Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาเกี่ยวกับไฟถนนบนผิวถนนคอนกรีตและแอสฟัลท์

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

A study of road lighting on concrete and asphaltic road surfaces

Year (A.D.)

1984

Document Type

Thesis

First Advisor

ประโมทย์ อุณห์ไวทยะ

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

วิศวกรรมไฟฟ้า

DOI

10.58837/CHULA.THE.1984.514

Abstract

การออกแบบติดตั้งไฟถนนในประเทศไทยปัจจุบันนี้ ได้จากการคำนวณค่าความสว่างบนผิวถนน แต่ปัจจุบันในต่างประเทศเริ่มใช้การคำนวณค่าความส่องสว่างบนผิวถนน ดังนั้นวิทยานิพนธ์เรื่องนี้จึงได้ศึกษาการติดตั้งไฟถนนโดยคิดจากทั้งความสว่างบนผิวถนนและความส่องสว่างของผิวถนน ซึ่งเน้นศึกษากับผิวถนนที่ เป็นคอนกรีตและแอสฟัลท์ ทั้งนี้เพราะเป็นผิวถนนที่ใช้งานเป็นส่วนมาก กับถนนสายหลักๆ ในประเทศไทย ในการศึกษาได้เลือกตัวอย่างการติดตั้งไฟถนนที่เป็นทางตรงและผิวถนนแห้ง 4 แห่งคือ ถนนรัชดาภิเษกช่วงที่มีผิวถนนเป็นคอนกรีตและช่วงที่มีผิวถนนเป็นแอสฟัลท์ ทางด่วนดินแดง-บางนา ช่วงถนนเพชรบุรีตัดใหม่ถึงท่าเรือ ซึ่งมีผิวถนนเป็นแอสฟัลท์ และแห่งสุดทายคือถนนมุขมนตรี อำเภอเมืองจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งมีผิวถนนเป็นแอสฟัลท์ เช่นกันการคำนวณค่าความสว่างและความส่องสว่างแต่ละจุดบนผิวถนนได้ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เข้าช่วย จากนั้นได้ใช้ลูมิแนนซ์มิเตอร์วัดค่าความส่องสว่างในสนามและถ่ายภาพสไสด์สีเพื่อวัดเทียบหาค่าความส่องสว่างจุดอื่นๆ ตามต้องการ จากการคำนวณจะได้ว่าเมื่อมีการติดตั้งไฟถนนแบบเดียวกัน และสภาพถนนเหมือนกันต่างกัน เฉพาะที่มีผิวถนน เป็นคอนกรีตและแอสฟัลท์เท่านั้น ดังที่ถนนรัชดาภิเษก ผลค่าความสว่างจะมีค่าเท่ากันและอยู่ในพิกัดมาตรฐานของสมาคมวิศวกรรมไฟฟ้า แสงสว่าง (IES) แต่ผลค่าความส่องสว่างและคุณลักษณะความส่องสว่างของผิวถนนคอนกรีตจะอยู่ ในพิกัดตามคำแนะนำของคณะกรรมการวิศวกรรมไฟฟ้าแสงสว่าง (CIE) ส่วนผิวถนนแอสฟัลท์จะได้ ค่าความสม่ำเสมอทั้งหมดความสม่ำเสมอตามแนวยาวของถนนและค่า discomfort glare ต่ำกว่าพิกัดเล็กน้อย ส่วนทางด่วนดินแดง-บางนา จะมีเฉพาะค่า discomfort glare เท่านั้นที่ต่ำกว่าพิกัด เล็กน้อย และสำหรับที่ถนนมุขมนตรีก็จะได้ว่าค่าความสม่ำเสมอทั้งหมด disability glare และ discomfort glare ต่ำกว่าพิกัด เล็กน้อย จากการวัดค่าความส่องสว่างของผิวถนนตัวอย่างทั้ง 4 แห่ง เมื่อถนนผ่านการใช้งาน แล้วระยะหนึ่ง จะได้ผลว่าคุณลักษณะความส่องสว่างของผิวถนนคอนกรีตยังคงอยู่ในพิกัด ส่วนผิวถนนแอสฟัลห์ทั้งหมดจะมีค่าความสม่ำเสมอลดลงอย่างมาก แต่ค่า disability glare และ discomfort glare จะดีขึ้นอย่างมาก ซึ่งจะเป็นผลให้การสังเกตเห็นวัตถุหรือคนเดินเท้าขณะขับขี่ยวดยานไปบนถนนยังคงเป็นไปได้ด้วยดี และหากต้องการปรับปรุงให้ค่าความสม่ำเสมอทั้งหมด ของความส่องสว่างดีขึ้น ก็อาจใช้หินละเอียดโรยบนผิวหน้าของถนนแอสฟัลท์ก็ได้ในตอนสุดท้าย ได้คำนวณวิเคราะห์ผลว่า ถ้าต้องการคำนวณออกแบบไฟถนนทั้ง 4 แห่ง โดยคิดจากค่าความส่องสว่างแล้ว การติดตั้งควรจะเป็นอย่างไร

Share

COinS