Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การประเมินความรู้และความเข้าใจในเรื่องหลักการฝึกอบรม หลักการและวิธีดำเนินงานในโครงการฝึกอบรมด้านสาธารณสุขมูลฐานของครูฝึกระดับจังหวัด-อำเภอ และครูฝึกระดับตำบลในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

An evaluation of cognitive aspects in training concepts, principles and implementation of the primary health care training project of provincial-district trainers and tambol trainers in the Northeastern part of Thailand

Year (A.D.)

1984

Document Type

Thesis

First Advisor

อุ่นตา นพคุณ

Second Advisor

ประสิทธิ์ ลีระพันธ์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

วิจัยการศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1984.259

Abstract

การวิจัยเรื่องนี้มุ่งที่จะประเมินระดับความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการสาธารณสุขมูลฐาน 3 เรื่อง คือ หลักการฝึกอบรม หลักการและวิธีดำเนินในโครงการฝึกอบรมด้านสาธารณสุขมูลฐานของครูฝึกระดับจังหวัด-อำเภอและตำบลในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเปรียบเทียบความแตกต่างของความรู้ ความเข้าใจของครูฝึกทั้ง 2 ระดับ ตลอดจนหาความสัมพันธ์ของระดับความรู้แต่ละเรื่องของครูฝึกแต่ละระดับด้วยโดยกลุ่มตัวอย่างประชากรประกอบด้วยครูฝึกระดับจังหวัด-อำเภอ และครูฝึกระดับตำบลในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ได้รับการฝึกอบรมในโครงการสาธารณสุขมูลฐานในระหว่างปี 2520-2524 ซึ่งได้รับการสุ่มแบบแยกประเภทจำนวน 150 และ 312 คนตามลำดับ ผู้วิจัยได้ใช้แบบสอบที่สร้างขึ้นและมีคุณภาพเพียงพอนำมาใช้เก็บรวบรวมข้อมูล ข้อมูลที่ได้รับนำมาวิเคราะห์โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปสำหรับการวิจัยทางสังคมศาสตร์ด้วยการหาค่าเฉลี่ย ร้อยละ การทดสอบ ค่าที การวิเคราะห์ความแปรปรวน และการหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน ผลการวิจัยพบว่า 1. ครูฝึกระดับจังหวัด-อำเภอและตำบลมีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องหลักการฝึกอบรม หลักการและวิธีดำเนินโครงการสาธารณสุขมูลฐานคิดเป็นร้อยละ 67.76 และ 59.93 ของคะแนนทั้งหมด ในขณะที่เกณฑ์ประเมินสำหรับครูฝึกระดับจังหวัด-อำเภอ และตำบลมีค่าระดับความรู้ต่ำสุดที่ยอมรับได้คิดเป็นร้อยละ 75.75 และ 69.47 ตามลำดับ ซึ่งครูฝึกทั้งสองระดับมีความรู้ ความเข้าใจต่ำกว่าเกณฑ์ประเมินอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 2. ครูฝึกระดับจังหวัด-อำเภอ มีความรู้ ความเข้าใจสูงกว่าครูฝึกระดับตำบลทั้ง 3 เรื่องโดยมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 ในเรื่องหลักการ หลักการฝึกอบรม และความรู้ ความเข้าใจทั้ง 3 ด้านรวมกัน และที่ระดับ .01 สำหรับเรื่องวิธีดำเนินโครงการ 3. ความรู้ ความเข้าใจในเรื่องหลักการของโครงการของครูฝึกระดับจังหวัด-อำเภอและตำบลรวมทั้งของกลุ่มครูฝึกทั้งหมด มีความสัมพันธ์ในทางบวกกับความรู้ ความเข้าใจในเรื่องหลักการฝึกอบรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 และมีค่าความสัมพันธ์เท่ากับ .5601 .4448 และ .5114 ตามลำดับ 4. ความรู้ ความเข้าใจในเรื่องหลักการของโครงการของครูฝึกระดับจังหวัด-อำเภอและตำบลรวมทั้งของกลุ่มครูฝึกทั้งหมด มีความสัมพันธ์ในทางบวกกับความรู้ ความเข้าใจในเรื่องวิธีดำเนินโครงการอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 เช่นกัน และมีค่าความสัมพันธ์เท่ากับ .4494 .5032 และ .4998 ตามลำดับ 5. การเปรียบเทียบความรู้ ความเข้าใจในหลักการทั้ง 3 ด้าน ของครูฝึกทั้งสองระดับแยกตามตัวแปรต่างๆ พบว่า 5.1 ครูฝึกกลุ่มอายุ 41.60 ปี มีความรู้ ความเข้าใจสูงกว่ากลุ่มอายุ 20.40 ปี อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 5.2 ครูฝึกที่มีการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป ระดับอนุปริญญาและระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพลงมามีความรู้ ความเข้าใจแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 ในขณะที่ครูฝึกซึ่งรับผิดชอบในโครงการสาธารณสุขมูลฐานทุกด้าน ครูฝึกที่ทำหน้าที่ฝึกอบรมอย่างเดียว และครูฝึกที่รับผิดชอบเฉพาะหน้าที่อื่นๆ ซึ่งไม่ใช่การฝึกอบรมมีความรู้ ความเข้าใจแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 5.3 ครูฝึกอบรมทั้ง 2 ระดับที่มีความแตกต่างกันทางด้านสถานภาพทางการสมรส ปี และจำนวนวันที่เข้ารับการฝึกอบรม มีความรู้ ความเข้าใจไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

Share

COinS