Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ความคาดหวังของคณะกรรมการร่างจรรยาครู ครู ผู้ปกครอง และนักเรียนต่อจริยธรรมที่สำคัญสำหรับครู

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

The expectation of teacher ethics drafting committee, teachers, parents and students on important ethics for teachers

Year (A.D.)

1984

Document Type

Thesis

First Advisor

ดิเรก ศรีสุโข

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

วิจัยการศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1984.254

Abstract

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความคาดหวังของกรรมการร่างจรรยาครู ครู ผู้ปกครอง และนักเนียนที่มีต่อจริยธรรมที่สำคัญสำหรับครู และที่ควรกำหนดเป็นจรรยาครู การวิจัยนี้ใช้แบบสอบถามซึ่งประกอบด้วยข้อถามด้านจริยธรรมพื้นฐาน และจริยธรรมสำหรับวิชาชีพจำนวน 80 เป็นเครื่องมือรวบรวมข้อมูล ข้อมูลที่ใช้วิเคราะห์ได้จากตัวอย่างกรรมการร่างจรรยาครูของคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ ครู ผู้ปกครอง นักเรียน ในเขต กรุงเทพมหานคร รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,442 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของคะแนนความคาดหวัง และเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างคะแนนเฉลี่ยความคาดหวังของประชากรทั้ง 4 กลุ่มเป็นรายข้อโดย F-test และศึกษาว่ากลุ่มใดคาดหวังแตกต่างกันที่ระดับความมีนัยสำคัญที่ .05 โดยเทคนิค เชฟเฟ ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1. กรรมการร่างจรรยาครู ครู ผู้ปกครอง และนักเรียน คาดหวังต่อจริยธรรมที่สำคัญสำหรับครู ในระดับสูง คือสำคัญอย่างยิ่งจำนวน 12 ข้อ สำคัญมาก 67 ข้อ และสำคัญพอควร 1 ข้อ จริยธรรมที่ได้รับความคาดหวังในระดับสำคัญอย่างยิ่งได้แก่ มีความซื่อสัตย์สุจริตไม่ฉ้อราษฎร์บังหลวง ไม่ประพฤติตัวเสเพลเป็นนักเลงการพนันหรือชอบอบายมุข ยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไม่ละทิ้งการสอน เคารพและปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ทำผิดเรื่องชู้สาว ไม่ลักทรัพย์ ไม่นำผลงานทางวิชาการของตนไปใช้ในทางทุจริตหรือเป็นภัยต่อมนุษยชาติ ให้คะแนนอย่างเที่ยงตรง รักและศรัทธาในอาชีพครูอุทิศตนเพื่อศิษย์และการศึกษา มีระเบียบวินัย ต้องรักษาชื่อเสียงมิให้ขึ้นชื่อว่าประพฤติชั่ว 2. เปรียบเทียบความคาดหวังที่มีต่อจริยธรรมที่สำคัญสำหรับครูของประชากรทั้ง 4 กลุ่มปรากฏว่า ประชากรทั้ง 4 กลุ่ม มีความคาดหวังแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ .05 จำนวน 55 ข้อ โดยแตกต่างกันเป็นรายคู่จำนวน 45 ข้อ คู่ที่แตกต่างกันเป็นจำนวนสูงสุดได้แก่ ครูกับนักเรียน คู่ที่สอดคล้องกันมากที่สุดได้แก่นักเรียนกับผู้ปกครอง กรรมการร่างจรรยาครูคาดหวังค่อนข้างต่ำกว่า ครู ผู้ปกครอง และนักเรียน 3. ประชากรทั้ง 4 กลุ่ม คาดหวังต่อจริยธรรมที่ควรกำหนดเป็นจรรยาครูในระดับสูง โดยคาดหวังว่าควรกำหนดเป็นจรรยาครูอย่างยิ่ง จำนวน 3 ข้อ ได้แก่ ไม่ประพฤติตัวเสเพลเป็นนักเลงการพนันหรือชอบอบายมุข มีความซื่อสัตย์สุจริตไม่ฉ้อราษฎร์บังหลวง ยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เปรียบเทียบความคาดหวังที่มีต่อจริยธรรมที่ควรกำหนดเป็นจรรยาครูของประชากรทั้ง 4 กลุ่ม ปรากฏว่าประชากรทั้ง 4 กลุ่มมีความคาดหวังแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ .05 จำนวน 72 ข้อ แตกต่างกันเป็นรายคู่จำนวน 67 ข้อ โดยทั่วไปพบว่านักเรียนและผู้ปกครองคาดหวังสูงกว่าครูและกรรมการร่างจรรยาครู 4. เมื่อเปรียบเทียบความคาดหวังของประชากรทั้ง 4 กลุ่มต่อจรรยาครูของคณะกรรมการศึกษาแห่งชาติ (ระบุเป็นจริยธรรมในแบบสอบถามจำนวน 29 ข้อ) ซึ่งกำหนดเป็นหมวดอุดมการณ์ของครู 2 ข้อ หมวดเอกลักษณ์ของครู 13 ข้อ หมวดมาตรฐานการปฏิบัติตนของครู 14 ข้อ ปรากฏว่าประชากรคาดหวังในระดับสำคัญอย่างยิ่งจำนวน 8 ข้อ เป็นหมวดอุดมการณ์ของครู 1 ข้อ ได้แก่ รักและศรัทธาในอาชีพครูอุทิศตนเพื่อศิษย์ และการศึกษา หมวดเอกลักษณ์ของครู 1 ข้อ ได้แก่ ให้คะแนนอย่างเที่ยงตรง และหมวดมาตรฐานปฏิบัติตนของครู 6 ข้อ ได้แก่ มีความซื่อสัตย์สุจริตไม่ฉ้อราษฎร์บังหลวง ไม่ยุยงผู้คนให้เกิดความแตกร้าวกัน ยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ต้องรักษาชื่อเสียงมิให้ขึ้นชื่อว่าประพฤติชั่ว ไม่นำผลงานทางวิชาการของตนไปใช้ในทางทุจริตหรือเป็นภัยต่อมนุษยชาติ ไม่ละทิ้งการสอน จรรยาครูของคณะกรรมการศึกษาแห่งชาติที่นอกเหนือจากนี้อีก 21 ข้อ ได้รับความคาดหวังในระดับสำคัญมาก

Share

COinS