Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
การศึกษาต้นทุนการผลิตแอลกอฮอล์จากพืชผลทางการเกษตร เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิง
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
A study on the cost of production of alcohol as fuel from agricultural produce
Year (A.D.)
1985
Document Type
Thesis
First Advisor
กัญญา นวลแข
Second Advisor
เอกไทย วงศ์สวัสดิ์กูล
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
บัญชีมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
การบัญชี
DOI
10.58837/CHULA.THE.1985.437
Abstract
ประเทศไทยต้องขาดดุลการชำระเงินตราต่างประเทศปีหนึ่ง ๆ เป็นจำนวนมหาศาล โดยเฉพาะในด้านการนำเข้าเชื้อเพลิงเหลวประเภทน้ำมันดิบ และน้ำมันสำเร็จรูป ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงที่สั่งซื้อจากต่างประเทศในแต่ละปีประมาณร้อยละ 30-40 ของงบประมาณแผ่นดิน และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ตามราคาของน้ำมันดิบระหว่างชาติ ซึ่งเป็นที่น่าวิตกกังวลอย่างยิ่งสำหรับรัฐบาล จึงจำเป็นต้องมีการสำรวจและศึกษาเพื่อหาแหล่งพลังงานอย่างอื่นมาทดแทน พลังงานจากแอลกอฮอล์นับได้ว่ามีความเป็นไปได้สูงสุดในการแก้ไขวิกฤตการณ์เชื้อเพลิงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต วิทยานิพนธ์ฉบับนี้จะศึกษาถึงต้นทุนการผลิตแอลกอฮอล์จากพืชผลทางการเกษตรเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทนน้ำมัน โดยแบ่งแยกศึกษาเป็น 4 กรณี ตามประเภทวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตอันได้แก่ อ้อย มันสำปะหลัง กากน้ำตาล และกรณีศึกษาที่ 4 เป็นกรณีที่ใช้วัตถุดิบหลายชนิดรวมกัน ตลอดจนศึกษาถึงปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ในการที่จะประกอบการผลิตแอลกอฮอล์เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิง จากการศึกษาพบว่าต้นทุนการผลิตแอลกอฮอล์จากอ้อยราคาลิตรละ 9.88 บาท จากมันสำปะหลังราคาลิตรละ 7.03 บาท จากกากน้ำตาลราคาลิตรละ 6.23 บาท และจากการใช้วัตถุดิบหลายชนิดรวมกันราคาลิตรละ 7.38 บาท ต้นทุนการผลิตแอลกอฮอล์ส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วยต้นทุนของวัตถุดิบ และแม้นว่าพื้นที่การเกษตรส่วนใหญ่ของประเทศจะมีความเหมาะสมในการปลูกอ้อยและมันสำปะหลังก็ตาม ก็ยังมีปัญหาในเรื่องราคาของวัตถุดิบ ทั้งนี้เนื่องจากราคาของอ้อยและมันสำปะหลังของประเทศไทยผูกพันอยู่กับราคาของตลาดโลก ราคาจึงเปลี่ยนแปลงขึ้นลงตามความต้องการของตลาดโลก ซึ่งมีผลทำให้ต้นทุนการผลิตแอลกอฮอล์จากวัตถุดิบเหล่านี้ค่อนข้างสูง เพื่อแก้ปัญหาความไม่แน่นอนของราคาวัตถุดิบนี้ รัฐบาลควรจะกำหนดมาตรการที่เหมาะสมในการควบคุมราคาของพืชผลเกษตรเหล่านี้ไม่ให้มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก โดยจะต้องระวังมิให้เกิดผลผลิตส่วนเกินในประเทศซึ่งจะมีผลทำให้เกษตรกรสูญเสียรายได้และเกิดการว่างงานในอุตสาหกรรมที่ต่อเนื่องจากการผลิตอ้อยและมันสำปะหลังด้วย ปัญหาที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือปัญหาด้านการตลาด เนื่องจากการจำหน่ายแอลกอฮอล์ในขณะนี้ดำเนินการโดยองค์การของรัฐบาล ผู้ที่จะประกอบการผลิตจึงไม่แน่ใจว่าจะนำแอลกอฮอล์ที่ผลิตได้ไปจำหน่ายให้กับผู้ใด ประกอบกับมาตรการส่งเสริมต่าง ๆ จากภาครัฐบาลในเรื่องภาษีสรรพสามิต และวิธีการผสมแอลกอฮอล์กับน้ำมันเบนซินก็ยังไม่เด่นชัด จึงทำให้ไม่มีผู้ใดลงทุนสร้างโรงงานเพื่อดำเนินการผลิตอย่างจริงจัง ดังนั้น เพื่อจูงใจให้ผู้ลงทุนเกิดความมั่นใจและเต็มใจที่จะลงทุนในอุตสาหกรรมนี้ รัฐบาลจึงควรกำหนดวิธีการ มาตรการในด้านการส่งเสริมให้มีการผลิตแอลกอฮอล์เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงอย่างชัดเจน เช่น กำหนดภาษีสำหรับการผลิตเชื้อเพลิงแอลกอฮอล์ให้ต่ำที่สุดเท่าที่รัฐจะทำได้เพื่อตรึงราคาแอลกอฮอล์ต่อลิตรให้ต่ำ กำหนดภาษีสำหรับเครื่องยนต์ที่ใช้เบนซินให้สูงกว่าเครื่องยนต์ที่ใช้แอลกอฮอล์ นอกจากนี้รัฐบาลจะต้องเตรียมเร่งพัฒนาเทคโนโลยีและกำลังคนไว้ให้พร้อมเพื่อการใช้ในโรงงานผลิตแอลกอฮอล์ในอนาคต
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
ฉันทศาสตร์โกศล, มัญชรี, "การศึกษาต้นทุนการผลิตแอลกอฮอล์จากพืชผลทางการเกษตร เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิง" (1985). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 53943.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/53943