Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

กระบวนการก่อเกิดกลุ่มผลประโยชน์ในประเทศไทย : ศึกษากรณีสหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

The origin and process of an interest group formation in Thailand : a case study of Thailand Sugarcane Planters Federation

Year (A.D.)

1985

Document Type

Thesis

First Advisor

กนก วงษ์ตระหง่าน

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

รัฐศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

การปกครอง

DOI

10.58837/CHULA.THE.1985.478

Abstract

วิทยานิพนธ์ฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาหรือวิเคราะห์ถึงธรรมชาติของการรวมกลุ่มของชาวไร่อ้อยเขตต่างๆ จนกระทั่งรวมตัวกันก่อตั้งเป็น “สหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย" และการแยกตัวของชาวไร่อ้อย พลวัตรการรวมตัว การคงอยู่ของกลุ่มชาวไร่อ้อย และการแยกตัวของชาวไร่อ้อยดังกล่าวอยู่บนพื้นฐานของเงื่อนไข 3 มิติ คือ 1. เงื่อนไขทางระบบความคิด คุณค่า และความเชื่อของคนไทย 2. เงื่อนไขทางอำนาจและผลประโยชน์ 3. เงื่อนไขทางสถาวะแวดล้อมทางการเมือง ผู้เขียนต้องการวิเคราะห์ว่าปัจจุบันทั้ง 3 มิติ ช่วยในการรวมกลุ่มและการแตกแยกกลุ่มชาวไร่อ้อยอย่างไร แต่การศึกษานี้จะไม่ครอบคลุมไปถึงประเด็นบทบาทของกลุ่มชาวไร่อ้อยที่มีต่อการกำหนดนโยบายของรัฐ การศึกษาครั้งนี้ตั้งอยู่บนสมมติฐานว่า “กระบวนการก่อเกิดกลุ่มผลประโยชน์ในประเทศไทย (สหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย) อยู่บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ส่วนตัว ความไว้วางใจและผลประโยชน์ที่แสดงออก" กลุ่มตัวอย่างในการศึกษาครั้งนี้คือ สหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกสมาคมกลุ่มชาวไร่อ้อยเขตต่างๆ 10 สมาคม มีกรรมการบริหารสหพันธ์ชาวไร่อ้อยฯจำนวน 51 คน ผลของการวิจัยเกี่ยวกับประเด็นของธรรมชาติการรวมกลุ่มของชาวไร่อ้อยการต่อสู้ภายในกลุ่มชาวไร่อ้อย การคงอยู่และการขัดแย้งหรือการแตกแยกของกลุ่มชาวไร่อ้อย กรณีสหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทยพบว่า กระบวนการก่อเกิดของกลุ่มชาวไร่อ้อย (สหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย) อยู่บนพื้นฐานของเงื่อนไข 3 มิติดังกล่าว (ระบบคิด คุณค่า และความเชื่อของสังคมไทย, อำนาจและผลประโยชน์และสถานการณ์ทางการเมือง) เป็นสำคัญ กล่าวคือ ปัจจัยทั้ง 3 มิติดังกล่าว มีบทบาทต่อการรวมกลุ่ม การต่อสู้ภายในกลุ่ม และการแตกแยกหรือขัดแย้งของกลุ่มชาวไร่อ้อยแต่ทั้งนี้อยู่ภายใต้โครงสร้างของสังคมชาวไร่อ้อย ซึ่งมีโครงสร้างความสัมพันธ์เชิงอุปถัมภ์กล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่าปัจจัยทั้ง 3 มิติเป็นปัจจัยที่มีนัยสำคัญต่อกระบวนการก่อเกิดของสมาคมกลุ่มชาวไร่อ้อยเขตต่างๆ จนกระทั่งรวมตัวกันภายใต้ชื่อว่า “สหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย" ระบบคุณค่าเป็นพื้นฐานที่สำคัญของสังคมชาวไร่อ้อยซึ่งปรากฎอย่างเด่นชัดว่า กลุ่มบุคคลที่มีบทบาทหรืออิทธิพลอย่างมากในการรวมกลุ่มของชาวไร่อ้อยคือหัวหน้าโควต้าที่อยู้ในฐานะผู้นำชาวไร่อ้อย ซึ่งกลุ่มบุคคลดังกล่าวมีลักษณะความเป็นเพื่อนอาชีพเดียวกัน ญาติพี่น้องและมีภูมิลำเนาเดียวกัน อันเป็นลักษณะความสัมพันธ์ส่วนตัวนอกจากนี้กลุ่มบุคคลดังกล่าวยังมีบทบาทมากในการใช้อำนาจในการจัดสรร (ต่อสู้) ผลประโยชน์ของชาวไร่อ้อยจึงไม่เป็นเรื่องแปลกที่การจัดสรรดังกล่าวจะเป็นไปเพื่อตอบสนองต่อความต้องการหรือผลประโยชน์ของกลุ่มผู้นำชาวไร่อ้อยเป็นหลัก ส่วนผลประโยชน์ร่วมของชาวไร่อ้อยเป็นเพียงกลุ่มผู้นำชาวไร่อ้อยนำมากล่าวอ้างเท่านั้น ชาวไร่อ้อยทั่วๆไปไม่มีบทบาทในการใช้อำนาจในการจัดสรรผลประโยชน์ของตนเองเท่าไรนัก บทบาทดังกล่าวตกอยู่กับกลุ่มผู้นำชาวไร่อ้อยเกือบทั้งหมด สำหรับการมช้อำนวจในการจัดสรร (ต่อสู้) ผลประโยชน์ของกลุ่มผู้นำชาวไร่อ้อยภายในกลุ่มสหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย จากผลการวิจัย พบว่า อยู่บนพื้นฐานความสัมพันธ์ส่วนตัว ความใกล้ชิด และความไว้วางใจ กล่าวอีกนัยหนึ่ง ปัจจัยดังกล่าวมีนัยสำคัญต่อการจัดสรร (ต่อสู้) ต่อผลประโยชน์ของกลุ่มผู้นำชาวไร่อ้อย สิ่งที่สำคัญยิ่งซึ่งปรากฎอย่างชัดเจนในงานวิจัยชิ้นนี้คือ ภายในกลุ่มผู้นำชาวไร่อ้อยเองไม่มีความเป็นเอกภาพเลย เป็นเพียงการประสานผลประโยชน์กันชั่วคราวเท่านั้นเอง พร้อมที่จะแยกตัวได้อยู่ตลอดเวลา ดังปรากฎอย่างชัดเจนในกรณีความขัดแย้งภายในสหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย เมื่อปี 2526 และ 2527 ผลที่สุดองค์กรชาวไร่อ้อยระดับประเทศก็มีถึง 3 กลุ่มคือ 1. สหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย 2. สมาคมชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย 3.ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย จำกัด องค์กรชาวไร่อ้อยถึง 3 กลุ่มภายใต้การนำของกลุ่มผู้นำชาวไร่อ้อยก็ได้พยายามที่จะช่วงชิงบทบาทในการใช้อำนาจในการจัดสรร (ต่อสู้) ผลประโยชน์ของชาวไร่อ้อย แต่ต่างฝ่ายก็สู้กันโดยยืนอยู่บนพื้นฐานผลประโยชน์ของกลุ่มตนเองเป็นหลักการต่อสู้ของกลุ่มผู้นำชาวไร่อ้อยดังกล่าว พยายามที่จะใช้สถานการณ์เป็นเครื่องมือในการจัดสรรผลประโยชน์แก่กลุ่มคน สามารถสรุปได่ว่า สถานการณ์มีนัยสำคัญต่อการรวมกลุ่ม การต่อสู้ การคงอยู่ และการแตกแยกของกลุ่มชาวไร่อ้อย จากการศึกษาและวิเคราะห์ในการวิจัยครั้งนี้สามารถนำมายืนยันสมมติฐานที่ว่า"กระบวนการก่อเกิดกลุ่มผลประโยชน์ในประเทศไทย (สหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย) อยู่บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ส่วนตัว ความใกล้ชิด และผลประโยชน์ที่แสดงออก" ซึ่งเป็นการทดสอบในกรอบทฤษฎีความสัมพันธ์เชิงอุปถัมภ์ที่มีต่อกระบวนการเกิดกลุ่มของคนไทยในระดับหนึ่ง

Share

COinS