเภอกระแสสินธ์ และกิ่งอำเภอนาหม่อม และเมื่อวิเคราะห์รายละเอียดของการพัฒนาลึกลงไปในระดับตำบล ก็พบว่า การที่ระดับการพัฒนามีความแตกต่างกันนั้น นอกจากจะเกิดขึ้นจากข้อจำกัด และปัญหาทางด้านกายภาพ เศรษฐกิจ และสังคมแล้ว ยังเกิดขึ้นจากการใช้ประโยชน์ในทรัพยากรต่างๆ ยังไม่เต็มที่ตามศักยภาพที่มีอยู่ เมื่อพิจารณารายละเอียดทั้งในด้านศักยภาพในการรองรับการพัฒนาสภาพปัญหา และความสัมพันธ์ต่อเนื่องของพื้นที่แล้ว สามารถแบ่งพื้นที่จังหวัดสงขลาออกได้ 4 บริเวณด้วยกัน คือ 1. เขตเศรษฐกิจ-อุตสาหกรรมก้าวหน้า เป็นพื้นที่ที่มีระดับการพัฒนาสูงสุด มีความเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ดีที่สุด ได้แก่พื้นที่บริเวณตอนกลางของจังหวัด ซึ่งมีศูนย์กลางชุมชนหลักร่วมกัน 2 แห่ง คือ เทศบาลเมืองหาดใหญ่ และเทศบาลเมืองสงขลา ทำหน้าที่เป็นเมืองหลักที่จะเหนี่ยวนำการพัฒนา และกระจายบริการให้กับพื้นที่โดยรอบ 2. เขตพื้นที่แถบชายแดน เป็นพื้นที่ที่มีการเติบโตค่อนข้างรวดเร็ว อันเนื่องมาจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการค้าระหว่างประเทศกับประเทศสหพันธรัฐมาเลเซีย 3. เขตพื้นที่เกษตรที่ราบ ได้แก่ พื้นที่ทางตอนบนของจังหวัด ซึ่งเป็นที่ราบกว้างเหมาะต่อการทำนา ดังนั้น จึงเป็นแหล่งผลิตข้าวสำหรับป้อนจังหวัด สภาพเศรษฐกิจในเขตนี้ไม่เติบโตเท่าที่ควร และมีการย้ายออกของประชากรในพื้นที่มากกว่าที่อื่นๆ 4. เขตพื้นที่เกษตรกรรมที่สูง ได้แก่ พื้นที่ทางตอนใต้ของจังหวัด ซึ่งมีข้อจำกัดด้านกายภาพ เป็นพื้นที่ป่า และภูเขาเสียเป็นส่วนใหญ่ มีสมรรถนะดินเพื่อการเกษตรกรรมต่ำสภาพเศรษฐกิจในบริเวณนี้นับว่าล้าหลังที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่บริเวณอื่นๆ บทบาทของจังหวัดสงขลาในอนาคตที่มีต่อภูมิภาค คือ การเป็นศูนย์การพัฒนาเศรษฐกิจหลักของภาค มีลักษณะของการเป็นขั้วความเจริญ (Growth pole) นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่ที่เป็นศูนย์กลางด้านต่างๆ ทั้งการคมนาคมขนส่ง การศึกษา การบริหาร และการปกครอง สำหรับแนวทางในการพัฒนาที่เสนอแนะนั้น ผู้ศึกษาได้จัดทำข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างที่สำคัญๆ ได้แก่ ข้อเสนอแนะในการจัดรูปแบบการใช้ที่ดินในอนาคต การจัดระบบชุมชนที่เหมาะสม การจัดระบบและโครงข่ายการคมนาคมในอนาคต ตลอดจนการกำหนดโครงสร้าง แผนงาน และโครงการพัฒนาพื้นฐานอื่นๆ ซึ่งคาดว่าหากได้มีการนำเอาไปปฏิบัติอย่างจริงจังแล้วก็จะช่วยให้สามารถยกระดับการพัฒนาของพื้นที่ที่มีปัญหาให้สูงขึ้น รวมทั้งสามารถยกระดับและบทบาทของจังหวัดสงขลาในการทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางหลักของภาคใต้ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาพื้นที่โดยรอบอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถพัฒนาและนำเอาทรัพยากรในพื้นที่มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด อันจะช่วยลดความแตกต่างของการพัฒนาพื้นที่ และเปิดโอกาสให้ประชากรในเขตชนบทล้าหลังได้รับผลตอบแทนของการพัฒนาได้เท่าเทียมกับพื้นที่อื่นๆ

Share

COinS