Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ต้นทุนและอัตราผลตอบแทนจากการปลูกมะเขือเทศในฤดูกาล กับนอกฤดูการในภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Cost and rate of return for in season and off season of Tomato plantation investment in upper North of Thailand

Year (A.D.)

1985

Document Type

Thesis

First Advisor

มาณี วิวัฒน์วงศ์วนา

Second Advisor

ธารี หิรัญรัศมี

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

บัญชีมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

การบัญชี

DOI

10.58837/CHULA.THE.1985.441

Abstract

ในการศึกษาต้นทุนและอัตราผลตอบแทนจากการปลูกมะเขือเทศในฤดูกาล (ฤดูหนาว)กับนอกฤดูกาล (ฤดูร้อน ฤดูฝน) ในภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย ผู้วิจัยได้สำรวจข้อมูล จากเกษตรกร จำนวน 190 ราย ที่อำเภอฮอด จอมทอง สันป่าตอง สันทราย แม่ริม ฝาง จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน และอำเภอเมือง จังหวัดลำปาง โดยวิธีสุ่มตัวอย่างแบบเจาะคง (Purposive Sampling) ในระหว่างเดือนธันวาคม พ.ศ. 2526 ถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2527 จากการสำรวจพบว่า การปลูกมะเขือเทศในฤดูกาล (ฤดูหนาว) ปลูกกันบนที่ราบในที่นา ส่วนการปลูกนอกฤดูกาลในฤดูร้อน แม้จะปลูกในที่นาแต่อยู่บนที่สูงใกล้แหล่งน้ำ ส่วนการปลูกนอกฤดูกาลในฤดูฝนจะปลูกตามไหล่เขาที่สูง พื้นที่ปลูกมีการปลูกสลับพื้นที่ปลูกเดิมกับพื้นที่ปลูกใหม่ การปลูกมะเขือเทศในฤดูกาลและนอกฤดูกาลในฤดูร้อน ฤดูฝนมีต้นทุนเฉลี่ยไร่ละ 3,765.46 บาท 14,361.89 บาทและ 16,622.26 บาทตามลำดับ จะเห็นว่าการปลูกมะเขือเทศฤดูหนาว มีต้นทุนต่ำกว่าการปลูกมะเขือเทศในฤดูร้อนและฤดูฝนเฉลี่ยไร่ละ 10 ,596 .43 บาทและ 12,856.80 บาทตามลำดับ ผลแตกต่างของต้นทุนส่วนใหญ่มาจากค่าวัสดุอุปการณ์การเกษตรด้านยาปราบศัตรูพืชของการปลูกมะเขือเทศนอกฤดูกาลสูงกว่าการปลูกมะเขือเทศในฤดูกาล จากการวิเคราะห์อัตราผลตอบแทนจากการปลูกมะเขือเทศ สรุปได้ว่าการปลูกมะเขือเทศ ในฤดูกาลและนอกฤดูกาล (ฤดูร้อน ฤดูฝน) ให้อัตราผลตอบแทนในด้านการลงทุนของเกษตรกรมีกำไรที่เป็นเงินสดคิดเป็นร้อยละต่อไร่เท่ากับ 40.39, 31.77 และ 51.98 ตามสำดับมีGross Ratio ในด้านการวัดสถานภาพรายได้-ค่าใช้จ่ายของฟาร์ม 112.75, 90 และ 58 ตามลำดับ ส่วนในด้านเศรษฐกิจมีอัตราผลตอบแทนต่อต้นทุนการปลูกต่อไร (11.30), 10.64 และ 72.05 ตามลำดับ และในด้านการจัดการฟาร์ม มีอัตรารายได้เหนือค่าใช้จ่ายที่แท้จริงต่อค่าใช้จ่ายที่แท้จริงต่อไร่เท่ากับ 66.72, 46.08 และ 107 .52 ตามลำดับ ส่วนการเปรียบเทียบอัตราผลตอบแทนจากการปลูกมะเขือเทศในฤดูหนาวกับฤดูร้อนไม่สามารถสรุปได้ว่า อัตราผลตอบแทน ในทุกด้านฤดูกาลสูงใดสูงกว่า แต่เมื่อศึกษาอัตราผลตอบแทนในแต่ละด้านแล้วพบว่า ในด้านการลงทุนของเกษตรกรและในด้านการจัดการฟาร์มของการปลูกมะเขือเทศในฤดูหนาวสูงกว่าในฤดูร้อนเท่ากับ 8.62 และ 20.64 เนื่องจากในฤดูหนาวเกษตรกรใช้แรงงานตนเองมากกว่าการจ้างงาน ทำให้มีค่าใช้จ่ายที่เป็นตัวเงินน้อยกว่าในฤดูร้อน ส่วนในด้านการวัดสถานภาพรายได้-ค่าใช้จ่ายของฟาร์มและในด้านเศรษฐกิจของการปลูกมะเขือเทศในฤดูร้อนสูงกว่าฤดูหนาว 22.75 และ 21.94 เนื่องจากการปลูกมะเขือเทศในฤดูร้อนมีผลผลิตในเกณฑ์ดีและมีราคาขายสูง ส่วนการเปรียบเทียบอัตราผลตอบแทนจากการปลูกมะเขือเทศในฤดูหนาวกับฤดูฝน ปรากฏว่าการปลูกมะเขือเทศในฤดูฝนให้อัตราผลตอบแทนในทุกด้านสูงกว่าฤดูหนาว คือในด้านการลงทุนของเกษตรกรสูงกว่า 11.59 ในด้านการวัดสถานภาพรายได้-ค่าใช้จ่ายของฟาร์มสูงกว่า 54.75 ในด้านเศรษฐกิจสูงกว่า 83.35 และในด้านการจัดการฟาร์มสูงกว่า 40 .80 เนื่องจากการปลูกมะเขือเทศในฤดูฝนให้ผลผลิตในเกณฑ์ ดีและมีราคาขายสูง ปัญหาที่เกษตรกรประสบมากคือ การขาดความรู้ในด้านการป้องกันและจำกัดศัตรูของ มะเขือเทศ อันเป็นเหตุทำให้ต้นทุนการปลูกสูงขึ้น ได้ผลผลิตในเกณฑ์ต่ำ ทำให้มีรายได้ต่ำไปด้วย ฉะนั้นหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง จึงควรให้ความรู้ทางด้านการดูแลรักษามะเขือเทศโดย เฉพาะ ในด้านการใช้ยาปราบศัตรูพืชและด้านการตลาด

Share

COinS