Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
การศึกษาต้นทุนและอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนปลูกหน่อไม้ฝรั่งที่หุบกะพง
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
A study on cost and rate of return on investment in asparagus plantation at Hupkapong
Year (A.D.)
1985
Document Type
Thesis
First Advisor
ฉัตร ช่ำชอง
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
บัญชีมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
การบัญชี
DOI
10.58837/CHULA.THE.1985.432
Abstract
หน่อไม้ฝรั่งเป็นพืชผักชนิดหนึ่งที่มีคุณค่าทางอาหารเช่นเดียวกับพืชผักชนิดอื่น และเป็นที่นิยมบริโภคในประเทศทางทวีปยุโรปและสหรัฐอเมริกา สำหรับประเทศรู้จักหน่อไม้ฝรั่งกันเมื่อประมาณ 30 ปี มานี้ เนื่องจากหน่อไม้ฝรั่งเป็นพืชผักที่ปลูกง่ายและให้ผลผลิตสูง กอร์ปกับประเทศไทยมีสภาพดินฟ้าอากาศที่เหมาะสม จึงทำให้โครงการลงทุนปลูกหน่อไม้ฝรั่งเป็นโครงการที่น่าสนใจโครงการหนึ่ง วัตถุประสงค์หลักของวิทยานิพนธ์นี้ ก็เพื่อทำการศึกษาต้นทุนและอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนปลูกหน่อไม้ฝรั่ง วิธีการศึกษากระทำโดยการออกแบบสอบถามเพื่อนำไปสัมภาษณ์เกษตรกรผู้ปลูกหน่อไม้ฝรั่งในโครงการพระราชดำริ หมู่บ้านสหกรณ์ในโครงการหุบกะพง อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี และเกษตรกรผู้ปลูกหน่อไม้ฝรั่งนอกโครงการพระราชดำริ หมู่บ้านหนองขาว อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี สำหรับการวิเคราะห์ต้นทุนการผลิตและอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน จะแบ่งการวิเคราะห์ตามขนาดพื้นที่ คือขนาดเล็กไม่เกิน 2 ไร่ ขนาดกลางมากกว่า 2 ไร่ ถึง 5 ไร่ และขนาดใหญ่มากกว่า 5 ไร่ นอกจากนี้ยังทำการเปรียบเทียบระหว่างเกษตรกรที่ทำการผลิตหน่อไม้ฝรั่งในโครงการพระราชดำริกับการเกษตรที่อยู่นอกโครงการพระราชดำริ ในแต่ละขนาดก็ทำการวิเคราะห์อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนโดยวิธีระยะเวลาคืนทุน วิธีมูลค่าปัจจุบันสุทธิและวิธีอัตราผลตอบแทนที่แท้จริง ซึ่งใช้อัตราส่วนลดร้อยละ 15 ต่อปี ผลจากการศึกษาปรากฏว่า การลงทุนปลูกหน่อไม้ฝรั่งของเกษตรกรในโครงการพระราชดำริ มีต้นทุนในการผลิตไร่ละ 65,226.25 บาทต่อไร่ สำหรับฟาร์มขนาดเล็ก 62,959.11 บาทต่อไร่ สำหรับฟาร์มขนาดกลาง 55,900.81 บาทต่อไร่ สำหรับฟาร์มขนาดใหญ่อัตราผลตอบแทนที่แท้จริงสำหรับฟาร์มขนาดเล็ก 15.32% ขนาดกลาง 27.97% และขนาดใหญ่54.98% ระยะเวลาการจ่ายคืนทุนสำหรับฟาร์มขนาดเล็กคือ 2 ปี 11 เดือน ขนาดกลาง 2 ปี 8 เดือน และในขนาดใหญ่ 2 ปี 2 เดือน ในการวิเคราะห์ข้อมูลค่าปัจจุบันสุทธิสำหรับฟาร์มขนาดเล็กเท่ากับ 76.02 บาทต่อไร่ ขนาดกลาง 3,270.95 ต่อไร่ และขนาดใหญ่ 9,140.65 บาทต่อไร่ สำหรับเกษตรกรนอกโครงการพระราชดำรินั้น ต้นทุนเฉลี่ยต่อไร่สำหรับฟาร์มขนาดเล็ก 63,528.70 บาท ขนาดกลาง 64,922.27 บาท ขนาดใหญ่ 63,288.41 บาท อัตราผลตอบแทนที่แท้จริงสำหรับฟาร์มขนาดเล็กคือ 12.31% ขนาดกลาง 12.5% และขนาดใหญ่ 28.59% ระยะที่จ่ายคืนทุนสำหรับฟาร์มขนาดเล็กคือ 2 ปี 11.5 เดือน ขนาดกลาง 3 ปี และขนาดใหญ่ 2 ปี 7 เดือน มูลค่าปัจจุบันสุทธิสำหรับฟาร์มขนาดกลางเท่ากับ -731.21 บาทต่อไร่ ขนาดกลาง -697.14 บาทต่อไร่ และขนาดใหญ่ 2,869.55 บาทต่อไร่ เมื่อเปรียบเทียบผลการวิเคราะห์แล้ว จะเห็นได้ว่าการลงทุนปลูกหน่อไม้ฝรั่งของเกษตรกรในโครงการพระราชดำริจะให้ผลอัตราตอบแทนสูงกว่าการลงทุนของเกษตรกรนอกโครงการพระราชดำริ อนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกษตรกรในโครงการพระราชดำริได้รับอัตราผลตอบแทนสูงกว่าก็คือ ราคาจำหน่ายของเกษตรกรซึ่งจำหน่ายผ่านสหกรณ์การเกษตรกรหุบกะพง ปัญหาในการผลิตของเกษตรกร ได้แก่ ปัญหาการขาดแคลนน้ำ ปัญหาดินไม่ดี ปัญหาโรคพืช ปัญหาด้านทุนการผลิตและปัญหาด้านการตลาด สำหรับข้อเสนอแนะที่เป็นแนวทางในการแก้ปัญหาต่างๆ นั้นคือ การขยายเขตชลประทาน การเพิ่มปริมาณปุ๋ย การร่วมมือการจัดตั้งสหกรณ์การการเกษตรสำหรับการเกษตรนอกโครงการพระราชดำริเพื่อให้สหกรณ์ดำเนินการจัดจำหน่ายผลิตผลและหาปัจจัยผลิตมาจำหน่ายให้ในราคาที่ยุติธรรม
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
โกสุม, ปรียานุช, "การศึกษาต้นทุนและอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนปลูกหน่อไม้ฝรั่งที่หุบกะพง" (1985). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 53938.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/53938